วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ตอนที่ 26 จะยังไงดี? 100


ตอนที่ 26



ตอนที่ 26 จะยังไงดี?

            “เป็นยังไงบ้างครับ”เสียงแรกที่เรียก ทำให้ผมค่อยหันมอง สายตาปรับสภาพรับแสง ก่อนจะเห็นหน้าอาโชติลอยมา

             “เขา...เขายังอยู่ไหม”เป็นคำที่ผมพูดขึ้นหลังจากได้สติ

             “ใจเย็น ๆ นะครับ”อาโชติร้องบอกอีก

            “อยู่ไหม...”ผมร้องถามออกไปอีก อาโชติจับมือผมเอาไว้ อยากลุกขึ้นแต่ทำได้ไม่ค่อยดี อาโชติกดไหล่นอนลงไปอีก ก่อนจะพูดออกมาเสียงดัง

            “ใจเย็น ๆ นะครับ อย่าเพิ่งลุก”

            “อยู่ไหม ๆ เขาอยู่ไหม...”ผมร้องถาม น้ำตาพรั่งพรู อยากทุบตัวเองให้สมกับความโง่เง่า เรื่องแค่นี้ก็ไม่ระวังตัว ถ้าเขาไม่อยู่ผมจะต้องเสียใจมากถึงมากที่สุดแน่ ๆ

            “อาโชติ!!!!!”ผมตวาด ทำไมไม่ตอบสักที!!!!

            “อยู่....”คำตอบที่อยากได้ มาจากคนที่เข้าประตูมาใหม่ ผมหันไปมองทันควันก่อนจะเบิ่งตากว้างขึ้น อาเสือเดินหน้าพร้อมสีหน้านิ่ง

            “อะ อาเสือ”ผมครางออกมา

            “ออกไปจัดการเรื่องหมอให้ที”อาเสือสั่งอาโชติ สายตาคมเข้มจับจ้องมาที่ผมไม่วางตา

            “ครับ...”ผมนั่งนิ่งอยู่กับที่หลังจากอาโชติออกไป ไม่อยากมองหน้าอาเสือ

            “ทำไมไม่บอกอา”คำถามแรกออกมา อาเสือเดินเข้ามาใกล้

            “.........................................”

            “กาว”

            “.........................................”ผมกำเสื้อตัวเองแน่น ยังไงก็ไม่ให้เด็ดขาด ในนี้เขายังอยู่กับกาว เป็นของกาวคนเดียว

            “อาขอโทษ...”อาเสือดึงผมเข้าไปกอด และจูบที่ขมับ ผมดันอาเสือออกอย่างรำคาญ ก่อนจะทั้งหยิกหน้า ทั้งตบแก้ม ทั้งรัวหมัดใส่ อาเสืออยู่เฉยไม่ปัดป้อง

            “ฮึก ๆ ออกไป!

            “กาว”

            “บอกให้ออกไปไง!!!!

            “อย่าออกแรง เดี๋ยวกระเทือนลูก”อาเสือร้องเตือน และเป็นคำที่ทำให้ผมชะงัก ไม่กล้าแม้แต่จะร้องไห้ ไม่มองหน้าอาเสือ อีกคนก็จับแขนผมลูบ ๆ ในใจก็คิดว่ากล้าดียังไงเรียกเขาวะ ว่า...ลูก เขาเป็นของกาวแท้ ๆ

            “เขายังอยู่ แต่หมอบอกว่าถ้ากาวล้มแรงกว่านั้นอีกนิดเดียว เขาอาจจะไปก็ได้”

            ชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าเกือบไปแล้ว...

            “อามารับ กลับบ้านเรานะ”

            “ไม่”ผมรีบตอบ

            “กาว จะอยู่ให้ได้อะไร...ลูกต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ออกไปตากแดดตากลมมันไม่ดีเลย”

            “อาเสือจะมายุ่งอะไรด้วย นี่ลูกกาว กาวจะทำอะไรมันก็เรื่องของกาว”ผมบอก

            “กาว!

            “ทำไมจะตบอีกเหรอ!?!”น้ำตาไหลเอง ไม่มีเสียงสะอื้นอีกต่อไป ผมเข้มแข็งต่อไปเพื่อเขา สัญญากับตัวเองตอนนี้เลยว่า จะแข็งแรงและทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเขา ไม่ว่าใครหน้าไหน...ก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวเขาทั้งนั้น!

