วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ตอนที่ 21 - กาวพาทัวร์



            ตอนที่ 21 กาวพาทัวร์
             มานอนที่ห้องอาเสือ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่อยากลุกเลย แม้จะโดนปลุกสองสามครั้งแล้ว ก็เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตั้งดึก ไม่ได้ทำอะไรหรอก...แค่นอนฟังเพลงและดูทีวี จนอาเสือขู่ว่าจะไล่ออกจากห้องไง ถึงต้องทนนอนฟังเพลงในความมืด กว่าจะหลับ!!
            “ตื่นได้แล้วกาว ช่วงโชติจะไปส่งที่มหาลัยฯ”เรียกอีกแล้ว ผมนอนขยับตัวบิดไปมา แต่ตายังหลับ ขี้เกียจตื่น มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
            “ตกลงวันนี้จะไปหาอาไหม...สักเที่ยง ๆ ก็ได้ อาจะได้ออกมาทานข้าวแล้วไปกับกาวเลย”
            “ห๊ะ!?!? อาเสือไม่ได้หยุดทั้งวันเหรอ??”ผมทำเสียงไม่พอใจ
            “อาหยุดทิ้งงานไปเลยไม่ได้ ลูกน้องจะมองว่ายังไง....ไหนผู้บริหารคนอื่นอีก”
            “มีเวลาให้กาวแค่ครึ่งวันสินะ...กะอยู่ละ ให้ได้แค่นี้จริง ๆ”ผมพูดเหยาะ ๆ ใส่อาเสือ
            “เรานี่มันพูดมากจริง ๆ เลยนะ บ่นโน่นบ่นนี่...ลุกขึ้นไปอาบน้ำ!
            “กาวไม่ไปหาอาเสือแล้ว ถ้าอาเสืออยากไปกับกาว...ก็ไปรับกาวที่มหาลัยฯ ก่อนเที่ยงด้วย ไม่งั้นกาวจะไปทางอื่น”
            “กาว...”
            “อาเสือมีงานต้องทำ กาวก็มีงานต้องทำเหมือนกัน...ไม่งั้นวันนี้ก็ยกเลิกไปก็ได้ ไม่สำคัญอะไรอยู่แล้วนี่...สำหรับอาเสือ”ผมบอกอย่างน้อยใจสุด ๆ อุตส่าห์เฝ้ารอ สุดท้ายอาเสือก็เลือกงานมากกว่าอยู่ดี เรื่องอะไรที่จะต้องไปคอยวิ่งตามหลังต้อย ๆ ผมไม่ได้ง่ายนะ!!!!
            “อย่าประชดอา”
            “ก็ดีแต่พูดแบบนี้...”ผมลุกขึ้นจากที่นอน กระทืบเท้าออกจากห้องอาเสือ ร้องเรียกหาสุดา
            “สุดาๆๆๆๆ”ตะโกนดังลั่นบ้าน ไม่นานสุดาก็วิ่งขึ้นมาหน้าตาตื่น
            “คุณกาวต้องการอะไรคะ???”สุดารีบถาม
            “กาวจ้างหมื่นนึง เอาไม้หน้าสามไปฟาดหัวอาเสือให้ที!!!!! หมั่นไส้!!!!!”นั่งกอดอกบนเตียง
            “โหย...ไม่คุ้มหรอกค่ะ ให้สุดามีชีวิตอยู่ต่อไปเถอะนะคะ”
            “จึ้กๆๆๆ ไม่ได้เลือกเลยสักคนบ้านนี้!!!”ล้มตัวลงนอน ทำเอาสุดาถอนหายใจ ก่อนจะดึงแขนผมขึ้น
            “อย่าเนียนเลยค่ะ นี่จะเจ็ดโมงแล้วนะคะ สุดากลัวไม่ทัน...เลยให้คนขับรถเอาของไปส่งก่อน คุณกาวรีบอาบน้ำเถอะค่ะ”สุดาบอก พอได้ยินว่าให้คนไปส่งของแล้ว มันโล่งงงงง...เสียจริง ๆ ถ้างั้นก็ยิ่งไม่ต้องรีบก็ได้ ไม่มีเรียนอยู่แล้ว
            “ดีเลย ขอนอนต่ออีกแปบ..”
            “คุณกาว!!!!!”สุดาเอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด ฮี่ฮี่ สุดท้ายก็ได้นอนต่อไม่มีคนมากวน จนตื่นขึ้นเองอีกทีประมาณ โมงเช้า ฮ้าววววว...อาเสือคงไปทำงานแล้ว บ้านเงียบ...แต่แค่โผล่หน้าก็เห็นอานัยนั่งวางท่าอ่านหนังสืออยู่ห้องรับแขก
            “คุณท่านให้ไปรอที่บริษัท...คุณกาวขึ้นไปแต่งตัวให้เรียบร้อยได้แล้วครับ”
            “กาวยังไม่ได้กินข้าว...แล้วก็จะไม่ไหนทั้งนั้นนอกจากมหาลัยฯ”ผมบอก เดินเข้าห้องอาหาร
            “สุดาไปไหน”หันไปถามพี่อู
            “ข้างนอกค่ะ”
            “ตามให้กาวหน่อย”
            “ค่ะ...”พี่อูให้คนออกไปตาม ระหว่างที่ผมกำลังทานอาหาร
            “ให้คนตาม ต้องการอะไรเพิ่มคะ?
            “กาวสระผมแล้ว ทำสีให้หน่อย”
            “คุณกาว!!
            “ขออาเสือแล้ว อาเสืออนุญาตไม่เชื่อโทรไปถามได้เลย”สุดาจ้องหน้า แล้วก็หันไปมองหน้ากันกับแม่บ้านคนอื่น ๆ ไม่มีใครกล้าตัดสินใจอะไรหรอก นอกจากสุดาจะยกหูโทรศัพท์หาอาเสือ
            สุดท้ายก็อนุญาตจริง ๆ ผมนั่งรอสุดากำลังผสมสี ก่อนอื่นต้องผสมยาย้อมผมก่อน ทันทีที่ได้กลิ่นน้ำยาที่คุ้นเคย กลับไม่ชอบเอาซะเลยกลิ่นมันแรงมาก...จนปวดหัวจี๊ด!!
            “เอ๊ะ!?!?! ทำไมกลิ่นมันแรงขนาดนี้ละ!?!?
            “ก็น้ำยาเหมือนทุกครั้งไงคะ คุณกาวก็ใช้ยี่ห้อนี้ได้ยี่ห้อเดียวอยู่แล้วนี่”สุดาบอก เดินไปเปิดหน้าต่างให้มีลมระบาย มือก็สวมถุงมือเรียบร้อย
            “สุดา...กลิ่นมันแรงเกินไป”ผมบอก ยกมือปิดจมูก
            “จะทำไหมคะ?”ผมลังเล แต่พยักหน้า...ทั้งที่ในใจกลับพะอืดพะอมมาก อยากอ้วก
            กว่าจะผ่านพ้นขั้นตอนผสม ก็เริ่มขั้นตอนต่อไปด้วยการเอายาที่ได้มาละเลงบนหัวผม สุดาย้อมให้เหมือนทุกครั้ง ผมนั่งโงนเงนไปมา เวียนหัวสุด ๆ อยากล้มตัวลงไปนอน เพราะอะไรไม่ทราบ ยกมือวัดไข้ตัวเอง ตัวก็ไม่ร้อนและไม่ได้ปวดหัว แต่ทำไมรู้สึกไม่ค่อยดีเลย คอแห้งจัง
            “เอาน้ำให้กาวหน่อย”บอกพี่อู แม่บ้านอีกคน จิบน้ำสักหน่อยคงดีขึ้น
            “คุณกาว หน้าซี๊ดซีด”พี่อูบอก ผมเงยหน้ามองตัวเองในกระจก ก็จริงอย่างที่พี่อูว่า สบตาสุดาในกระจกด้วย สองมือค้างที่บนหัวผม
            “คุณกาวไม่สบายเหรอคะ????”สุดารีบถาม
            “เวียนหัวกลิ่นยาย้อมผม”ผมสันนิษฐานตัวเอง สุดายกมือออกแล้วเดินมาข้าง ๆ เพื่อมองหน้าผมให้ชัด
            “ทำไปนิดเดียว ล้างผมก่อนดีไหมคะ...สีหน้าดูไม่ดีเลย เผื่อจะแพ้กลิ่นนี้อีก”ผมพยักหน้า ลุกขึ้นจะไปล้างผม แต่เมื่อห้องมันวิ้ง ๆ หมุนได้ ตัวเองเซเหมือนจะยืนไม่อยู่ เอามือจับเก้าอี้ไว้ทัน
            “คุณกาว!!!!!!!”แม่บ้านร้องกันใหญ่ ผมสะบัดหัวสองสามที ก่อนจะ....
            “อ๊อกกกกกกกกกกกกกกกก....”อาเจียนออกมาตรงที่ยืน
            “คุณกาว!!!! ตามคุณวินัยที...เอารถออกไปรพ. คุณกาว!!!!”ผมโบกมือไล่
            “เปล่า ๆ แค่เวียนหัว”ผมร้องบอก ก่อนจะล้มลงนั่งเก้าอี้ตามเดิม เพราะยืนไม่ไหว
            “เป็นยังไงบ้างคะ น้ำละน้ำ...เอาน้ำมาหน่อย”
            “ยะ อยาก...อ้วก”ผมบอก สิ้นคำก็โดนประคองลุกขึ้น เข้าไปโก่งคออาเจียนทันที ไม่ไหว...กลิ่นยาบนหัวมันแรงมาก
            “ล้างผมออกเถอะค่ะ สุดาว่าท่าไม่ดีเลย”
            “อืม”ผมบอก สุดาให้นอนบนโต๊ะนอนยาวสระผมเหมือนของร้าน แล้วล้างผมให้ผมอย่างดี ลงยาสระหลายครั้ง แต่กลิ่นเหมือนยังไม่หาย ผมอยากอาเจียนตลอดเวลา
            “คุณกาวเป็นอะไร”อานัยถามเสียงเข้ม
            “อาเจียนค่ะ สงสัยจะแพ้กลิ่นยาย้อมผม”สุดาบอก อานัยยกกล่องยาย้อมขึ้นมาดู
            “ก็ยี่ห้อที่เคยใช้นี่ ใช่ไหม?
            “ใช่ค่ะ ทำไมถึงเป็นก็ไม่รู้”
            “ไปโรงพยาบาลเถอะครับ เผื่อเป็นอะไรมากกว่านี้”อานัยบอก ผมส่ายหน้า...ทั้งที่ไม่มีแรง
            “กาวไม่ไป อยากนอนพัก...อยากอ้วก”อาเจียนอีกที เอาให้หมดไส้หมดพุง สุดาล้างผมแล้วเช็ดให้ ตัวผมเองไม่มีแรงลุกแล้ว นอนให้เช็ดผมให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อและถูกอานัยอุ้มไปนอนห้องอาเสือ เพราะห้องตัวเองเละไปเรียบร้อย แม่บ้านต้องเข้ามาทำความสะอาดกันยกใหญ่ กลิ่นห้องอาเสือทำให้รู้สึกสบายขึ้น จนกระทั่งหลับไปเอง
            “กาวๆ”เสียงคนเรียกทำให้ตื่นขึ้นมา
            “อะ อาเสือ”
            “เป็นยังไงบ้าง...วินัยโทรไปบอก อาก็รีบกลับมา...ตอนนี้รู้สึกยังไง?
            “ดีแล้ว”ผมลุกขึ้น เหมือนธรรมดา คงเพราะกลิ่นผมมันจางไปแล้วด้วยละ มองตัวเองในกระจก...สีผมยังเป็นสีดำแบบเดิม หงุดหงิด!!!!!! เกลียดสีผมนี้!!!!!!!
            “ไปหาหมอไหม กาวดูไม่ดีเลย”
            “ไม่ไปไหนทั้งนั้น เรียกสุดามาย้อมผมให้กาวหน่อย!!!
            “กาว อย่าเพิ่งดื้อสิ...ตัวเองหน้าซีดขนาดนี้ไม่ยังยอมอีกเหรอ”
            “กาวไม่ชอบสีนี้ กาวเกลียดผมสีดำ กาวไม่ชอบ...”ผมร้องไห้ ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงร้องออกมาง่าย ๆ ทั้งที่เป็นเรื่องเล็กน้อย อาเสือประคองมือจับไว้แล้วตบเบา ๆ
            “กาวเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”
            “กาวไม่รู้...กาวไม่ชอบ ไม่ชอบผมสีนี้!!! ฮึก...เรียกสุดาให้หน่อย”ผมทึ้งหัวตัวเอง จนอาเสือต้องมาจับออก
            “โชติ!!!!!
            “ครับ”อาโชติวิ่งเข้ามารวดเร็ว
            “ตามสุดาให้ที”
            “ฮือออออ ๆ ๆ ๆ”
            “หยุดร้อง กาวจะทำให้อาเริ่มเป็นบ้า”
            “กาวไม่หยุด มันหยุดไม่ได้...ฮือ ๆ กาวบอกแล้วว่าเกลียดผมสีนี้ ฮือ ๆ ๆ”
            “คุณกาว...”สุดาร้อง ก่อนจะวิ่งมาทรุดตัวลงข้าง ๆ เตียง เพราะไม่เคยเห็นผมร้องไห้ก๊อกแตกขนาดนี้ ทุกคนดูตกใจมาก ๆ
            “เป็นอะไรไปคะ”
            “ทำสีผมอื่นให้กาวหน่อย กาวอยากได้สีชมพู”
            “ห๊ะ...”
            “สีชมพูด้วย สีฟ้าด้วย เอาสองสีเลย”ผมบอก
            “ไม่ได้กาว!!!!! สีเดียว!!!! เอาสีฟ้าแบบเดิมก็ได้...”
            “ไม่!!!! เอาสองสี ผสมกัน!!!!
            “โอเค!!! แล้วหยุดร้อง!!!!”อาเสือตวาดเสียงดังลั่นห้อง ทำหน้าน่ากลัว ผมนั่งสะอื้นที่บนเตียง แล้วก็หยุดร้องได้เฉย ๆ นึกในใจว่า บ้าหรือเปล่าว่ะกู
            สุดาเตรียมทำสีผมให้อีก คราวนี้ไปผสมสีที่อื่น แล้วค่อยมาชโลมบนผม ทันทีที่ได้กลิ่นก็เริ่มอยากจะอาเจียนขึ้นมาอีก แต่ก็ทน...เพราะอาเสือยืนดูอยู่ด้วย ทำแล้วต้องทิ้งไว้อีกเป็นชั่วโมง กว่าจะเสร็จได้ล้างผมก็ทำเอาอาเจียนอีกสองรอบ จนได้สีผมที่ต้องการ จึงค่อยยิ้มออกมาได้
            “พอใจแล้วใช่ไหม”อาเสือถาม ผมพยักหน้า
            “ทำแล้วไม่มีกลิ่นก็ค่อยโอเคหน่อย สีนี้สวยไหมอาเสือ...กาวชอบ”ผมมองตัวเองในกระจก เป็นสีเดิมคือสีฟ้าคราม แต่เพิ่มสีชมพูตามปลายผมติดมาด้วย
            “อาไม่ชอบ”
            “แต่กาวชอบ”ผมย้ำหน้ามุ่ย อาเสือยื่นมือจะมาแตะตัว ผมปัดออก สุดท้ายก็เดินหนีไปที่ห้องแต่งตัว
            “ยังจะไปอยู่รึเปล่า”ผมถาม หลังจากอาเสือเดินตามเข้ามา
            “หึหึ อาต้องถามกาวมากกว่าว่ายังจะไปไหวไหม”
            “ไหว...ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”ผมกำลังเลือกเสื้อกับกางเกง เป็นเสื้อแขนยาวสีขาว ลากดาวตัวที่อาเสือซื้อให้ กับกางเกงขาเดฟสีเข้ม
            “หึหึ เด็กดื้อเลือกชุดแบบนั้นแล้วอาควรจะใส่อะไรดี?”อาเสือถาม ผมหันไปมอง ชุดไหนงั้นเหรอไม่เคยเลือกเสื้อผ้าให้อาเสือเลยสักครั้ง ชุดไหนดีละ...ที่จะเหมาะกับเดทของเรา??
            เปิดตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ห้องอาเสือ ภายในจัดเป็นระเบียบแยกเป็นตู้ชุดไปทำงาน ชุดสูทออกงาน และชุดไปเที่ยว เพิ่งสังเกตว่าไม่ค่อยมีกางเกงขาสั้นเลย มีแต่ลายสก๊อตซึ่งแก่มาก เหมาะใส่ไปแค่ตีกอล์ฟเท่านั้น!!!
            “อาเสือไม่มีกางเกงยีนส์เลย!!!”บ่นออกมา อีกอย่างที่ไม่มี เสื้อผ้าทั้งหมดสีเข้ม ไม่ก็ดำ ครีม เป็นทางการไปซะทุกตัว
            “อาเสืออยากใส่ชุดไหนก็ตามใจแล้วกัน กาวไม่เลือกแล้ว...ขี้เกียจปวดหัว”ผมบอก อาเสือเข้ามากอดเอว
            “แค่นี้ก็เลือกให้อาไม่ได้”
            “ก็มีแต่แก่ ๆ กาวไม่ชอบสีเสื้ออาเสือเลยสักนิด...”ผมบอก ใครอยากใส่แบบไหนก็ใส่แบบนั้น ตามสบายเถอะ ผมไม่เลือกมากเรื่องนี้กับอาเสือหรอก!!!!
            “อาต้องให้กาวเลือก เพราะว่ากาวเล่นใส่ชุดวัยรุ่นขนาดนั้น...อาอยากจะบอกกาวว่า ให้กาวดูอาด้วย ว่าชุดไหนที่กาวว่า...เราเดินด้วยกันแล้วจะไม่เหมือนพ่อลูก”อาเสืออธิบายยาว ๆ จนผมขำ อ่อ...ที่ให้เลือกให้เพราะอย่างนี้ นี่ไม่พูดออกมาผมก็ไม่รู้หรอก
            “คิคิคิ โอเคก็ได้...อาเสือก็ไม่แก่หรอก แค่ชอบทำตัวให้ดูแก่”ผมบอกยิ้ม ๆ เลือกเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้ม ส่วนกางเกงหาตั้งนาน อุตส่าห์มีขาสั้นอยู่ ตัวนี้ก็เท่ดี...
            “ได้ของอาเสือแล้ว กาวไปอาบน้ำนะ...หิวข้าวมากเลย อาเสือรีบ ๆ”ผมบอกก่อนจะวิ่งกลับห้องตัวเอง สุดากำลังจัดห้องให้
            “สุดาขอสปาเก็ตตี้ซอสกุ้งด้วย กาวหิวมาก ๆๆๆ”ตะโกนดังลั่น วิ่งผ่านเข้าห้องอาบน้ำ
            “คุณท่านจะพาออกไปกินข้างนอกไม่ใช่หรอกคะ?
            “กาวหิว จะกินก่อนไป”ผมบอกอีก รีบอาบน้ำ ไม่รู้เป็นอะไร...อาเจียนอีกรอบ ก่อนลงมา
            “อาว่าไม่ค่อยดีแล้ว กาวไม่เคยอาเจียนแบบนี้หลายครั้ง...อาหารเป็นพิษรึเปล่า”อาเสือถาม สปาเก็ตตี้สุดอร่อยถูกยกมาวางตรงหน้า อาเสือก็ทานแบบเดียวกัน ผมไม่ตอบ...ลงมือจัดการอาหารของตัวเอง กินทดแทนสิ่งที่ออกมา กิน ๆ อร่อยสุด ๆ
            “เอาอีก”
            “หึหึหึ เด็กดื้อยังจำได้ไหมว่าเราจะไปข้างนอกกัน”
            “จำได้...แต่ขอกินก่อน มันอร่อยนี่นา”ผมบอก พี่อูตักให้อีกผมก็กินหมดอีก โอ๊ยอร่อยสุด ๆ
            “เย็นนี้กาวจะกินอีกนะ...”บอกก่อนออกจากบ้าน
           
            “กาวอยากไปไหน”อาเสือถาม ขับรถมากันสองคน มีคันของอาโชติขับตามหลัง แต่ไม่มาใกล้ให้กวนมาก
            “อืม ไปเดทก็ต้องกินข้าวดูหนัง แต่กาวกินไม่ไหวแล้ว...”จับพุงตัวเอง อาเสือหัวเราะ
            “งั้นดูหนัง”อาเสือบอก ผมอมยิ้ม ไม่เคยมาดูหนังกันสองคนเลย
            “เอาเรื่องที่กาวชอบนะ...”
            “เอาแต่ใจตลอดเลยเรา”ผมยิ้มตลอดทาง
            “อาเสือจะใจดีกับกาวแบบนี้ตลอดไปเลยรึเปล่า?
            “อาไม่ได้เป็นแบบนั้นอยู่เหรอ?
            “อาเสือชอบดุกาว แล้วก็ตวาดใส่กาว...กาวไม่ชอบ”
            “เพราะเรามันดื้อไง พูดอะไรไม่เคยฟัง”
            “ถ้ากาวไม่ดื้ออาเสือห้ามดุกาวนะ”ผมอ้อน อาเสือเงียบไปสักแปบนึง
            “นะ...”
            “อืม...”
            “เย้....”ยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มอาเสือ
            “หึหึ เรานี่มัน.....”อาเสือส่ายหน้า

            วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ อาเสือเลือกที่นั่งแบบดีที่สุด ผมงี้ยิ้มหน้าบาน เพราะอย่างที่บอกว่ามากับอาเสือครั้งแรก แต่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่อาเสือมาดูหนังในโรงหรอกมั้ง เดาเอาจากท่าทางการซื้อบัตรนะ!!! ระแวงดิ...หูงี้ตั้งอยากรู้ขึ้นมาทันที อาเสือเคยมากับใครไหม?
            “กินอะไรไหม ป๊อปคอร์น? แป๊ปซี่?
            “ไม่เอา กาวไม่อยากกินอะไรแล้ว”ผมบอก ยืนมองอาเสือทำหน้าไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่
            “อาเสือเคยมากับใครรึเปล่า”ผมถามออกไปเพราะความอยากรู้ของตัวเอง
            “หืม?
            “อาเสือเคยมาดูหนังกับใครรึเปล่า?”อาเสือหัวเราะ
            “กาว!! อาอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว...ผ่านโลกมาเยอะกว่ากาวนะ เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่เคย”อาเสือว่า
            “กับใคร?”ผมรีบถาม
            “กับเพื่อน กับคนโน้นคนนี้เยอะแยะ กาวไม่ต้องอยากรู้...เพราะรู้ไปก็จะหงุดหงิดตัวเองเปล่า ๆ ตอนนี้อาอยู่กับกาวแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น”
            “กาวระแวง...”บอกตรง ๆ อาเสือยืนนิ่ง
            “กาวเคยมาดูหนังกับเพื่อนไหม”อาเสือถามกลับ ผมพยักหน้า...ก็มาบ่อยเหมือนกัน ไอ้บอล ไอ้โรล ไอ้กอล์ฟ ไอ้บี แล้วแต่ว่าช่วงนั้นมีหนังเรื่องไหนที่อยากดู หรือว่าใครว่าง...บางทีพี่ฟ้าแฟนไอ้โรลก็เลี้ยงหนัง เราทั้งหมดจะพลาดได้เหรอ ก็ขนกันมาหลังเลิกเรียน เป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นไม่ใช่เหรอไง?
            “หึหึ กาวเคย อาก็ต้องเคยสิ”
            “กาวเป็นวัยรุ่นอยู่ก็ต้องมาสิ!!!”ผมเถียงกลับ อาเสือหัวเราะ จับมือผมน้อย ๆ
            “อาไม่ได้โตมาแล้วอยู่วัยทำงานเลยนะ อาก็มีชีวิตวัยรุ่นเหมือนกันกาวนั่นแหละ”
            เออ...จริงเถียงไม่ออก
            “ไม่ใช่ ๆ กาวหมายถึงโตแล้ว...”ผมรีบแก้
            “โตขนาดไหน?
            “กะ ก็โต...”ผมหาคำอธิบายไม่ได้ แต่แถได้ต่อ
            “อาซื้อน้ำเผื่อกาวหิว...”อาเสือพาเดินไปซื้อน้ำเปล่า ขณะที่เรายืนเถียงเอ้ย...ยืนคุยกันอยู่ อยู่กับอาเสือแบบนี้ เหมือนว่าทั้งโรงหนังมีแค่เราสองคนเลย ชอบที่อาเสือไม่ดุอย่างนี้
            “ถ้าโตแล้ว...ไม่เคย กับกาวคนแรก”อาเสือบอก ผมดีใจยิ้มกว้าง พากันเดินเข้าโรงหนัง
            “ห้ามมากับใครนะ...มากับกาวได้คนเดียว”
            “หึหึ อาห้ามกาวได้รึเปล่า”อาเสือดันให้ผมเดินนำ เพราะทางมันมืด ก่อนจะเอามือรวบเอวหลวม ๆ ไว้กันผมสะดุด
            “ไม่ได้เพราะกาวชอบดูหนัง ถ้าอาเสือไม่ว่าง...กาวก็ต้องหาคนพามาอยู่ดี”
            “เอาแต่ใจตลอด”อาเสือบ่นเล็กน้อย ที่นั่งเราเป็นส่วนตัว แยกห่างจากคนอื่น และอยู่ในมุมที่ดี เบาะก็ใหญ่ใช้ได้
            ในโรงมันจะมืด ๆ อารมณ์แบบว่าอยากอ้อนมาก ไม่เคยมีโมเม้นแบบนี้เลยสอดมือกอดอาเสือเอาหน้าซบไหล่ อาเสืออมยิ้ม ก่อนจะสอดมือมากอดผมเหมือนกัน
            “ถ้ากาวตาย...อาเสือห้ามมีใครนะ”กระซิบเบา
            “กาวจะไม่ตายก่อนอาเด็ดขาด”ผมกอดอาเสือแน่น ๆ ดูหนังแบบจมลึกในความคิดของตัวเองต่อไป จนกระทั่งจบเรื่อง ไฟในโรงเปิดขึ้นพรึ่บ เราสองคนก็ผละออกจากกันโดยอัตโนมัติ
            “อยากไปไหนต่อ...?
            “กาวมีที่นึง เคยลากไอ้โรลไปด้วย แต่มันด่ากาวชิบหาย...”เอ่อ...ลืมตัวคิดว่าคุยกับเพื่อน อาเสือก็ชะงักกึก จ้องหน้านิ่ง รู้ละ...ว่าไม่พอใจ ที่ดันปล่อยคำหยาบออกไปแบบนั้น
            “ดะ ด่ากาวมากมาย”
            “ที่ไหน?”อาเสือลูบริมฝีปาก แต่น่ากลัวอ่ะ....ผมรีบลากอาเสือออกเดิน ขณะที่สายตาก็สอดส่องเห็นอาโชติกับลูกน้อง ลุกขึ้นเดินตามอยู่ไกล ๆ ร้านที่ว่าไม่ห่างจากที่นี่มากนัก ไปครั้งแรกก็ขัดเขินแต่ไอ้คิ้วมันเป็นคนพาไป พอได้ทำครั้งนึงมันรู้สึกสบายมาก ๆ พนักงานที่ร้านก็ให้คำแนะนำดีด้วย ว่าผู้ชายก็ทำได้...ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เดี๋ยวนี้คนที่รักความสะอาดก็มาทำกันทั้งนั้น
            “ทำเล็บ???”อาเสือถามเสียงสูง
            “อือ”อาเสือส่ายหน้ารัว เดินหนี
            “อะไรอ่ะ!!!!! กาวยังชอบเลย!!!!
            “นี่มันร้านผู้หญิง”อาเสือบอก
            “ผู้ชายก็ทำได้ กาวเคยทำแล้ว”ผมลากอาเสือเข้าร้าน พนักงานต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
            “สวัสดีค่ะ คุณกาว...วันนี้จะมาทำอะไรดีคะ”คิ้วมันเป็นเมมเบอร์ VIP ของร้าน ผมเลยได้อานิสงส์ไปด้วย พนักงานที่นี่รู้จักผมดี
            “สปามือ สปาเท้าดีกว่า...อาเสือจะได้สบาย รับรองว่าต้องติดใจแน่ ๆ”ผมบอก
            “เชิญเลยค่ะ”
            เข้าไปในห้องที่จัดไว้ให้ส่วนตัว ผมนั่งลงข้าง ๆ อาเสือ เอามือเท้าคางตัวเองไว้ มองหน้าอาเสือ
            “กาวรู้จักที่นี่ได้ยังไง”
            “เคยมากับคิ้ว”ผมบอก อาเสือพยักหน้า
            “จำที่อาเคยบอกได้ไหม...อย่าให้ใครแตะตัว”
            “โธ่...อาเสือ!!! มันก็ต้องมีผ่อนปรนกันบ้างน่า”ผมหัวเราะ พนักงานเดินเอาอุปกรณ์เข้ามา จึงไม่ได้คุยอะไรกันต่อ เบาะถูกปรับให้นั่งสบาย มือและเท้าแช่น้ำอุ่น ๆ ก่อนจะมีพนักงานมานวดมือ ยิ่งได้กลิ่นหอม ๆ ของอโรมาเทอราพี ยิ่งรู้สึกอยากหลับ ผมสบาย...แต่อาเสือนั่งเกร็ง จ้องหน้าพนักงานสองคนเขม็ง จนอยากจะขำ
            ผมง่วง...เลยหลับเพราะว่ามันสบายมากจริง ๆ ตื่นอีกทีมือเท้าก็เสร็จเรียบร้อย รออาเสือจ่ายสตางค์ เหมือนว่าอาเสือจะเงียบ ๆ ไป
            “อาเสือ...”
            “หืม”
            “กาวหิวข้าว”
            “หึหึ อาว่าแล้ว...ทำนานขนาดนี้ กาวต้องหิวแน่ ๆ”
            “อาเสือชอบไหม กาวชอบ...มันสบายดีนะ”ผมถาม อยากให้อาเสือชอบด้วยเหมือนกัน
            “ไม่ชอบ”คำตอบของอาเสือทำให้รู้สึกแย่ หมดสนุกขึ้นมาทันที เดินนิ่ง ๆ สลดมาก อาเสือเอามือมาโอบคอผมเอาไว้
            “อาไม่ชอบให้ใครแตะตัวกาว ไม่ชอบที่เขาสัมผัสมือกาว ไม่ชอบ ไม่ชอบ...และไม่ชอบ!”ผมมองหน้าอาเสือช้า ๆ พูดแบบนี้มันทำให้เขินมาก แถมยังรู้สึกประหม่าอีก!
            “ก็กาวชอบนิ”ผมยืนยันคำเดิมของตัวเองแบบเขิน ๆ เดินไปร้านอาหารที่ตัวเองเป็นคนเลือก ไม่อยากมองหน้าอาเสือเลย
            “มานั่งฝั่งนี้...”
            “ไม่เอา...”
            “มาเร็ว ๆ”ยอมเดินไปนั่งด้วยก็ได้ อาเสือเอามือคล้องเอว
            “ว่าง่าย ๆ หน่อยสิ อาเหนื่อยนะ”
            “ก็อาเสือชอบทำให้กาวทำตัวไม่ถูก”อาเสือยิ้ม
            “หึหึหึ...”
            นั่งสั่งอาหารกันไป หิวมาก ๆ แต่ว่ากลิ่นอาหารจากโต๊ะอื่นทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดี แต่คิดว่าตัวเองคงไม่เป็นไร ทนนั่งต่อไป กลิ่นก็ไม่รบกวนมากเท่าไหร่ คงเพราะหิว
            “เดี๋ยวอาพาไปซื้อของ...กาวมีอะไรที่อยากได้ไหม”
            “ทุกอย่าง”ผมรีบตอบ อาเสือหัวเราะ
            “ทุกอย่างคงซื้อให้ไม่ไหว เอาที่สำคัญที่สุดสิ”ผมนึก...
            “เอางี้ดีกว่า...กาวไปอยู่ค่ายเกือบเดือนอย่างนี้ อาซื้อของเอาไว้ให้กาวติดตัวไปที่โน่นดีไหม”อาเสือแนะนำ ผมพยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มกว้าง
            “งั้นกาวจะซื้อของให้อาเสือด้วย...เวลาอาเสือไปทำงานจะได้คิดถึงกาว”
            “โอเค งั้นเดี๋ยวเราไปซื้อกัน”
            ร้านอาหารไทย ร้านนี้เป็นร้านโปรดที่ผมชอบ อาหารแบบไทย ๆ รสชาติไม่จัดจ้าน ในร้านส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติเสียมากกว่า เพราะว่าถ้าเป็นคนไทยก็บอกว่า อาหารแบบนี้หากินได้ทั่วไป ราคาก็ถูกกว่านี้หลายเท่า แต่ช่างสิ...ผมชอบรสชาติของที่นี่ ยอมจ่ายแพงกว่าแต่ได้อาหารที่ถูกปากก็พอแล้วไม่ใช่เหรอไง?
            ต้มยำกุ้ง ส้มตำไทย ปลาทอดกรอบ มัสมั่น ทอดมันปลากราย ถูกยกมาวางเรียงกัน ผมผลักมัสมั่นหนีไปหาอาเสือ เพราะเหม็นกะทิ อาเสือมองหน้าแต่ไม่พูดอะไร ข้าวสวยร้อน ๆ ถูกตักวางตรงจานทั้งของผมและอาเสือ
            “นี่ไหม...”อาเสือถามชี้ที่จานส้มตำ ผมพยักหน้า...อาเสือก็ตักให้ แล้วก็ทอดมันแต่ว่า...มันมีกลิ่นไม่ดีเลย ผมเขี่ยออก
            “ทำไมละ?
            “มันเหม็นกาวไม่ชอบ”ผมตอบ อาเสือคว้าจานทอดมันไปดม
            “ก็ปกติ”
            “กาวเหม็นเหมือนกลิ่นสาป”ผมบอก มวนในท้องเริ่มรู้สึกแปลก ๆ อาหารจากเมื่อเช้ากำลังตีมวนขึ้นมาแต่ยังไม่ถึงคอ
            “งั้นกินต้มยำ....อย่าบอกว่าเหม็นอีกนะ เพราะกาวชอบกินมาก”อาเสือดักคอ ผมซดน้ำซุปร้อน ๆ ค่อยคล่องคอ แต่ว่ารสชาติเหมือนจะยังไม่ถึงใจ
            “เอ่อ ขอโทษนะครับ...ขอพริกป่นเพิ่มได้รึเปล่า”ผมร้องขอจากพนักงาน ซึ่งทำหน้างง...แต่ก็เดินกลับเข้าไปเอามาให้ เสร็จแล้วก็เทใส่หม้อต้มยำทันที
            “กาว!!!!!”อาเสือตวาดตกใจ คงไม่คิดว่าผมจะเทลงไปทั้งหมด มันก็ไม่ได้เยอะอะไรหรอก
            “อืม...รสชาติดี”ผมตักกินแล้วพอใจ อาเสือทำหน้าดุ ๆ
            “กินอะไรแบบนี้!!!!!
            “กาวชอบ...อาเสือตักกุ้งกับเห็ดให้กาวอีก”ผมบอก กินใหญ่เลย อาเสือเห็นว่าผมทานอร่อยก็เลยไม่พูดอะไร
            “ไม่เอา!!!!”ตักเนื้อมัสมั่นมาใส่จานผมทำไม!!!!! อาเสือทำหน้านิ่ง
            “มัสมั่นไง”
            “ไม่เอา!!!!!”ผมเขี่ยทิ้ง กลิ่นทำให้ชวนอ้วก...แล้วก็รู้สึกอยากอาเจียนมาก ๆ แล้วด้วย!!!!!! เขี่ยออกช้อนก็ไปโดนน้ำแกง ผมวางช้อนจ้องหน้าอาเสือ...ไม่พอใจมาก ๆ
            “ทุกทีก็กินดีนี่ ทำไมละ”อาเสือถาม อ้าปากจะเถียง...แต่ไม่ทัน ผู้หญิงที่เดินมาหยุดข้างโต๊ะของเราสองคน
            “สวัสดีค่ะ บังเอิญจังเลยนะคะ”เสียงหญิงสาวทักทาย ก่อนหน้านี้ที่เถียงกันเลยไม่ได้สนใจ เพราะเสียงทำให้เราสองคนต้องหันไปมอง ทันทีที่เห็นหน้าผมก็เบะปาก เบื่อจริง ๆ ร้านอื่นมีตั้งเยอะแยะทำไมไม่ไป!!!!!! ชักสีหน้าใส่!!!!
            “สวัสดีครับ”อาเสือลุกขึ้นทักทาย
            “อรมองไกล ๆ ยังคิดอยู่เลยว่าใช่รึเปล่า เลยลองเดินเข้ามาดู ใช่คุณเสือจริง ๆ ด้วย”ตอแหล!!! ด่าในใจ
            “คุณอรมาเที่ยวเหรอครับ”
            “ค่ะ อรว่าจะหาอาหารทานพอดี ถ้าคุณเสือกับน้องกาวไม่รังเกียจ....”
            “ผมไม่ใช่น้องคุณ!!! และกาวก็ไม่นั่งร่วมโต๊ะกับคนอื่น”หันไปบอกอาเสือ
            “กาว!!!!”อาเสือทำเสียงต่ำ ๆ ดุ แต่ผมไม่สนใจไม่ชอบก็ไม่ต้องชอบ
            “เชิญเลยครับ...”
            “อาเสือ!!!!!!!!”ผมหน้างอสุด ๆ หักหน้าผมยังไม่พอ นี่มันเดทของเรานะ!!!!!!!
            “ขอบคุณค่ะ อรคิดอยู่แล้วเพราะคุณเสือใจดีกับอรเสมอ”ประโยคสุดท้ายจงใจหันมาทางผม อาเสือดึงให้ผมนั่งลง แต่ผมสะบัดมือทิ้ง
            “กาวอิ่มแล้ว จะไปรอข้างนอกร้านแล้วกัน กินไม่ลงแล้วก็อยากอ้วกมาก ๆ!!!!”หันไปมองคนที่นั่งตรงข้าม
            “กาว!!! อย่าเสียมารยาท”อาเสือดึงผมนั่งลงที่เดิม กลิ่นไอ้มัสมั่นบ้าก็ชวนอ้วกจริง ๆ ผะอืดผะอมยังไงไม่รู้
            “คุณอรอยากทานอะไรสั่งได้เลยนะครับ ผมเลี้ยงเอง”อาเสือแสดงความมีน้ำใจ แม่นี่ยิ่งหน้าบานเข้าไปใหญ่ เรียกพนักงานมาสั่งอาหารอีกสองสามอย่าง นิ้วมือกรีดกราย ส่งสายตาให้อาเสือ!!!
            “กาวอยากอ้วก!!!”ผมบอก อาเสือตวาดแต่ไม่ดัง
            “กาวทำไมเป็นเด็กแบบนี้!!!!! ให้มันรู้จักมารยาทบ้างนะ!!!! เห็นอาไม่ว่าอะไรก็ดื้อใหญ่ นิสัยเสียจริง ๆ”อาเสือดุยาว ทำเอาผมน้ำตาคลอ จำเป็นต้องพูดแรงแบบนั้นด้วยเหรอไง ยิ่งต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ด้วย!!! ไม่คิดเลยใช่ไหมว่าผมจะอายแค่ไหน
            “ขอโทษแทนกาวด้วยนะครับ...”
            “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก”พูดธรรมดาแต่สายตาเหมือนเยาะเย้ย จนผมอยากจะจิกหัวเธอขึ้นมา แนบหน้ากับหม้อต้มยำ เกลียดคน ๆ นี้สุด ๆ !!!!!!!
            “กาวอยากอ้วก”ผมย้ำอีก ไอ้ที่ทนเก็บมาตั้งแต่เริ่มมื้ออาหาร มันรู้สึกแน่นท้อง...อยากอาเจียนมากขึ้น ไม่รู้ทำไม นี่พยายามกลั้นอยากที่สุดแล้วนะ มือตัวเองเย็นมาก ๆ ผมเอามือไว้บนตัก กำมือตัวเองแน่น รู้ตัวอยู่หรอกว่าเหงื่อไหลลงมาตามขมับ
            “กาว!!!!! อย่าให้อาต้องโมโหนะ!!!! ถ้าอยากอ้วกนัก...ก็อ้วกออกมาเลย!!!!! ให้รู้กันไป!!!! เรานี่มันเด็กยังไงกันนะ...อย่าให้อาต้องมาดุต่อหน้าคนอื่นสิ!!!!”อาเสือตวาด ผมเห็นแม่นั่นยิ้มสะใจ น้อยใจอาเสือด้วย
            “อึก....”สะอึกทีเดียว เพราะคุมตัวเองไม่อยู่ ก่อนจะ........
            “อ๊อกกกกกกกกก”
            “ว้าย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”อาเจียนพุ่งไปที่คนตรงหน้า แม่นั่นร้องหวีดสยอง กระโดดผลุงขึ้น ผมกำมือตัวเองแน่น อาเจียนแล้วมันหยุดไม่ได้ อาเสือก็ตกใจ คนในร้านก็ตกใจกันหมด!!!!
            “อึกกก อ๊อกกกก แค่ก ๆ”ผมไอสำลัก น้ำตาไหลออกมาเอง หายใจหอบ กล้ามเนื้อหน้าท้องบีบรัด เหมือนใช้พลังมาก
            “กาว!!”อาเสือจับผมไว้ พนักงานก็เดินเข้ามา คนในร้านถอยออกไป อาโชติพุ่งเข้ามาในร้านทันที
            “เกิดอะไรขึ้นครับ”
            “กาวคงไม่สบาย”อาเสือบอก
            “จัดการที่ร้านนี่ที เอ่อ...หลานคงไม่สบาย ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ เดี๋ยวจะให้ช่วงโชติจัดการต่อ”อาเสือรีบพาผมมาที่ห้องน้ำ มาถึงก็อาเจียนต่อไม่หยุด แทบจะหมดแรง ลูกน้องอาโชติเอาเสื้อที่ซื้อใหม่มาให้เปลี่ยน ผมล้างตัวที่อ่างล้างหน้า พอให้ไม่มีกลิ่น
            “โอเคขึ้นไหม เป็นอะไรวันนี้อาเจียนไปกี่รอบแล้ว”
            ผมเงียบ...ไม่อยากจะพูดอะไรกับอาเสืออีก งอนมากถึงมากที่สุด!!!!!!!!!!!! อาเสือกัดกรามแน่น รีบขับรถพากลับบ้านทันที!!!! 



COMMENT PLEASE








ขอบคุณที่อ่านและคอมเม้นค่ะ ^^

5 ความคิดเห็น: