นาวกาวป่วนเมือง
ผมอยากอยู่ที่นี่เพราะได้อยู่กับเพื่อน ๆ รวมทั้งได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ตอนเช้าลุกขึ้นมาเอาผักไปแช่น้ำเกลือ แต่เพราะอากาศมันหนาวมาก...ก็ต้องทน อาเสือตื่นขึ้นมาช่วยด้วย ผมอยู่ อาเสือก็เลยอยู่ตาม ทุกคนไม่ได้ว่าอะไร ดีซะอีก...เพราะได้แรงงานเพิ่มมาอีกตั้งหนึ่ง
สาย ๆ ไอ้นาวมันถึงจะตื่น มันเป็นคนเดียวในค่ายที่ได้อภิสิทธิ์นั้น
“ให้นาวได้นอนเถอะลูก”อาจารย์นาย ผู้ดูแลเราชาวค่ายทั้งหลายกล่าว เป็นอะไรที่ทุกคนเห็นด้วย เพราะมันคนเดียว ทำให้วุ่นวายกันไปทั้งหมด มันเดินซุ่มซ่ามทำจานแตก เมื่อวานก็เกิดความคิดบ้า ๆ จะฆ่าปลาด้วยมือเปล่า ทุกคนลงความเห็นว่า งานที่มันทำได้ดีที่สุด และไม่บ่นคือ เล่นกับเด็กและเก็บผัก
ผมนั่งเล่นรอไอ้เพื่อนบ้าตื่น วันนี้เวรอยู่กับมันอีกแล้ว อาเสือเอาโอวัลตินมาให้
“ไม่เอา”ผมบอกหน้ามุ่ย ยังไม่อยากคุยมากคำกับอาเสือ ตอนกลางคืนเรานอนด้วยกัน...แต่ตอนกลางวันห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด ผมยื่นคำขาด...ถ้าจะอยู่ ก็ทำตัวให้เหมือนอาโชติ ตามดูแลได้..ห่าง ๆ เพียงเท่านั้น
“จิบนิดนึง ลูกจะได้กินด้วย”เสียงทุ้มร้องบอก แต่เป็นคำที่ทำให้ผมหงุดหงิดทุกที เห็นทีเราต้องคุยเรื่องนี้อย่างจริงจัง!!!!!! ก่อนเริ่มประโยคสนทนาผมกัดปาก เอามือเกาะท้องตัวเองอย่างหวงแหน ให้ตายก็ไม่ยอมให้ใครเอาไปหรอก บอกไว้ก่อนเลย!
“ในนี้ของกาวคนเดียว! คนอื่นไม่มีสิทธิ์”บอกด้วยน้ำเสียงถือดี อาเสือหน้าเริ่มนิ่งขึ้น
“ไม่มีงั้นเหรอ? อาเป็นคนอื่นงั้นเหรอ?”
“...........................................”ผมเงียบ
“บอกสิ อาไม่มีสิทธิ์ตรงไหน”
“.........................................”ไม่ตอบเพราะไม่อยากพูด
“ถ้าอาไม่ทำ กาวจะท้องไหม? กาวจะได้เขามาอยู่ด้วยไหม?”อาเสือบ้าเริ่มทวงถาม
“.........................................”หันไปมองทางอื่น
“อาเป็นคนอื่นแล้วเหรอ”
“ชะ ใช่”ตอบออกไปทั้งที่เสียงตัวเองก็สั่น อยากร้องไห้...เสียใจอยู่เหมือนกันที่พูดออกไปแบบนั้น แต่ปากมันพ่นออกไปแล้ว จะให้ทำยังไง ความรู้สึกทุกอย่างมันหนักอึ้งจนบอกไม่ถูก ได้ยินเสียงอาเสือถอนหายใจ ก่อนจะวางแก้วโอวัลตินไว้ใกล้มือ
“ดื่มซะ ลูกจะได้กินด้วย”แล้วเดินออกไป ผมนั่งค้างอยู่นาน จนขยับเสื้อกันหนาวตัวหนาของตัวเองให้เข้าที่ขึ้น อากาศแม้ยามมีแดดขนาดนี้ ความหนาวเย็นก็ไม่ได้ลดลงไปเลย เด็ก ๆ บอกว่าถ้าขึ้นไปสูงกว่านี้จะเห็นหมอก แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไป
นานจนโอวัลตินเริ่มเย็น ผมเหล่ตามองว่ามีใครแอบมองอยู่รึเปล่า หันมองซ้ายขวา...ก็ไม่มี จึงหยิบโอวัลตินแก้วที่ว่าขึ้นมายกดื่มจนหมด ก่อนจะลุกเข้าไปปลุกไอ้ตัวที่นอนกินบ้านอยู่ข้างบน!
“มึงจะนอนถึงพรุ่งนี้เลยไหม ไอ้นาว!!!!!!”ลากมันออกมาครับ
“เห้ย ขอแปป”
“แปปอะไร นี่มันกี่โมงแล้ว”ผมพยายามลากมันออกมา
“อะไรกันว่ะ”ไอ้โรลอาบน้ำเสร็จเดินผ่านมาพอดี
“เพื่อนมึงนี่สุด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”ลงใครไม่ได้ ลงที่ไอ้โรลเลยแล้วกัน มันหัวเราะลั่น
“มึงเพิ่งรู้เหรอว่ามันเป็นอย่างนี้”
“แม่ง! อยากนอนขนาดนี้มึงไม่กลับไปนอนบ้านว่ะ มาค่ายทำไม!”ผมว่าผมสุด ๆ แล้วนะ เจอไอ้นาวเข้าไป มันคนละภาพกับที่เจอตอนอยู่มหาลัยฯเลยว่ะ เดี๋ยวจะกลับไปบอกทุกคนให้ทั่วมหาลัยฯเลยว่า มันซกมกยังไงบ้าง ขี้เกียจและวุ่นวายขนาดไหน
“ตะโกนหาพ่อง!”มันเงยหน้ามาด่า
“อาบน้ำแปรงฟัน แล้วไปเจอกันที่ห้องเรียนแรก! หรือจะไม่อาบก็เรื่องของมึง!”ผมบอกแล้วสะบัดหน้าหนี อาโชติมาเรียกให้ไปกินข้าวก่อนในครัว เพื่อนคนอื่น ๆ กินแล้วประจำที่หน้างานตัวเองหมดแล้ว
“อาโชติพรุ่งนี้ช่วยไปปลุกมันหน่อยนะ กาวไม่ไหวแล้ว”ผมร้องขอความช่วยเหลือ ไอ้บ้านาวมันไม่เคยตื่นเช้าสักวัน!
“หึหึ ก็ปล่อยให้เขานอนไปสิครับ คุณกาวอยากทำอะไรบอกลูกน้องผมก็ได้”อาโชติบอก แต่ผมส่ายหน้า วันนี้จะพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวเล่นที่น้ำตก มันเป็นแหล่งต้นน้ำแห่งเดียวของหมู่บ้าน อยากไป ๆ แต่ต้องพ่วงไอ้เพื่อนชั่วไปด้วย เพราะทุกคนให้เป็นบัดดี้กัน
“เขาไม่กินหรือไง”ผมถามเสียงเบา แอบมองคนที่นั่งอยู่ห่างออกไป
“คุณท่าน...เพิ่งจะอาเจียนไปรอบนึงเมื่อเช้า สงสัยอากาศที่นี่ทำพิษแล้วละครับ”
“ไม่สบายงั้นเหรอ!?”รีบถาม แต่อาโชติไม่ได้ตอบอะไร
“กินยารึยัง”
“ทานแล้วครับ...”
“เมื่อเช้าไม่เห็นบอกอะไร”
“ก็เขาจะบอกไหมละ คุยกันสองคำก็ทะเลาะกันแล้ว”อาโชติว่า
“นั่นสิ อาโชติก็หาข้าว หายาให้เขาด้วยแล้วกัน”
“หึหึ ถ้าห่วงมากก็จัดการเองดีไหมครับ”โดนแซวจากอาโชติ ทำเอาผมเขินแต่โมโหกลบเกลื่อน
“อาโชติ”
“ครับ ๆ ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเลย จะออกไปแล้วมาเรียกด้วยนะครับ อย่าออกไปกันเอง”
“โอเช ไว้เจอกัน”ผมออกมานั่งทานข้าวที่ถูกเตรียมไว้ให้อย่างดีแล้ว ไอ้คิ้วกับอาจารย์มานะ อาจารย์ที่ปรึกษาก็มาด้วย
“เป็นไงกาว”
“ดีขึ้นแล้วฮะ”ผมบอก
“หึหึ เจออากาศเย็นถึงกับซมเลย”อาจารย์แซว เรานั่งทานข้าวกันไปจนไอ้นาวมันเดินหาวออกมา
“นี่มันกี่โมงแล้ว! ตื่นสายตลอด!!!”ไอ้คิ้วด่า
“น่า ๆ”ตื่นมาก็กินก่อนเลยครับ เวรจริง ๆ
“ให้มันหลับต่อไปก็ดีนะอาจารย์ว่า”ทุกคนหัวเราะ แต่เจ้าตัวมันสนใจที่ไหน ลงมานั่งตักข้าวกินเฉยเลย
ได้เวลาไปเจอเด็ก ๆ ผมบอกอาโชติก่อนจะเดินออกมา เห็นอาเสือนอนซมหลับอยู่บนที่นอน แต่ไม่ได้พูดอะไร อยากปล่อยให้อาเสือพักผ่อนมากกว่า ถ้าไม่ไหวจริง ๆ จะไล่ไปรพ.
“แม่งไม่มีอะไรหนุก ๆ ทำเลย”
“อะไรของมึงละ ที่ว่าหนุกๆ”ผมหันไปถามมัน
“อย่างเช่น...ปีนต้นไม้ชมวิว”อืมน่าสนใจ เราเดินผ่านพวกก่อสร้าง พวกไอ้ชัดมันก็ร้องแซว
“เฮ้ย! แฝดมา ๆ”แล้วก็ร้องเพลงกัน นั่นละครับ...ตอนนี้ผมกับไอ้นาวนี่ยิ่งกว่าแฝดซะอีก แต่ไม่ยักจะสนิทกันสักที ไม่รู้ว่าผมเข้าถึงยาก หรือมันเข้าถึงยากมากกันแน่
“อยากโดนตีนเหรอว่ะ”ไอ้นาวหันไปด่าพวกมันกลับ จะสลดสักนิดมิมี ยิ่งได้ใจหัวเราะกันร่วน
“เปรี้ยวจะเตี้ย กูจะฟ้องเฮีย!”ไอ้ชัดว่า
“เหอะ หน้าอย่างมันทำอะไรกูได้!!!”
“ปากดีเนอะ!”
“คริคริคริ”เวลาไอ้นาวหัวเราะโลกมันสวยจังเลย หน้ามันหวานด้วยแหละ
“กาว”ไอ้บอลกวักมือเรียก ผมเดินแยกออกมา
“อะไรว่ะ”
“กูอยากเตือน”
“เตือนอะไร!?”
“เรื่องไอ้นาว มึงไม่ต้องไปตามมันมาก มันชวนทำอะไรไม่ต้องสนใจ...ห่วงลูกในท้องมึงอย่างเดียว”
“มึงจะพูดเสียงดังเพื่อ! กลัวคนทั้งค่ายไม่ได้ยินช้ะ!!!!”ผมตบหัวมันไปที
“แฮะ ๆ กูแค่อยากเตือน ทำอะไรให้ระวัง”
“เออ กูรู้แล้ว”
“ดี ๆ นะมึง! อยู่ให้ห่างมันไว้ดีที่สุด!”ผมพยักหน้า
“คุยไรกันอ่ะ”ไอ้โรลกระโดดกอดหลังผม ไอ้บอลนี่ตกใจสุดขีด มันร้องอย่างกับถูกควายเชือด สร้างความตกใจให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมาก
“อะไรว่ะ...ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนั้นเลย”ไอ้โรลถาม ผมก็ตบหัวมันไปทีนึง จะได้เท่าเทียมไอ้บอล
“ไปละๆ”
“เออ กลับมากินข้าวด้วยนะ”
“เออ”
เด็ก ๆ ชาวเขานั่งรอกันเป็นสิบคน อาคารเรียนหลังเก่าเป็นไม้ จะพังแหล่มิพังแหล่ ด้านล่างเป็นห้องสมุดหนังสือเก่า ๆ สมัยสิบปีก่อน หน้าจนเหลืองขาดหวิ่นไปหมดแล้ว ผมสัญญาว่าถ้ากลับกรุงเทพฯ จะไปเหมาหนังสือจากโรงพิมพ์มาเติมเต็มให้สมุดแห่งนี้ให้
“คุงคูมาแล้ววววววว”กอหญ้า เด็กชาวเขาตัวน้อยกระโดดโลดเต้นไปมา ผิวขาวเหลือง นัยย์หวาน ทำให้ผมอดยิ้ไม่ได้
“คุณครูตั้งหากละ”ไอ้นาวแก้ เถียงกะเด็กสนุกมันเลยเชียวละ
“วันนี้ทำอะไรกัน”ผมถาม
“เก็บผักครับ”
“อีกละ!”เสียงจากไอ้คนข้าง ๆ
“โอเค เก็บผัก แล้วทำอะไรต่อ”
“ครูอยากไปดูเขาไหมครับ”
“ดูเขา วิวน่ะเหรอ?”
“ไม่ไกลหรอกครับ...”มองหน้าไอ้นาวแล้ว สายตาบ่งบอกว่าน่าสนมาก
“เอาไงดี?”
“ไปเก็บดอกไม้ก็ได้ครู”
“เออ ตกลง”ผมบอก ปล่อยให้เด็ก ๆ เดินนำบ้าง ตามหลังบ้าง วนอยู่ล้อมหน้าล้อมหลังแบบนี้ ไอ้นาวจูงมือวาโพ เด็กชาวเขาตัวน้อย ๆ ที่เดินได้ช้าเพราะขาสั้นนิดเดียว ไม่ทันพวกพี่
“คริคริคริ”เด็กน้อยอีกคน คนนี้ชื่อ หมึงเม ตาโตแก้มแดงน่ารัก ยื่นดอกไม้ให้ผม
“ให้หรือไง”ถามยิ้ม ๆ แต่เจ้าตัวไม่ยอมพูด คงจะอาย ผมยื่นมือไปรับแล้วมาทัดหูไว้ ก่อนหัวเราะกร๊าก อายว่ะ ไอ้นาวมันก็หันมาหัวเราะเหมือนกัน เด็ก ๆ ก็พลอยยิ้มตามกันไปด้วย
วิวที่นี่สวย มีแต่สีเขียวของธรรมชาติ ไม่น่าแปลกนะ...ที่ทุกคนจะดูอารมณ์ดี และมีความสุขแบบนี้ ใช้ชีวิตแบบพอมีพอเพียง ตื่นมากินข้าว สายหน่อยก็ทำงาน ไม่มีรถติด ไม่มีควัน ทางเดินลาดยาวที่เรากำลังมุ่งหน้าไป เป็นคล้าย ๆ ทุ่งสีเขียวขนาดใหญ่ เบื้องหน้ามีต้นไม้สูง บางต้นใหญ่ขนาด 5 คนโอบล้อมยังปิดไม่มิด
คนที่นี่ชื่อว่าต้นไม้ทุกต้นมีเทวดาอาศัยอยู่ การตัดต้นไม้จึงเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์มาก เพราะเทวดาจะตามมาลงโทษเราทีหลัง การอยู่ของคนที่นี่ จึงมีชีวิตอยู่กับป่าอย่างแท้จริง
ป่าให้น้ำ ป่าให้ข้าว ป่าให้ชีวิต
เป็นคำนิยามสั้น ๆ ที่ผมได้นั่งฟังอยู่ด้วย ตอนพ่อเฒ่าเป็นที่นับถือของหมู่บ้าน ได้มาพูดคุยให้กำลังใจพวกเรา ไอ้นาวเดินนำไปหลายก้าว ผมหันไปมองด้านหลัง ไม่เห็นอาโชติตามมาเหมือนเคย คงจะอยู่ดูแลอาเสือ ไม่มาก็ดีเหมือนกัน แต่เฮ้อ....รู้งี้น่าจะสะพายกล้องมาด้วย
อีกสองวันหน้าที่ครูผมก็จะลดทอนลงไป เพราะทางการส่งครูจริง ๆ ที่ทำเรื่องมาอยู่ที่นี่แล้ว ถึง 2 คน นับว่าเป็นจำนวนที่เยอะที่สุด เท่าที่เคยมีมา เด็ก ๆ เล่าให้ฟังว่าคนในหมู่บ้านดีใจใหญ่ ครูคนเก่าทำเรื่องไปจากที่นี่นานแล้ว สี่ห้าเดือนได้ ครูที่ประจำอยู่ที่นี่ก็จะมาย้ายไปอีกคน
“ถึงแล้ว”เสียงเจื้อยแจ้ววิ่งนำ ไอ้นาวก็วิ่งตาม
“โหหหห!!!!”ผมอุทานออกมา ทันทีที่เห็นวิวเบื้องหน้า มันเป็นภูเขาหลายลูกทอดยาวสุดสายตาสลับซ้ายขวา ม่านเมฆหมอกยังไม่หายแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสายมากแล้วก็ตาม
“เสียดายไม่มีกล้องว่ะ”ไอ้นาวบ่น
“เออ”
“เฮ้ยมึง...ถ่ายให้กูหน่อย”มันโยนโทรศัพท์มาให้
“สัส! เกือบรับไม่ทัน”ผมบอก เสร็จมันก็กระโดดบ้าบออะไรของมัน พลังไม่หมดจริง ๆ
เด็ก ๆ เริ่มวิ่งกันสนุกสนาน ผมเองก็สนุกไปด้วย พากันเล่นไล่จับ...แรก ๆ ก็เล่นกันน่ารัก แต่พอแบ่งพวกผมฝั่ง ไอ้นาวฝั่ง แล้วผีบ้าอยากเอาชนะมันเข้าสิง
ไล่จับกันทีดุเดือดเผ็ดมันส์มาก เห็นตัวมันอย่างนั้น กระชากหลังคอเสื้อผมที...ตัวแทบหงาย!
“อร๊ายยยย วาโพมานี่”ผมตะโกนหัวเราะไปด้วย วาโพร้องกรี๊ดแล้ววิ่งมาหาผม ไอ้นาวก็วิ่งตามจะมาจับ
“มานี่!!!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”ทุกคนหัวเราะ วิ่งหนีกันไปคนละทาง สุดท้ายเกิดเหนื่อยกันขึ้นมานอนพักดูท้องฟ้า น้ำก็ไม่มีหอบหายใจกันแฮ่ก ๆ เฮือกใหญ่
“มาหลับกัน”แน่ะ ดูมันชวน...ผมว่ามันอยากนอนนานละ แต่สบโอกาส
ท้องฟ้าไม่มีแดดเลย มืดครึ้มคล้ายฝนจะตก อากาศเย็นลงมากกว่าเดิม
“ฝนจะตกไหมเนี่ย”เด็ก ๆ หัวเราะ บอกกันยกใหญ่ว่าไม่ต้องหรอก เด็กผู้หญิงไปเก็บดอกไม้ ก่อนจะเดินทางกลับในอีกชั่วโมงต่อมา
“อารมณ์ดีจังเลยนะมึง”ไอ้โรลร้องแซว ไอ้นาวมันกำลังจะเดินผ่านไปแล้ว แต่จู่ ๆ ก็เดินกลับไปหาพวกก่อสร้าง แล้วหยิบค้อนขึ้นมา
“เฮ้ย ๆ มึงจะทำอะไร”
“กูช่วย!”นั่นละ ความชิบหายเลยเกิด
“ฮ่าฮ่าฮ่า”ผมนั่งหัวเราะ ดูพวกมันทำหน้าดิ ไอ้นาวมันเอาตะปูมาตอก เสียงดังสนั่น...
“มองหาพ่อง...ช่วยดิ!”ผมรีบลงมือทำ เด็ก ๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้มาตรงนี้ คิดว่ามันง่ายนะนั้นไหมครับ นาวกาวอยู่ด้วยกัน ความชิบหายเกิดขึ้นโดยแท้
“พอ ๆ”พี่กาวใหญ่แย่งอุปกรณ์ช่างออกจากมือเราสองคน ตอนแรกไอ้นาวเกิดครีเอทกำแพงเป็นรูปบ้าบออะไรไม่รู้ แล้วมันก็ดันไปดึงสายไฟที่ช่างเดินช่องไว้แล้ว แถมยังบอกให้ผมช่วยใส่ประตู แล้วไอ้ลูกบิดมันก็ดันหลุดมาเฉยเลย แต่ผมต้องบอกก่อนว่า...เหล่านี้ไม่ได้เกิดจากผมเลยสักนิดเดียว
“อะไรอ่ะ! อุตส่าห์จะช่วยนะ!”มันเถียง
“ไม่ต้อง ไปช่วยในครัวแล้วกัน
“เดี๋ยวในครัวก็ไล่ออกมาอีก”
“ใช่ ๆ”ผมเป็นลูกคู่ให้มัน
“เฮ้ย วุ่นวายว่ะ ไอ้สองคนนี้...ไป ๆ หานอนพักผ่อน จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น”ไอ้ชัดแซว
“พ่อมึงดิ! ช่วยทาสีก็ได้”มันคิดงานใหม่ให้ตัวเอง ผมก็เดินตามเหมือนลูกพี่กูเลย ทาอยู่ดี ๆ ไอ้นาวมันเอาลูกกลิ้ง วาดเป็นลายอะไรของมันไม่รู้ เลอะเทอะหมด
“สวยจะตาย”
“มันเปลืองสีไหม”
“เปลืองที่ไหน นี่มันลายศิลปะ”ไอ้นาวเถียง
“ไปล้างมือ แล้วไปช่วยงานในครัวเลย”หลังจากที่โดนไล่รอบสอง ผมมาล้างมือตรงก๊อกน้ำกับมันสองคน
“เฮ้อ...ไม่มีอะไรทำเลย มึงว่าป่ะ”
“เออ”รับไปก่อน เดี๋ยวมันเหวี่ยงใส่ง่ะ น่ากลัว T_T
“บ้า ๆ ๆ”แล้วพี่เขาเขย่าก๊อกน้ำครับ คือมันไม่ใช่ก๊อกน้ำถาวร แกว่งนิดเดียวก็จะหลุดละ เล่นเขย่าแรงขนาดนั้น ก๊อกมันหลุดออกแล้วน้ำก็พุ่งซู่
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”ผมกับมันกระโดดหลบไปคนละทาง
“เฮ้ย น้ำรั่วโว้ย ไอ้นาว ไอ้กาวทำน้ำรั่ว”เสียงใครสักคนตะโกน กูอยากเถียงละเกินว่าไม่ใช่กู๊!!!!!
รีบหาอุปกรณ์กันมาแก้ไขกันยกใหญ่ โดนด่าอีกตามระเบียบ ผมเดินมาหาอาโชติที่ยืนมองว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่มีอาเสือ สงสัยจะนอนพัก
“หึหึ”
“อย่าหัวเราะแบบนั้นนะ...ไม่ใช่ฝีมือกาวสักหน่อย ไอ้นาวมันตัวซวยชะมัด!”ผมบอก เดินเข้าครัวเพื่อช่วยงาน แต่โดนไล่ออกมานั่งจ๋อยกันสองคน
“เฮ้ยนั่น!”ผมชี้มือให้มันดู งูที่กำลังเลื้อยผ่านไป
“เฮ้ย!!!!!”มันกระโดดขึ้นนั่งบนเตียงไม้ ผมก็กระโดดเหมือนกันแต่กระโดดเข้าหางูนะ คริคริคริ
“งูดิน ไม่น่ากลัว”ผมบอก
“ไอ้เชี่ย!!!!!! ว๊ากกกกกกกกกก”ผมจับมันก็ร้องออกมาเลย
“มึงกลัวเหรอ คริคริคริ”ผมชอบจะตาย แกล้งมันหน่อยดีกว่า
“ไอ้เชี่ยๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”
“คุณกาว!!!!”อาโชติต่อว่า ผมหัวเราะก่อนจะโยนงูทิ้ง แล้วเบะปาก
“ไม่เห็นจะน่ากลัว!!!!”
“ไอ้เวร!!! หัวใจเกือบวาย”
“คริคริคริ”ว่าแล้วจับไปแกล้งพวกผู้หญิงหน่อยดีกว่า ผมเล่นสนุกไอ้นาวก็เอาด้วย ควานหางูตัวเมื่อกี้ มันเลื่อยไปเร็วมาก ๆ กำลังจะลงดิน ผมเอาเท้าตะปบจับขึ้นมาใหม่ คริคริคริ
“เปิ้ล ๆ มีอะไรจะให้”ผมบอก ไอ้นาวเตรียมกล้องถ่ายรูป
“อะไรเหรอ”
“แบมือมาสิ”เปิ้ลน่ารักนะ สวยหวานด้วย ยิ้มทีหนุ่ม ๆ ใจละลายกันเป็นแถว
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
“กาว!!!!!”อาเสือเดินเข้ามาพอดี ตกใจมาก ผมกับไอ้นาวหัวเราะ
“ไอ้พวกบ้า”แล้ววิ่งหนีออกไปเลย
“ถ่ายทันป่ะว่ะ”
“ทัน ๆ กร๊าก ๆ ๆ”
“กาวววววว”อาเสือทำหน้าดุ ไอ้นาวเลยวิ่งหนีหายไปเลย ผมโยนงูเก็บทิ้ง คราวนี้ทิ้งจริง ๆ แล้วกระโดดกอดอาเสือ (ตรงนั้นไม่มีคน)
“....................................”แต่ก็ยังไม่ยอมคุยกับอาเสืออยู่ดี อาเสือกอดตอบกลับ ก่อนจะจูบหน้าผาก
“ทำไมทำแบบนั้น! นิสัยไม่ดีเลย”
“ยุ่ง!”หยิกแก้มอาเสือ แล้ววิ่งหนีออกมา ทานอาหารกลางวัน ผมกับไอ้นาวช่วยกันตักข้าวเอาใจเปิ้ล เพราะดูท่าจะกลัว จนร้องไห้ไปเลย ฮ่าฮ่าฮ่า แต่พอหายกลัวก็กลับมาหัวเราะตามเดิม
ตอนเย็นทุกคนรีบไปอาบน้ำ เรียกว่าแย่งกันอาบก็ได้ กินข้าวแล้วนัดรวมพล เพื่อฟังงานเหมือนเดิม แต่วันนี้เพื่อนหลายคนดูอ่อนล้ามากขึ้น อาจเพราะงานที่ต้องเร่งรีบ ไอ้นาวผลัดนวดขาให้ไอ้โรล คนอย่างมันก็ทำความดีกับเขาเป็นเหมือนกันนะ เหอ ๆ
“ไม่มีทีวีดูข่าวเลยว่ะ”ไอ้ชัดบ่น เป็นธรรมดา เรามาอยู่ที่นี่กันหลายวันแล้ว น่าแปลกที่ผมไม่ต้องฟังเพลงจากโทรศัพท์ของตัวเองเหมือนอย่างทุกทีเลยด้วยซ้ำ ตื่นมาก็สดชื่นกว่าปกติ คนอื่นคิดว่าผมจะอยู่ไม่ได้ ทีไหนได้...ผมกลับชอบเอามาก ๆ
“นวดดี ๆ”มันกล้าหาญสั่งลูกพี่ ไอ้นาวตบหัวดังแปะ ทำเอาทุกคนที่ได้ยินหัวเราะอย่างสะใจ
“อะไรมึงเนี่ย!!!! เตี้ยแล้วไม่เจียมเดี๊ยะ ๆ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”ทุกคนหัวเราะที่แกล้งไอ้นาวได้
“เฮ้ย...พ่อมึงนั่งมองอยู่โน่น ไม่เรียกเขามาว่ะ”ไอ้บอลนี่ก็เสือ กได้ที่เนอะ
“ยุ่งไรกะเขา”
“หรือเขาจะรอมึงไปนอน...ไป ๆ เดี๋ยวพ่อมึงเหงา...นอนคนเดียว”มันพูดแซวให้ได้ยินแค่ผม
“มึงจะยุ่งอะไรกับเขาเนี่ย”
“มึงไม่ห่วงเขาหรือไง ให้เขามานั่งรอทุกคืน”
“กูขอร้องเขางั้นสิ?”ไอ้นี่มันก็แปลกนะ ใช่เรื่องของมันรึเปล่า
“......................................”ไอ้บอลเงียบ เป็นความเงียบที่ทำให้ผมอึดอัด เพราะไม่เคยทะเลาะเรื่องบ้าบออะไรกับมัน
“เขาไม่เป็นไรหรอกน่า”ผมย้ำอีกที มันก็พยักหน้า คล้ายว่าให้เป็นเรื่องนึงที่ผ่านไป หันไปมองอาเสือก็ส่งยิ้มมาให้ ตัวเองยังนั่งสนทนากับคนเฒ่าคนแก่อย่างออกรส ปล่อยให้อยู่กลุ่มนั้นก็เหมาะกับอาเสืออยู่แล้ว
“มึงอ้วนขึ้นเปล่าว่ะ”ไอ้โรลถาม เอาแขนมาจับ ๆ นวด ๆ
“จะไม่อ้วนได้ไงก็มันทะ....แค่ก ๆ ๆ”ไอ้บอลกลับลำทันทีที่เห็นสีหน้าจากผม ไม่ต้องการให้ใครรับรู้นะ! คือ..อย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้
“อะไรว่ะ”
“กูอ้วนแล้วไง...คนเขาอุดมสมบูรณ์ ใครจะผอมอย่างมึง อย่างไอ้นาว”ผมด่ากลับ
“อ้าว ไอ้เชี่ย! อยู่ดีไม่ว่าดี...กูไปเกี่ยวอะไรด้วย!”ไอ้นาวทำหน้าแค้นเคืองใส่
“ก็มึงผอม”
“หนักหัวพ่อมึงไหมละจ๊ะ!?”มันด่าแบบแยกเขี้ยวยิ้มให้
กำลังนั่งคุยเล่นกันหลายคน มีตำรวจป่าไม้มาบอกว่าให้ปิดไฟนอน เพราะมีพวกค้าไม้เถื่อนอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน ให้เราห้ามออกไปไหน
“ใครจะออกว่ะ”ไอ้คิ้วกระซิบ แต่ก็ดี...เหนื่อยเมื่อล้ามาทั้งวัน แยกย้ายกันไปนอน อาเสือจูงมือกลับบ้านพักชของตัวเอง
“วันนี้เหนื่อยไหม”
“ก็เหนื่อยทุกวัน”ผมตอบส่ง ๆ เดินนำไปยังที่นอนตัวเอง ไม่ใช่แค่ผมกับอาเสือ อาโชติกับลูกน้องก็เพิ่งคุยกับอาจารย์เสร็จ ไอ้นาว ไอ้โรล ไอ้บอล ก็เดินตามมา ไอ้กอล์ฟ ไอ้ลิงก็อยู่ห้องไม่ไกลกันเท่าไหร่
“ฝันดีค้าบๆ”ไอ้บอลตะโกนบอกทุกคน แล้วก็ตะโกนบอกฝันดีกันไปมา ผมเข้ามุ้งมานอนประจำที่ของตัวเอง ตรงข้าง ๆ อาเสือ มุดเข้าไปอาเสือก็มุดตาม ลูกน้องอาโชติปิดไฟ แล้วมุ้งไปนอนมุ้งไม่ไกลกัน
“ไม่สบายหรือไง”ถามเสียงนิ่ง อาเสือหัวเราะข้างหูก่อนกอดแน่นขึ้น
“แค่อากาศเปลี่ยน กาวไม่ต้องห่วงอาหรอก ห่วงตัวเองกับลูกเถอะ วันนี้ไปเล่นซนมาทั้งวัน”
“อย่าทึกทักว่าเขาเป็นลูกอาเสือจะได้ไหม”ผมตวาดขึ้น อาเสือจ้องตาลุกวาว
“แล้วไม่ใช่เหรอ!?”เสียงนิ่งกว่าเดิม
“ไม่ใช่!”ผมตอบกลับด้วยทิฐิ อาเสือแยกเขี้ยว...ทำสายตาเย็นชา
“แล้วแต่กาวแล้วกัน จะคิดยังไงก็ตาม...ความจริงก็เป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ”ทำเอาเถียงไม่ออก ผมฟึดฟัดนอนดิ้นไม่ยอมให้อาเสือกอดเหมือนเคย
“กาว!”
“ทำไม!!!!”ยกมือหยิกอาเสือ ทั้งรัวกำปั้นใส่มือหนา อาเสือกำมือผมไว้ได้ทัน เราทำทุกอย่างภายใต้ความมืดและพยายามไม่ให้เกิดเสียง
“ดื้อนักนะเรา!”
“แล้วจะทำไมละ นี่ ๆ ๆ”ทั้งหยิกทั้งข่วนจนเหนื่อยไปเอง เสียงหอบของอาเสือรดใส่ใบหู ยังรู้สึกร้อนผ่าว
“เรานี่มัน...จริง ๆ เลยนะ”อาเสือกัดฟันพูด คงจะโมโหมาก แต่ทำอะไรไม่ได้
“ลูกดูสิ...แม่เค้าดื้อกับพ่อขนาดไหน”
“ไม่ต้องฟ้องเขาเลย!!!!! เขาไม่ฟังอาเสือหรอก!!!!”เอามือกอดพุงตัวเอง ราวกับปิดหูไม่ให้ในท้องได้ยิน
“รู้ได้ไงไม่ฟัง...”
“ไม่ให้ฟัง!!!!”บอกอย่างถือดี อีกคนโอบกอดเอวผมผ่านแขนที่ล็อคเอาไว้อยู่ก่อน
“ลูกครับ...ทำไงกับคนดื้อดีครับ อะไรนะ...อ๋อ จัดการได้เลย โอเค ๆ”แล้วก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มผม แบบเน้น ๆ จนตัวเองเขิน (แต่ทำเป็นรำคาญ) แล้วดันอาเสือออก
“ออกไปนอนข้างนอกเลยป่ะ!!!!!!”ผมว่า อาเสือหัวเราะพอใจ นอนยื้อแย่งกันอยู่แบบนั้น จนมีแสงไฟฉายส่องเข้ามา
“คุณโชติครับ”เสียงเรียกของคนแก่ อาเสือหันไปมองมุ้งที่มืดสนิทของอาโชติ แต่คนนอนแล้ว เพราะนิ่งกันเหลือเกิน เสียงเรียกมาอีกหน คราวนี้อาเสือปล่อยมือจากผม แล้วลุกขึ้นนั่ง
“โชติคงนอนแล้ว ไม่อะไรรึเปล่าครับ”
“อ่อ คุณเสือ คือว่า...ผมจะชวนคุณโชติไปดูร่องรอยไอ้พวกที่มันเข้ามาลักลอบตัดไม้น่ะครับ”
“คนไม่พอเหรอ”อาเสือถาม
“ครับ พ่อเฒ่าบอกว่าไม่ให้เด็ก ๆ ออกไป เลยว่าจะมาขอแรงคุณโชติสักหน่อย แกตัวใหญ่และมีไหวพริบดีน่ะครับ”จะไม่ให้ดีได้ยังไง คนที่ถูกฝึกมาเป็นบอดี้การ์ดแบบอาโชติ ต้องทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่ว่าจะบุกน้ำ ลุยไฟอะไรก็ตาม ต้องเผชิญได้ทุกสถานการณ์
“โชตินอนแล้ว ผมไปเองก็ได้”อาเสือบอก ผมตกใจหันมองคนพูดขวับ!
“อาไปแปบเดียว เดี๋ยวก็กลับ”
“ไม่!”ผมไม่ให้ไป!!!!
“กาว...”
“มีอะไรกันเหรอครับ”อาโชติตื่นมาได้ทันพอดี โดนชักชวนให้ไปช่วย อาโชติก็รับปาก อาเสือยังยืนยันจะไปด้วย เหลือลูกน้องไว้สองคนให้ดูแลผม
“ถ้าเป็นอะไรไม่ต้องกลับมาเลยนะ! ตายอยู่ที่นั่นเลย!!!”พูดใส่อารมณ์และน้ำตาคลอ เสือก้มลงจูบที่หน้าท้องผมแผ่วเบา
“อาไม่เป็นอะไรหรอกน่า...แค่ไปดูเฉย ๆ”
“นั่นแหละ ถ้าเป็นอะไร...ไปนะ ไม่ต้องมาพูดกัน”น้ำตาคลอ
“ขอบคุณครับ...ที่ห่วงอา”
อาเสือดื้อ!!!! ห้ามยังไงก็ไม่ฟังหรอก เปลี่ยนเสื้อและรองเท้าก็ไปยืนรอกันข้างนอก ผมไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไป แม้จะส่งก็ตาม เลยเดินเข้าห้องไอ้บอล ไปนอนกับพวกมัน และนึกห่วงอาเสือจนนอนไม่หลับเลย...
“ไอ้บ้าอาเสือ!!!! ฮึก....”
COMMENT PLEASE
รู้สึกเหมือนว่าตอนนี้ยังไม่ได้ดังใจสักเท่าไหร่ ต้องขอโทษ
ด้วยค่ะ จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น
รู้สึกเหมือนว่าตอนนี้ยังไม่ได้ดังใจสักเท่าไหร่ ต้องขอโทษ
ด้วยค่ะ จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น
โอยย อาเสืออ่ะ ทิ้งกาวไปทำไมเนี่ยะ กาวก็อีกคนกลับไปกับอาเสือได้แล้ว ฮู้ววว์
ตอบลบถึงคนเขียน เป็นกำลังใจให้นะคะ
ว่าเค้าดื้อ ที่ไหนได้แมร่งก็ดื้อพอๆกัน ลูกออกมานี่คงอย่างลิง😂😂
ตอบลบปากเนี่ยนะปาก
ตอบลบไก่จิกเสืออีกละ555 อาเสือก็โท้นนน ทน กาวนี่มะไรจะเลิกดื้อนะ
ตอบลบ