            อาเสือชะงัก

            “อย่าตบเลย...เจ็บพอแล้ว”ผมบอก อาเสือยกมือกุมหน้าสีหน้าเคร่งเครียดมาก ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา

            “..........................................”ระหว่างเราไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นอีก ใครจะมาเอาเขาไปต้องข้ามศพผมไปก่อน
           

            หมอบอกว่าในท้องไม่ได้รับการกระทบกระเทือนอะไรที่รุนแรง หลังจากนี้ต้องระวังให้มาก ส่วนแผลที่มือก็ไม่ได้เป็นอะไรเท่าไหร่ อีกเดี๋ยวก็กลับบ้านได้แล้ว รออาโชติคุยเรื่องยาและการระวังตัวอีกนิดหน่อย รวมถึงส่งผลตรวจครรภ์ไปรพ.ที่กรุงเทพฯ อีก

            “หิวข้าวไหม”อาเสือถาม จับมือผมไว้หลวม ๆ ผมไม่ตอบ

            “เดี๋ยวอาพาไปกินข้าว แล้วค่อยกลับค่ายนะ”

            “.........................................”ไม่ตอบ

            “อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม ขาหมู?”พอผมไม่ตอบ อาเสือก็เลยเงียบไม่พูดอะไรต่อ จนกระทั่งอาโชติเรียกอาเสือเข้าไปคุยกับหมออีกที ผมกังวล...จะเป็นอะไรรึเปล่ามีปัญหาอะไรงั้นเหรอไม่นานอาเสือก็เดินยิ้มและถือถุงยากลับมาด้วย

            “เรียบร้อย หมอบอกว่าแข็งแรงดี”ผมพยักหน้าโล่งใจ เอามือจับหน้าท้องตัวเอง

            “เดี๋ยวพากาวแวะทานอาหารสักหน่อย ค่อยกลับ”อาเสือสั่งอาโชติ แต่ผมมองหน้าอาโชติแล้วพูด

            “กาวไม่ไปนะ อยากไปข้าวที่ค่าย”ทั้งสองคนเลยเงียบ

            “อาโชติไปส่งกาวหน่อย ค่อยมาดูแลเขา”ผมใช้สรรพนามที่แตกต่าง ทำเอาอึ้งทั้งสองคน อาเสือประคองมือผมไว้ทันที อาโชติเลยเดินหนีให้ผมเคลียร์กับอาเสือ

            “กาว...”

            “...................................”

            “ทำไมพูดแบบนั้น”

            “....................................”

            “โกรธอาอยู่ใช่ไหม”

            “...................................”มันน่าโกรธไหมละ อาเสือจูงมือไปที่รถ...ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด ตัวเองไม่ได้ขัดขืน เพียงแต่ไม่อยากพูด

            “กินข้าวกับอาก่อนนะ...”

            “....................................”

            “อาขอโทษ จะตบอาคืนก็ได้...”ยังไม่ทันขาดคำ ผมยกมือตบอาเสือจริง ๆ คนตรงหน้าตาโตอย่างตกใจ

            “กาว”พูดเสียงอ่อย ๆ ใส่ แถมยกมือลูบแก้มตัวเอง

            “พอใจแล้วใช่ไหม?”อาเสือถาม ผมหยิกและต่อยอาเสือตุ้บตั้บ จนเจ็บมือไปเอง

            “แฮ่ก ๆ”อาเสือส่งน้ำให้ ผมกระชากมาดื่มอย่างโมโหขึ้นมา

            “กาวต้องอย่าทำอะไรรุนแรงอีกนะ...มันจะกระเทือนในนี้”นั่งนิ่งไม่มองหน้าอาเสือ ซึ่งพยายามจะหาร้านอาหารมาให้ผมเลือก หน้าอาเสือแดงไปจนถึงใบหู เพราะเมื่อกี้ที่ผมทำคงเจ็บ เหอะแต่น้อยกว่าที่ผมโดนอยู่แล้วล่ะ

            “มีร้านไหนอร่อย ๆ ดูสิ”อาเสือหยิบไอแพดออกมาดู เลื่อนขึ้นลงหาร้านที่คิดว่าน่าทาน

            “อยากทานร้านไหนดี”อาเสือคว้าผมเข้าไปกอดเอาไว้

            “จุ๊บ”โดนจูบขมับไปหนึ่งที อาเสือกระซิบ

            “กินข้าวนะ...เจ้าตัวเล็กจะได้แข็งแรง”นั่นละ ผมเลยนั่งพิงอาเสือให้โดนกอดเฉย ๆ อาเสือสไลด์ไอแพดตัวเองขึ้นลง อาโชติขึ้นรถมาแต่ไม่ออกสักที เพราะยังเลือกร้านไม่ได้ ผมยื่นมือไปเลื่อนร้านนึง สไลด์ลงมาเพราะอาเสือสไลด์เร็วไป มองแทบไม่ทัน

            “หืม...อันนี้เหรอ”อาเสือถาม ผมเลื่อนดูไปอีก กดดูไปหลาย ๆ เว็บ

            “นี่ไหม....ชื่อร้านอะไร”อาเสือถามอีกครั้ง ผมเลื่อนไปอีก จนเจอร้านที่ลงรูปอาหารน่าอร่อย

            “นี่”

            “นี่เหรอ?”อาเสือยิ้มดีใจที่ผมพูดด้วยคำแรก กระชับกอดผมขึ้น

            “โชติไปตามร้านนี้”อาเสือยื่นไอแพดให้อาโชติ ที่นั่งอยู่ข้างหน้า อาโชติบอกทางลูกน้องแล้วมุ่งหน้าไปทันที

            ป้ายร้านโดดเด่น ร้านสลุงคำ ผมมองรอบ ๆ อย่างสนใจ เพราะว่าเป็นร้านที่มีกลิ่นอายเมืองเหนือมาก ตกแต่งได้น่ารักดี อาเสือพาเดินลงจากรถเข้าไปในร้าน ส่วนใหญ่มีคนต่างชาติเสียมากกว่า ผมเดินโดยมีอาเสือเกาะกุมไปตลอดทาง

            “ช่วงโชติหาอะไรทานซะ”อาเสือหันไปสั่ง

            “ครับ”อาโชติกับลูกน้องเดินแยกออกไป คงจะไปหาที่นั่ง ผมจะเดินตามแต่อาเสือจับเอวไว้

            “กาวนั่งข้างในนะ...ข้างนอกร้อน”

            “..................................”อาเสือจูงไปนั่งในโต๊ะด้านใน

            “รับประทานอะไรดีเจ้า”พนักงานหน้าสวยคนหนึ่งเดินเอาเมนูมาให้ อาเสือนั่งฝั่งเดียวกัน ยื่นเมนูให้ผมดู

            “ขอเวลาอ่านเมนูก่อนครับ”อาเสือยิ้มให้ สงสัยเคลิ้มมากเลยสิ เพราะเห็นยิ้มกว้างซะขนาดนั้น เห็นแล้วหงุดหงิด!!!!!

            “กินอะไรดี...”อาเสือหันมาถาม ผมก็จิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จิ้มมันทุกอย่าง!!!!! โมโห!!!!!!!!

            “เป็นอะไรกาว!?...หืม”

            “อืออออ”เอาเมนูฟาดอาเสือ ตรงนี้ไม่มีคนผมเลยกล้าทำ

            “กาวเป็นอะไร”อาเสือคว้าเมนูไว้ สีหน้าโมโห

            “ฮึก...ตุ้บๆ ๆ ๆ ๆ”ผมตบอาเสือไปสองสามที อาเสือก็กำมือเอาไว้

            “เป็นอะไรครับ?

            “ฮึก ๆ ๆ”น้ำตาเริ่มไหล หมั่นไส้อาเสือที่สุด!!!! เหมือนอีกคนจะทำอะไรผมไม่ได้ เลยดึงเข้าไปกอด พอปลอดคนก็ก้มลงจูบผม

            “เป็นอะไรไป บอกอาสักหน่อย”

            “.........................................”มองอาเสือ น้ำตาเต็มสองตา อาเสือกอดแน่น ๆ

            “จุ๊ ๆ ๆ”

            “..............ฮึก ๆ ฮึก...............”แอบเช็ดน้ำตา แล้วก็หยุดร้องเฉย ๆ งงตัวเอง!? แต่ไม่สนใจ...

            “สั่งอาหารเลยนะ กาวกินได้...ตัวเล็กจะได้กินด้วย”อาเสือจับท้อง ผมฟาดมือใหญ่ทันที!!! โทษฐานจับโดยไม่ได้ขออนุญาต

            “โอ๊ยยย อาเจ็บ”ผมไม่สนใจ อาเสือลูบมือตัวเอง ก่อนจะเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร

            “เอาหมูรมควัน ไส้อั่ว ลาบหมูคั่ว น้ำพริกหนุ่ม วุ้นเส้นผัดไข่เค็มกุ้งสด มีแต่ของเผ็ดจัง....กาวจะกินได้เหรอ”อาเสือบ่น ๆ พนักงานก็แนะนำ

            “ปลาช่อนทอดน้ำปลาก็อร่อยนะเจ้า ไม่เผ็ดด้วย”

            “เอาไหม”อาเสือหันมาถาม ผมพยักหน้าสีหน้านิ่ง

            “งั้นรับด้วยครับ เอ๊ะนี่ ๆ เห็ดหอมผัดกุ้งสด แกงฮังเล”เหมือนว่าพนักงานจะจดไม่ทันแล้ว ผมสะกิดอาเสือ ส่งสายตาประมาณว่าให้พอแล้ว อาเสือยิ้มซะหล่อ ก่อนจะร้องบอกข้าวเปล่าโถนึงและน้ำเปล่า

            “คุณท่านครับ”อาโชติเดินเข้ามา เอาถุงยาให้

            “มียาต้องทานก่อนอาหารครับ”

            “อ่อ ขอบใจ”อาเสือรับมาดู พอน้ำมาก็ให้ผมกินยาก่อน

            “โชติสั่งอาหารไปเผื่อเด็ก ๆ ที่ค่ายด้วยนะ”

            “ได้ครับ”แอบปลื้มในความรอบคอบของอาเสือ นั่งรออาหารอาเสือก็จับมือขึ้นไปจูบ

            “กาวต้องดูแลตัวเองดี ๆ รู้ไหม ห้ามทำอะไรที่เป็นอันตรายเด็ดขาด”เริ่มสั่ง

            “อย่ามาสั่ง!”ผมรีบเถียงออกไป อาเสือเลยเงียบ ยกมือมาบิดจมูกผมหนึ่งที

            “อื้อ!!!! ไอ้อาเสือบ้า!!!!”ยกมือทุบอาเสืออีก อาเสือหัวเราะ

            “เจ็บ ๆ”ร้องว่าเจ็บแล้วกำมือผมไว้ ผมเบะปากเค้นน้ำตา แต่มันไม่อออก

            “โอ๋ อาไม่พูดละ”นั่งทานอาหารกันไปเงียบ ๆ บางอย่างผมทานไม่ได้ พยายามแล้วแต่กลิ่นมันไม่ไหวจริง ๆ อาเสือจะรู้เพราะถ้าสิ่งไหนที่ผมผลักออก คือมันไม่ไหวแล้ว ที่กินได้ก็จะมีน้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว ส่วนแกงฮังเลนี่ต้องขอบาย เห็ดหอมอะไรนี่ก็ไม่ได้ไหวจริง ๆ ไม่ใช่เขาทำไม่อร่อยนะ แต่นี่คงเป็นอาการแพ้อย่างที่หมอบอก

            “ทนกินได้ไหม เจ้าตัวเล็กจะได้กินด้วย”อาเสือพยายามป้อน อยากให้กินไอ้เห็ดหอม แต่เข้าปากไปเท่านั้น ขย้อนออกมาทันที อาเสือเกือบเอามือรองไม่ทัน ผมคายไอ้ที่เพิ่งเข้าปากใส่มืออาเสือ

            “ไม่เอา”บอกเสียงสั่นน้ำตาคลอ ถ้าบังคับอีกมันไม่ไหวแล้วนะ

            “งั้นทานเท่าที่ทานได้แล้วกัน”อาเสือบอก ป้อนอย่างอื่นจนหมด แต่ไม่ค่อยอยากให้กินน้ำพริกหนุ่ม ทั้งที่ผมชอบเพราะมันอร่อย

            “เผ็ดจะตาย เดี๋ยวลูกสำลัก”ผมชะงัก เขิน ๆ ที่อาเสือเรียกเขาว่าลูก คำนั้นออกมาจากปากอาเสือโดยไม่ตะขิดตะขวงใจอะไรเลย รู้สึกพอใจอยู่ลึก ๆ แต่อีกใจนึงก็หวงมากหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย

            หลังจากทานอาหารเสร็จอาเสือสัญญาว่าจะกลับมาส่งที่ค่าย แวะเอาอาหารมาให้เพื่อน ๆ ผู้หิวโหยทั้งหลาย แล้วจะให้อาโชติขับลงไปส่งในเมือง

            “นอนนี่ก็ได้ครับ...ความจริงที่นอนก็พอให้นอนได้อีกสบายเลยครับ”พี่กาวใหญ่เอ่ยปากชวน ผมกดสายตามองเคือง ๆ

            “อืม อาจารย์เห็นด้วยนะคะ เย็นมากแล้วขับรถขึ้นลงเขาอันตรายจะตาย”อาจารย์พูดขึ้นมา สะกิดใจผมที่ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ถ้าอาโชติลงไปส่งอาเสือ กว่าจะลงไป กว่าจะขึ้นมา...ลำบากแย่

            “อืม”อาเสือทำท่าคิดหันมามองผม 

            “งั้นคงต้องขอรบกวนสักคืนแล้วกันนะครับ”ทุกคนยิ้มยินดี ยกเว้นผม!
           


            งานหนักก็ต้องพักผ่อนตามอัธยาศัย เพราะผมไม่ได้ช่วยงานหนัก ๆ แถมยังกินแรงคนอื่น เลยช่วยไอ้วิมันพิมพ์บทละคร ไอ้บอลเอาหมอนมาหนุนหลังไว้ให้อย่างรู้งาน ได้อยู่กับเพื่อน ๆ แบบนี้ อาเสือไม่ได้เข้ามายุ่ง แต่นั่งออกไปคุยกับพ่อเฒ่าชาวบ้านอยู่ที่เรือนไม้อีกหลัง

            “ปวดมืออ่า”

            “เหอ ๆ กูว่าละ...มานี่ พิมพ์ต่อเอง”ไอ้วิด่า แต่ผมไม่ได้เลื่อนตัวหนี

            “เฮ้ย...กูว่าอากาศหนาวอย่างนี้ ต้องโดนเหล้าขาวสักหน่อยดีกว่า”ไอ้ชัดชวน

            “พอเลยมึงพรุ่งนี้งานยังมี”ไอ้คิ้วร้องห้าม

            “โธ่ กินแค่นิดเดียว...กรึ่บสองกรึ่บพอให้อบอุ่นร่างกาย”

            “เหอะ!”รออาจารย์ที่ดูแลเข้าห้องนอน ไอ้ชัดมันเอาเหล้าขาวมาขวดนึง วางไว้กลางเรือนชาน

            “ไอ้เชี่ย!!! มีมาจริง ๆ ด้วย เอามาจากไหนว่ะ”

            “กูฝากลุงที่ลงไปขายผักในเมืองซื้อมาโว้ย มา ๆ ให้จะกินบ้าง”ไอ้พวกเชี่ย มันกระเถิบเข้าหาโดยอัตโนมัติ รวมถึงกูด้วย แฮะ ๆ เหล้าหนึ่งขวดกับกระสืออีกกว่าสิบชีวิต ไอ้นาวนอนหัวเราะ

            “มึงต้องแบ่งคนละสองหยดถึงจะพอคนกิน!”มันพูดแดกดัน

            “มึงน่ะกินไม่ได้!”ไอ้บอลจิ้มหน้าผากผมหน้าหงาย

            “อะไรเมิ่ง!!!!!!”ผมด่า มันทำหน้าด่าผม...แล้วก้มมองท้อง

            “แค่นิดเดียวเถอะ”

            “นิดเดียวก็ไม่ได้ โน่นพ่อมึงมองสิบครั้งแล้ว ถอยไป!!!! ตรงนี้มันมุมของผู้ใหญ่เค้าจะคุยกัน”แล้วพวกมันก็เดินแทบจะข้ามหัวผมไปนั่งล้อมลงกะไอ้ชัด

            “เฮ้ย ๆ ของมันมีน้อย เราต้องมาเล่นเกมส์กันสักหน่อย”เจ้าของขวดพูดขึ้น

            “เกมส์ไรว่ะ”ไอ้นาวถาม มันเป็นอีกคนที่ไม่ได้เข้าไปนั่งล้อมวง ได้แต่ส่งเสียงแห่งความเสือกเข้าไป

            “เกมส์พูดเรื่องที่ไม่มีใครรู้ แล้วกูจะให้หนึ่งกรึ่บ”

            “ยังไงว่ะ”ไอ้โรลโผล่หน้าเข้าไปถาม

            “เรื่องอะไรเกี่ยวกับเพื่อนฮา ๆ  ใครก็ได้นะโว้ยที่นี่ ที่คิดว่าไม่มีคนอื่นรู้”ไอ้ชัดบอก

            “ไอ้เชี่ยนี่มันเกมส์ขายความลับเพื่อน เฮ้ย!!!! กูเล่น ๆ เกมส์แบบนี้กูชอบ”ไอ้โรลเพื่อนชั่วมันข้ามไอ้กอล์ฟกับไอ้ปี่เข้าไปนั่งเผชิญหน้าไอ้ชัดเรียบร้อยแล้วครับ

            “มึงจะเล่นคนแรกหน้ามึงเลวออกเลยห้ามเล่นกูนะสัส!!!

            “เอามันเลย!!!!”ทุกคนเชียร์

            “รักกูมาดิ ไอ้พวกเวน เออ ๆ เริ่ม”

            “กู....”

            “เดี๋ยว!!!! จะโกหกหรือเชี่ยไรก็ได้ แต่ให้เนียนนะสัส! คิคิคิ”

            “เอ่อ พูดอะไรดีว่ะ...เอาเรื่องไอ้จิดแล้วกัน พวกมึงต้องไม่รู้แน่...เมื่อวานมันเข้าห้องน้ำเว้ย ยืนเหยี่ยวแล้วไม่ล้างมือ เสือกมาลูบหัวไอ้ก้องเล่น”

            “ยี๋!!!! วันไหนว่ะ...”สาว ๆ ร้อง

            “ไอ้เชี่ย!”ไอ้ก้องตบกระบาลไปหนึ่งที

            “น้ำไม่ไหล จิดเลยเช็ดอย่างเดียว แฮะๆ”ทุกคนหัวเราะเสียงดัง

            “ไอ้เลว!!!!!”เสียงรุมประณามดังกึกก้อง

            “เฮ้ย!? เมื่อวานตอนไหนว่ะ...ก็เมื่อวานกูให้มันช่วยหั่นแตงทำกับข้าวตอนเย็น”ไอ้หวานถามโพล่งออกมา ทุกคนมองหน้าหาคำตอบกันใหญ่ เจ้าตัวมันหัวเราะแฮะ ๆ ไม่ยอมตอบ

            “ก็ก่อนที่มึงจะจิกมันเข้าครัวไง!!!”ไอ้โรลหัวเราะ เทเหล้าหนึ่งกรึ่บ

            “อี๋!!! ไอ้เลว!!!! ไอ้ชั่ว!!!!! สกปรก!!!! ซกมกที่สุด!!!”เสียงด่ามันยังมีต่อไป ไอ้โรลจะทำเนียนยกอีกกรึ่บ แต่โดนไอ้ชัดโบกเสียก่อน

            “ไอ้สัส พอ!

            “มึงแม่ง!!!!”บ่นแล้วเดินออกมานั่งข้างผมโว้ย ไอ้นาวยื่นเท้าไปให้มันนวด ไอ้โรลมันก็นวดอย่างรู้งาน เหอ ๆ ปากมันก็พูดพล่ามไปเรื่อย

            “เดี๋ยวผัวแม่งตามมาด่า เมาแล้วอ้อนทุกทีเลย”ไอ้ชัดพูดเสียงดัง

            “อ้อนไรว่ะ!?”ไอ้คิ้วถาม

            “อ้อนตรีนนนนนนน”ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน

            “ไอ้พวกเลววววววว”เรียกคำด่าจากไอ้โรลได้เป็นอย่างดีเลย ไอ้ปี่เอาบ้างครับ

            “เฮ้ยกูก็มีเรื่องจะมาเล่า”

            “อะไรว่ะ!?!

            “ไอ้มดมันมีแฟนแล้วนะโว้ยยยยยย”

            “เฮ้ยจริงเหรอว่ะ!?”ไอ้ชัดทำหน้าตกใจ ไอ้มดเป็นหญิงไทยใบหน้างาม ผิวขาวผ่อง ตาตี๋เท่าเส้นดายขีดเดียว และตัวใหญ่ขนาดลูกช้าง คึคึคึ

            “ขนาดมันยังขายออกเลยนะโว้ย”ไอ้ชัดพูดแล้วมองไอ้คิ้วหัวจรดเท้า โดยไอ้คิ้วโบกไปหนึ่งที

            “กูรักนวลสงวนตัวไอ้สัส!!!!”เรียกเสียงเฮได้อีกรอบ ผมทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย วางงานแล้วเดินผ่าไปนั่งกลางวง

            “เฮ้ย ๆ ขอกูบ้างดิ”ทำท่าเหมือนหมาขอข้าว ไอ้ชัดมันเทใส่แก้ว

            “อ๊ะ...”ผมแล่บลิ้น กำลังจะหยิบ..มันก็ดึงออก ไอ้สลัดผัก!!!!!!

            “คนอื่นเขามีเรื่องฮา ๆ มาเล่า มึงละมีอะไร...?”ไอ้เพื่อนเวรถาม

            “กูไม่มีอ่ะ...แต่กูอยากกิน”ผมคว้าแก้วมาก่อน แต่ช้ากว่าอีกมือ แย่งกันจนเหล้ากระฉอกออก ผมเงยหน้ามองอีกมือที่ว่า

            “แก้วนี้ของกู!”กระแทกเสียงใส่ไอ้บอล

            “มึงกินไม่ได้ ไม่สบายไม่ใช่เหรอไง”

            “เออ!!!!”ทุกคนพยักหน้า

            “เฮ้ย ให้มันสักกรึ่บ...พรุ่งนี้คงได้ลุกวิ่งขึ้นไปแบกปูน สบาย...”ไอ้วิส่งเสียงมา

            “เออ ๆ แก้ไข้โว้ย...แก้ไข้”เพื่อนคนอื่นก็เชียร์ ผมยักคิ้วอย่างเป็นต่อ แต่ไอ้บอลทำหน้าเครียด

            “มึงไม่สบาย...แล้วพ่อมึงก็นั่งอยู่โน่น”มันย้ำ

            “เฮ้ย...เรื่องสิว ๆ อาเสือไม่ว่าหรอก”ผมจะชักแก้วออกจากมือมัน ศึกสงครามน้ำหมักครับท่านผู้ชม!!! ไอ้บอลมันทำหน้าเครียดมากขึ้น ก่อนจะพูดให้ได้ยินกันสองคน

            “ลูกออกมาหูตาไม่มีนะสัสกินเข้าไปดิ!”คว้าแก้วได้ มันก็ยกเอือกเดียวหมด ทิ้งให้ทุกคนมองและร้องโหยหวนอย่างเสียดาย

            “ไป ๆ เดี๋ยวพ่อจับตีก้น”ไอ้ชัดมันไล่ผมทันที

            “ไอ้พวกเวร!”ลุกอย่างเสียหน้า แต่ก็ดีใจที่มันห้ามไว้ได้ทัน ท้องแล้วกินไม่ได้เหรอว่ะ...แค่กรึ่บเดียวเอง!?!?!
 


            “เฮ้ย...ไม่เรียกอามึงเข้ามานอนในห้องว่ะ เอาเตียงชิดกันมันก็นอนได้ตั้งสามคน หรือไม่งั้นให้ไอ้นาวมานอนตรงกลางกูกะไอ้บอลก็ได้”ไอ้โรลเสนอ หลังจากไปขอหมอนกับผ้าห่มชาวบ้านมาเพิ่มอีกชุด และผ้าห่มผมก็มีตั้งสองผืน เลยทำตัวมีน้ำใจ...แบ่งให้อีกตั้งผืน

            “มึงอยากฟังเขาบ่นไหมละ!?”มันส่ายหน้า ไอ้นาวทำหน้าแย๋ ๆ คงจะคิดว่าแค่แฟนมันบ่นคนเดียวก็คงพอแล้ว เห็นเมื่อเย็นมันโทรศัพท์หาแฟน ไม่รู้อะไร...สงสัยงอนกัน ไม่ได้แอบฟังนะโว้ย ก็มันได้ยิน

            “แต่นอนข้างนอกมันก็หนาวนะโว้ย”ไอ้โรลมันยังไม่ยอมแพ้

            “พวกไอ้ชัดมันยังนอนกันได้ นอนมาหลายคืนแล้วด้วย”

            “มันเหมือนกันที่ไหนว่ะ ไอ้พวกนั้นมันหนังหนา...นอนกลางดินกินกลางทราย เดี๋ยวพ่อมึงก็ไม่สบายไปอีกคน”ผมถอนหายใจ จะว่าห่วงก็ห่วง ถึงเดินลุกออกไปจะไปดูหน่อยว่านอนยังไงกัน พอดีเดินสวนไอ้บอลหน้าห้อง

            “อย่าทำแบบนั้นอีกนะโว้ย...”มันเตือน

            “เออออออออ”ทำตัวเป็นอาเสืออีกคนนึงแล้ว!

            “ยังไม่นอนอีกเหรอ”อาเสือถามขึ้น ตอนผมเดินไปถึงกลางชาน ห้องมันไม่พอ อาโชติกับลูกน้องก็นอนในมุ้งตรงนี้ พวกสาว ๆ อุตส่าห์มากางมุ้งให้ส่วนตัวอีกด้านหนึ่ง ผมไม่ตอบอะไร...ยื่นผ้าห่มให้ แต่อาเสือส่ายหน้า

            “กาวเอาเถอะ...”

            “จึ้ก!!!!”ผมทำหน้าไม่สบอารมณ์ อุตส่าห์เอามาให้แล้วทำหยิ่งจะให้คนอื่นมองว่าผมเป็นเด็กใจร้ายใช่ไหม

            “กาวต้องนอนที่อุ่น ๆ ห่มไว้...”อาเสือไม่ยอมรับไปสักที ผมเลยโยนวางตรงพื้น

            “นอนได้ก็นอน นอนไม่ได้ก็กลับไปเลย!”พูดแค่นั้น ก็สะบัดหน้าเดินเข้าห้องตัวเอง ดีที่ตรงนั้นไม่มีคนไม่งั้นอาเสือคงได้เสียหน้ามากกว่าเดิมแน่ กลับมานอนที่ห้องตัวเอง ไม่ได้นึกห่วงอะไรอาเสืออีก จนกระทั่งค่อนคืนที่กำลังหลับสบาย ไอ้โรลมันมาสะกิดผม ในขณะที่ทุกคนรอบเตียงหลับไปแล้ว

            “กาว ๆ”มันเรียก

            “หืม?”ผมมองหน้ามันในความมืด แต่รู้ว่าเป็นไอ้โรลนั่นแหละ

            “เอาผ้าห่มไปให้พ่อมึงอีกดิ ไปเยี่ยวมาเมื่อกี้ กูเห็นเขาม้วนที่นอนไปห่ม”ไอ้โรลบอก ผมรีบลุกทันที ในใจก็นึกว่าแล้วอาโชติไปไหนว่ะ!?!?!?! ไอ้โรลลากผ้าห่มผืนหนาตามมาด้วย ผมมองอาเสือที่อยู่ในมุ้ง แล้วมองอาโชติกับลูกน้องที่หลับสนิท ถ้าอาเสือโดนฆ่าตอนนี้ ก็คงไม่มีใครรู้ตัว

            “ขอบใจ มึงไปเถอะ...”บอกแค่นั้น มันพยักหน้าเข้าใจทันที

            “เอาผ้าห่มอีกไหม...กูเอาออกมาให้อีก”ผมพยักหน้า มันก็ไปเอามาให้จริง ๆ

            “จะนอนนี่ใช่ไหม”มันถาม

            “อืม”หน้าแดงขึ้นแต่มันคงไม่เห็นหรอก (มั้ง?)

            “เออ ๆ”ไอ้โรลมันพูดง่าย นิดเดียวก็เข้าใจ ผมยิ้มขอบคุณมันก่อนจะผลุบเข้าไปในมุ้งอาเสือ แกะผ้าห่มออก แค่ขยับนิดเดียว อาเสือก็รู้ตัวแล้ว

            “ตื่นมาทำไมกาว?”อาเสือถาม ผมเอามือปิดปากไว้ไม่อยากให้คนอื่นตื่นมาได้ยินหรือเห็นอะไรทั้งนั้น คลี่เบาะนอนออก แล้วห่มผ้าผืนบางของอาเสือ ก่อนจะเพิ่มความหนาของผ้าห่มอีกสองชั้น แล้วสอดตัวลงนอนข้าง ๆ อาเสือ เห็นอีกคนยิ้มกว้าง แล้วดึงผมไปกอด

            “จุ๊บ”อาเสือใช้ปากเย็น ๆ หอมแก้มผม ผมเอามือจิกแขนอาเสือแน่น!!!! แต่ไม่มีเสียงร้องสักแอะ เกิดความย่ามใจหยิกอีกเจ็บ ๆ  ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จนพอใจ อาเสือผ่อนลมหายใจอุ่น ๆ รดใบหู ก่อนจะพูดเสียงกระซิบว่า

            “อาเจ็บ...”มือหนาเลื่อนมาคล้องตัวผมไว้แน่น ตัวเองก็ซุกเข้าอกอาเสือ รู้สึกว่า...คืนนี้อบอุ่นกว่าทุกคืน (จะยอมให้นอนด้วยแค่คืนเดียวเท่านั้นแหละนะ!!?!)




COMMENT PLEASE















5 ความคิดเห็น: