วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ตอนที่ 6 - “เหตุการณ์ไม่คาดฝัน” 100%





**ลายเสื้อที่อาเสือซื้อให้**




ตอนที่ 6 “เหตุการณ์ไม่คาดฝัน”


            ผมแกล้งนอนหลับบนเตียงของตัวเอง ง่ายนิดเดียวแค่หายใจให้สม่ำเสมอและเนิบลงมาก จากการหายใจปกติ แต่จริง ๆ สมองกำลังทำงาน ทุกประสารทสัมผัสยังรับรู้ และแน่นอนว่าหูผมยังสามารถกางเรด้าห์รับข่าวสารได้ แต่จะครบถ้วนไหม ขึ้นอยู่กับเลเวลในการเปร่งเสียงของกลุ่มที่กำลังจะสนทนา (ยังจะฮา)

            “จะให้ปลุกไหมคะ”เสียงสุดาถาม ผมได้ยินเสียงคนอื่นมาในห้องหลายคน ไม่รู้จะขนโขยงกันมาทำไมแต่ละที บอกแล้ว...มารยาทและการเป็นส่วนตัวไม่มีสำหรับบ้านนี้

            “หลับไปนานแล้วเหรอ”เสียงอาเสือถาม

            “เมื่อแปป ๆ ยังนอนฟังเพลงอยู่ค่ะ สงสัยจะเพลิน”

            “ไปเอาโทรศัพท์ออกจากมือเค้าไป”อาเสือสั่ง

            “วันนี้กาวทำอะไรบ้าง?”แล้วถามต่อ สุดาเดินมาหยิบโทรศัพท์จากมือผม คงเอาไปวางข้างหัวเตียง

            “ก็มีคุณบอลมาหาค่ะ มีเพื่อนมาเยี่ยม...เมื่อเย็นเลยทานข้าว ทานยาได้ง่ายขึ้น”

            “อ่อ ลูกชายนายตำรวจ อืมงั้น พรุ่งนี้เรียกหมอเข้ามาดูแผลด้วยนะ”อาเสือทำเสียงนิ่ง ไม่ใช่พรุ่งนี้โดนด่าอีกนะ อาเสือไม่ชอบให้เพื่อนมานั่งเล่นบนห้อง พรุ่งนี้ถ้าด่า...จะด่ากลับ ดูสภาพหลานด้วย!!!! สภาพงี้จะให้ขึ้นลงบันไดอย่างไงไหว!!!

            “ครับ”เสียงอาโชติรับคำ

            “คุณท่านจะคุยกับคุณกาวไหมคะ”เสียงสุดาถามอีกหน จะย้ำเพื่อ...คือนี่แกล้งนอนเพราะไม่อยากเจออาเสือนะ! ใจคอจะปลุกคนป่วยเหรอเนี่ย!!!! ฮึ่มมมม...กรอดดดด!!! สุดา!!!!! ช่างไม่รู้ใจเลย!!!!!

            “ไม่ ต้อง ให้เค้านอนสบาย ๆ”อาเสือบอก มือสัมผัสที่หัวผมเบา ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงคนเดินออก จนประตูห้องปิดลง ผมรู้ว่าเหลือแค่ผมตามลำพังแล้ว จึงเงยหน้ามามอง เสียงไฟปิดสนิท หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมส์ต่อ





            ตอนเช้าตื่นมามีคนมาเช็ดตัวให้เหมือนเคย เพราะแผลยังโดนน้ำไม่ได้ แต่ผมเริ่มเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเองได้บ้างแล้ว สุดามาก่อนผมตื่น...มารอทายาให้ ให้สุดาถ่ายรูปแล้วเอาลงเฟส เพื่อน ๆ มาทักกันเกรียวกราว มุมหนึ่งกูก็อายมีอาสายโหด แต่มุมนึงก็อยากโชว์พาว เสมือนว่าตัวเองรอดตายจากการออกรบมาก็มิปาน

            “เมื่อวานคุณท่านกลับมาแล้วนะคะ”

            “เหรอ”

            “เข้ามาหาคุณกาวด้วย แต่คุณกาวนอนหลับไปแล้ว”

            “ไม่เห็นรู้เรื่อง”

            “คิคิคิ ก็หลับไปแล้วจะรู้เรื่องได้ยังไงคะ”

            “เออ ลืม...”แกล้งแบ๊วครับ เปลี่ยนชุดเรียบร้อย...พยายามเดินลงไปทานอาหารข้างล่างเอง เพราะอากลัวเป็นง่อยครับ ให้คนมาย้ำว่าวันนี้ต้องลงไปทานข้างล่าง เหมือนว่าจะลงมาก่อนเวลา...อาเสือยังไม่ลงมา

            ผมแกล้งเดินวน ๆ ในห้องครัว โผล่หน้าเข้าไปนิดนึง แม่ครัวสองคนกำลังจัดสำรับ เคร่งเครียดอย่างกับจะประกวดแชมป์กระทะเหล็ก เสียงผัดผักซู่ซ่าควันโขมงถูกเครื่องดูดควันดูดขึ้นไปหมด เสียงตะหลิวเคาะกะทะโช้งเช้ง อย่างกับรำกระบี่ ฮ่าฮ่าฮ่า กลิ่นเริ่มมาแล้ว ผมแอบสำรวจอาหาร ข้าวสวย ผัดผักกุ้งสด ไข่เจียว แกงจืด พวกนี้ของผมแน่นอน อาเสือกินแบบเดียวกันรึเปล่า? เริ่มกังวลละ

            นิ้วใครสะกิดที่หัวไหล่...ผมสะดุ้งหันไปดู

            “คุณกาวมายืนทำอะไรตรงนี้ครับ”สมหมายถาม ผมตกใจ...เก้ ๆ กัง ๆ

            “อะไรเล่า! แค่ มาดูว่ามีอะไรกิน โว๊ะ...ตกใจหมด”แกล้งเดินหนี สมหมายทำหน้างง ๆ เดินออกหลังครัวไป รดน้ำต้นไม้ ผมเลยยืนดูอยู่ตรงประตู ไม่ออกไปข้างนอก

            “เห็นแล้วอยากจะทำให้แปลงผักเละเทะเนอะ”ผมพูดขึ้น ก็ทำซะสวยเชียว ผักสวนครัวปลูกเองทั้งนั้น สมหมายหัวเราะแฮะ ๆ

            “อย่าเชียวนาครับ...กว่าจะปลูกขึ้นมาเยอะอย่างนี้ได้ ไม่ใช่วันสองวัน”

            “ชิส์! คอยดูจะปล่อยหมาเข้ามาวิ่งเล่นสักวัน”

            “คุณกาวอ่ะ”เห็นหน้าสมหมายแล้วผมก็หัวเราะ คนอะไร...อยู่กับต้นไม้ได้เป็นวัน ๆ นี่ก็ขออาเสือทำที่กั้นไม่ให้สุนัขเข้ามาด้วยนะ อาเสือก็ยอมสิ...เพราะบอกว่าผักพวกนี้ปลูกให้ผมกินทั้งนั้น

            “ป้า ๆ จะยกไปไหน”ผมหันไปเห็นป้าสองคนกำลังจัดอาหารใส่จาน กำลังยกขึ้นห้องอาหาร

            “จะเสิร์ฟแล้วค่ะ มาทำอะไรตรงนี้คะ”ป้าร้องถาม ผมค่อยเดินกระเผลก ๆ เข้าห้องอาหารไป นั่งรอพร้อมกลิ่นอาหารหอมฉุย ตอนนี้ทางสะดวกแล้ว...จะใส่หรือไม่ใส่ดีนะ? แต่ ว่า...กลัวอาโชติจะโผล่มาซะก่อน อีกเดียวก็ต้องออกมาจากห้องพักแล้วแน่เลย อาเสือก็จะเดินลงมา...แล้วยังสุดาอีก นั่งตัดสินใจอยู่นั่น จะทำดีไม่ทำดี...จะทำดีไม่ทำดี

            เดินออกจากห้องอาหารไปเกาะตรงบันได ทำดีไหม...ตอนนี้ยังไม่มีคนมา เอาดีไหมว่ะ!!!! คลำดูหลอดยาในกระเป๋ากางเกง เอาก็เอาว่ะ!!! ทำการใหญ่...อย่ามัวกลัวอะไรไม่เข้าท่า!!!!

            “ลงมาเร็วจังครับ”เสียงร้องทักจากอาโชติ ทำให้ผมต้องหลับตาปี๋ กัดฟันนิ่ง...มาอะไรตอนนี้ว่ะเนี่ย!

            “เมื่อไหร่อาเสือจะมา?

            “ให้ผมขึ้นไปตามไหมครับ”อาโชติร้องถาม ผมพยักหน้า...

            “เดี๋ยว ๆ อาโชติ”ร้องเรียกไว้ซะก่อน อาโชติหันมา...รอฟังคำผม

            “เมื่อวาน...อาเสือได้ซื้ออะไร มา...ไหม?”คำหลังถามเสียงเบา

            “ไม่นี่ครับ...”อาโชติทำหน้านิ่งตอบ อารมณ์ผมเปลี่ยนทันควัน! ฉุนขึ้นหน้า

            “............................”เดินหนีเข้าห้องอาหารควับ...เปิดหลอดยาถ่าย เท ๆ ๆ ๆ ๆ ใส่ผัดผัก...เท ๆ ๆ จนหมดหลอด อาโชติคงงง...แต่ก็ขึ้นไปตามอาเสือลงมาทานข้าว

            “เป็นยังไงกาว”

            “ก็ดี ทำไมลงมาช้า ไม่รู้เวลาอาหารหรือไง”ผมใช้คำที่อาเสือเคยพูด พูดกลับ...อาเสือหัวเราะ

            “หึหึ หัดยอกย้อน แผลเป็นยังไงบ้าง”

            “จะกินได้รึยัง”ผมเปลี่ยนเรื่อง พร้อมเหวี่ยงแมร่งทุกสิ่งอย่าง...ไม่รงไม่รอแล้ว หยิบช้อนตักแกงจืดจนกระฉอกไปรอบชาม

            “เป็นอะไรนะเรา”

            “ไม่ต้องมายุ่ง”

            “เฮ้อ โชติลงไปกินข้าวไป”

            “ครับ”อาโชติเดินไปเปิดทีวี ก่อนจะลงหายเข้าห้องครัว สุดาเดินเข้ามาแทน...พร้อมแม่บ้านสองสามคน มีลูกน้องอาเสือยืนอยู่หน้าห้องอาหารอีก

            “เลอะหมดแล้ว”อาเสือหยิบทิชชู่ เช็ดน้ำแกงที่หกราดโต๊ะ อะไร ๆ ก็ดูขวางหูขวางตาไปหมด ผมยัด ๆ ข้าวเข้าปาก อย่างคนเจ็บแค้นอะไรมาสักชาติ

            “กินดี ๆ กาว!”เสียงเริ่มเข้ม ผมไม่ตอบ...ไม่ว่าอะไรด้วย กินช้าลง กลัวข้าวติดคอเหมือนกัน ปลาหมึกยัดไส้นี่ทำไมไม่หั่นเป็นชิ้นมานะ!!!!!!!! ใหญ่ขนาดนี้จะกินเข้าไปได้ยังไง!!!!!!!!!! เอาช้อนส้อมหั่นเสียงเคร้งคร้างกระทบจาน จนอาเสือส่ายหัว

            “ใครทำอะไรไม่ถูกใจเขา สุดา”อาเสือหันไปถามสุดา

            “เอ๋ ก่อนลงมายังดี ๆ อยู่เลยนี่คะ...คุณกาว”สุดาพยายามปลอบ ผมไม่ตอบ

            “กาว...อย่าให้อาโมโห”อาเสือเสียงเข้มขึ้น คงโมโหขึ้นมาบ้าง

            “อิ่มแล้ว...”รีบวางช้อน

            “กินให้หมด แล้วกินดี ๆ”อาเสือพูดเสียงนิ่ง ผมก็นิ่ง...หันหน้าหนี กัดปากตัวเอง เคืองโว้ย!!!!! อาเสือจับคางให้หันไปหา

            “โกรธอะไร?
            “ไม่ได้โกรธ”

            “งั้นงอนอะไร?
            “เปล่า”ทำหน้ากวนใส่

            “ใครอยู่ข้างนอก เอาของเข้ามาที”อาเสือเรียก ลูกน้องหยิบของมาให้ เป็นถุงสีดำติดแบรนด์ชั้นนำ ผมเม้มปากนิ่งสนิท

            “”ไม่ลืมหรอกน่า ใครจะลืมของกาว”อาเสือยื่นให้ ผมรับมา

            “อาโชติบอกไม่ได้ซื้อ!!!”ผมกระแทกเสียง

            “ซื้อ แต่ตอนซื้อช่วงโชติไม่ได้ไปด้วย”อาเสือบอก

            “ทำไมไม่ได้ไปด้วยกัน หรือว่าพาผู้หญิงไปเปรมคนละที่”ผมถามอย่างไม่หยุดประชดประชัน

            “กาว!!!”อาเสือตาลุกวาว ยักไหล่ไม่สนใจ...เปิดถุงใบใหญ่ดู ได้ของที่ค่อนข้างถูกใจ เป็นเสื้อไหมพรมแขนยาว สีเทา มีลายดาวอยู่รอบ ๆ

            “พอใจใช่ไหม”

            “เฉย ๆ”ผมบอก พับเก็บใส่ถุงที่เดิม แต่ไม่เอาลงจากตัก อาเสือส่ายหัวเริ่มลงมารับประทานอาหาร ดีๆร่วมกัน

            “มีนาฬิกาด้วยแต่อายังไม่ให้”อาเสือพูดต่อ

            “ทำไม!?!?!

            “กาวยังทำตัวไม่ดี อายังไม่ให้”ใจร้าย!!!!! ผมหน้างอ...

            “ไม่ให้ก็ไม่เอา!!!

            “หึหึหึ งอนอีกละ...”

            “ไม่ได้งอน ถ้าพูดอีกจะไม่กินแล้วข้าว!!!!!”ผมบอก อาเสือหัวเราะลั่น ไม่บ่อยนัก...แต่ทำให้บรรยากาศภายในห้องอาหารดูผ่อนคลายมากขึ้น

            “เด็กดื้อยังไงก็ดื้ออยู่วันยังค่ำ”

            “แล้วมายุ่งทำไม!!!!”ใจเต้นตึกตัก...ไม่น่าถามเลย อยากตบปากตัวเอง อาเสือยิ้มกวน...ไม่ยอมตอบ

            แกงส้มของโปรดอาเสือ ผมกำลังจะตักทานแต่อาเสือซึ่งทานไปก่อนแล้วปัดมือผมทิ้ง ช้อนกระเด็นไปไกล ขณะที่อ้าปากค้าง ผมตกใจทันควัน จ้องหน้าอาเสือ ทีแรกจะโวยวาย...แต่พอเห็นหน้าอาเสือแล้วต้องตกใจอีกที หน้าแดงก่ำและอาเจียนออกอย่างรวดเร็ว
            “อะ อาเสือ”ผมร้องคราง

            “คะ คะ ใครทำแกงนี่!!!!!!!!!!!!”อาเสือเสียงสั่นเอามือกดหน้าอกตัวเอง สุดาและแม่บ้านคนอื่นตกใจทันที ลูกน้องอาเสือวิ่งเข้ามา พร้อม ๆ กับเสียงตะโกนเรียกอาโชติ

            “อาเสือ!!!!”ผมร้องคราง ตกใจสุดขีด

            “คุณช่วงโชติคะ”แม่บ้านตะโกนเรียก

            “อาเสือ อาเสือ”ผมร้องคราง

            “มีอะไรครับ!!?!?!?!”อาโชติวิ่งเข้ามาจับไหล่อาเสือ เห็นท่าไม่ดี...

            “เรียกรถรพ.!!!!”ลูกน้องอาเสือขยับตัวไวกว่าใคร รีบโทรตามรถรพ.อาโชติตบหลังอาเสือให้อาเจียนออกมา

            “อาเสือเป็นอะไร อาเสือ!!!”ผมร้อง จะจับแขนแต่อาเสือผลักออกจนเซ สุดาเข้ามาประคองไว้เกือบไม่ทัน ผมน้ำตาคลอ ๆ

            “ปิดบ้าน!!!”เสียงอาเสือ พยายามพูด แล้วก็อาเจียนออกมากลางโต๊ะอาหาร

            “ว้าย...”แม่บ้านร้องดัง ไม่รู้จะทำยังไงกัน

            “น้ำ นมก็ได้”อาโชติร้องบอก แม่บ้านคว้ามาทั้งเหยือก อาเสือก็ดื่มเอือก ๆ แล้วก็อาเจียน แล้วก็ยกน้ำมาอีก แล้วก็อาเจียนออกมาอีก

            “แฮ่ก ๆ”อาเสือหอบหายใจหนัก ผมตัวสั่น...ไอ้เชี่ยบอลเอาอะไรมาให้!!!!! อาเสือแพ้ยาถ่ายเหรอ???? ไม่สิ...มันต้องไม่ใช่แบบนี้ ผมไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้

            เห็นหน้าอาเสือแล้วอยากจะสารภาพผิด กาวไม่ได้ตั้งใจ...ทำให้อาเสือเป็นแบบนี้ แค่จะล้อเล่นนิดหน่อย แต่นี่มันเหนือความคาดหมายไปเยอะมาก อาเสือจะเป็นอะไรรึเปล่า อย่างน้อยผมก็ไม่อยากจะเป็นฆาตรกรฆ่าคนนะ!

            “มะ มี ยะ ยาพิษ”อาเสือค่อย ๆ พูด อาโชติคว้าแกงส้มมาดม

            “เรียกวินัยเข้ามา!!!! อย่าให้ใครออกจากบ้าน!!!!!”เสียง อาโชติดังกังวาน ลูกน้องอาเสือเข้ามาเพิ่มอีกหลายคน แม่บ้านหลายคนยืนจับมือกัน ผมกับสุดากอดกันไว้แน่น ไม่นานรถรพ.ก็วิ่งเข้ามา อาเสือต้องล้างท้องฉุกเฉิน

            “กาวอยากไปด้วย”ผมร้อง อาเสือพูดอย่างเหนื่อยหอบ

            “ขึ้นห้อง...ล็อคประตู”พูดแค่นั้น รถรพ.ก็แล่นออกไป อานัย หรืออาวินัยหน้าโหดอีกคนก็ขับรถสวนเข้ามาพอดี ไม่พูดพร่ำสั่งลูกน้อง ให้ดูรอบบ้าน และแน่นอนว่าเราทั้งหมดถูกห้ามออกจากบ้านหลังใหญ่นี้ จนกว่าจะจับตัวคนร้ายได้ ผมกังวลที่เรื่องราวมันบานปลายมากกว่าปกติ รีบเข้าไปในห้องน้ำแล้วโทรศัพท์หาไอ้บอล

            “อะไรว่ะ โทรมาแต่เช้า...ท่าจะคิดถึงกูมาก”ไอ้บอลทำเสียงงัวเงีย

            “คิดถึงพ่อมึงน่ะสิ มึงเอายาเชี่ยอะไรให้กูมา!!?!?!”ผมตะคอกถาม เสียงยังสั่นเพราะตกใจ

            “ยาอะไรว่ะ?

            “ไอ้เชี่ยยาอ่ะยา!!?!?!?! ไอ้เชี่ย...ยาอะไร!?!?!?

            “อ๋อ ก็ยาถ่ายไง”

            “ไม่ใช่!!?!? ทำไมอาเสือกินแล้วอาเจียน!!?!?!”ผมถามรัว

            “ห๊ะ?

            “อาเสืออาเจียน ไปรพ.”

            “ห๊ะ!?!?!”ไอ้บอลทำเสียงตกใจ

            “มึงเอาอะไรให้มา!?!?!?! ยาอะไร!??!?!?!”ผมอยากจะร้องไห้จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจ อย่างน้อยก็ไม่ได้อยากให้อาเสือตายจริง ๆ อย่างที่ปากพูดทุกวัน

            “ยาถ่าย! แค่ยาถ่าย!!”ไอ้บอลบอกลิ้นรัวกลับมา

            “ละ แล้วทำไมอาเสือ...ถึงบอกว่าเป็นยาพิษละ????”ผมครวญ ตายแน่ ๆ กูคราวนี้...!!!!


**********ต่อ

“คุณ กาว”เสียงเคาะประตูห้องน้ำ ทำให้ต้องรีบวางสาย อานัยให้คนมาตามผมไว้ทุกฝีเก้า ผมเดินกระเผลก ๆ ไปนั่งในห้องรับแขก ในใจเต้นแรง มือไม้สั่น...เพราะเริ่มกลัว ส่วนทุกอย่างในห้องอาหารและห้องครัว ห้ามมีคนไปแตะต้องอะไรทั้งนั้น ตำรวจกำลังเดินทางมา

            “กาวอยากหาอาเสือ”ผมบอกสุดา

            “อาเสือปลอดภัยแน่ ๆ ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”สุดาปลอบ ทั้งแม่บ้าน ป้าแม่ครัว คนรถ คนสวน สมหมาย ต่างเข้ามาในห้องนี้กันหมด
            “ไม่มีอะไรผิดปกติครับ”ลูกน้องอานัยบอก

            “คุณกาวอยู่ในห้องนี้ไปก่อนแล้วกันนะครับ ขึ้นไปอยู่ข้างบนคนเดียว เดี๋ยวมีอะไรขึ้นมาอีกจะแย่”

            “กาวจะไปหาอาเสือ”ผมบอกเสียงนิ่งลงมาก แต่ยังสั่นอยู่

            “อาเสือไม่เป็นอะไรแน่ ๆ ครับ เชื่ออา”

            “กาวอยากไป”ผมบอกย้ำอีกครั้ง อยากไปสารภาพผิดครั้งนี้ซะ...กลัวว่าเรื่องจะไปกันใหญ่ คราวนี้โดนตีหลังลาย โทษฐานเล่นอะไรไม่รู้เรื่องแน่ ๆ (แต่ก็ต้องยอม)

            “รอฟังข่าวก่อน ดีกว่านะครับ”

            “อยู่กับสุดานะคะ ไม่เป็นไรนะคะคุณกาว”สุดาปลอบอยู่เรื่อย ๆ แต่เสียงสุดาไม่เข้าหูผมสักประโยค ไอ้บอลโทรเข้ามาอีกหลายสาย แต่ผมไม่รับ ไอ้เชี่ยเอ้ย!!!!! ทำไม ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ว่ะ นานกว่าจะอาโชติจะโทรมา อาเสือปลอดภัยแล้วเพราะไปล้างท้องได้ทันท่วงที และไม่ยอมนอนรพ. แต่กำลังหิ้วสายน้ำเกลือกลับมา พร้อม ๆ กับตำรวจ

            “ดูจากกลิ่นแล้ว...น่าจะใช่นะครับ”นายตำรวจคนหนึ่งกล่าว อานัยดูแลความเรียบร้อยของบ้าน ผมก็ยืนฟังทุกคนคุยกัน กลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ

            “ยังไงคงต้องตรวจให้แน่ชัดอีกที”ผมมองอานัย ที่ยืนท่าทีสงบ เสียงรถแล่นเข้ามา อาเสือกับอาโชติและลูกน้องก็เดินเข้ามา นายตำรวจเดินเข้าไปสวัสดี

            “คราวนี้มาเล่นกันถึงในบ้าน!”อาโชติกัดฟันพูด หน้าเหี้ยมกว่าเดิมร้อยเท่า

            “ใครทำแกงนี่!!!!!”อาเสือถามเสียงกร้าว!!!!! ทุกคนก้มหน้า

            “คนทำอาจจะไม่ได้เป็นคนใส่ยาลงไปก็ได้นะครับ ยังไงก็ต้องสอบสวนทุกคนอีกที”คุณตำรวจบอก ผมตัวสั่น จะโดนจับเข้าคุกไหมเนี่ย!!!!!! ต้องหาโอกาสบอกอาเสือก่อน ไม่งั้นแย่แน่ ๆ โอ๊ยยย...ไม่น่าเลยไอ้กาว คราวหลังไม่เล่นอะไรแบบนี้แล้ว!!!!!!

            “ผมว่า...เปิดกล้องวงจรปิดดูเลยดีกว่าครับ”อาโชติบอก ทุกคนเห็นด้วย ผมชะงักกึก!!!!! ตาย ละ...กูลืมไป ว่าบ้านนี้มีกล้องวงจรปิด ติดห้องทุกห้องที่เป็นห้องส่วนรวมและบริเวณอยู่รอบ ๆ บ้าน ทางเดินทั้งข้างใน ข้างนอก แต่ว่าปกติแล้ว...ไม่ค่อยได้เปิดดูหรอก เพราะไม่มีเหตุการณ์อะไรในบ้านผิดปกติ

             จู่ ๆ อานัยกับอาโชติก็หันไปสบตากัน ผมมองอยู่ทุกการกระทำ แบบนี้แสดงว่าอานัยกับอาโชติรู้แล้วเหรอ? ยังไม่ค่อยแน่ใจตัวผมก็ไม่กล้ากระโตกกระตากบอกไปด้วย รอยไม้เรียวยังอยู่ที่หลังขืนโดนอีกตายแน่ ผมมองรอบห้องคนอื่นก็ปกติดี พากันเดินมาในห้องรับแขกทีวีจอแบนขนาดใหญ่ถูกเปลี่ยนเป็นช่องกล้องวงจรปิด อาโชติเป็นคนจัดการ ไม่นานก็ปรากฏภาพปัจจุบันขึ้นมา ตอนนี้เลยกำลังเซ็ทเครื่องกันอยู่ให้

            “กาว”อาเสือเรียก ผมโผเข้าไปหาตัวสั่นเทา อยากร้องไห้ อยากบอกอาเสือแต่ก็กลัว คราวนี้คงไม่ใช่แค่หลังลาย หรือถูกกักบริเวณ อาเสือจับผมส่งตำรวจแน่ ถ้าผมโดนจับล่ะ? อาเสือจะไปประกันผมไหม!!? นักข่าวต้องมาทำข่าวแน่ ๆ ถ้ามีข่าวอาเสืออาจไม่ไปสู้คดีให้ผม โอ๊ยย...เครียด!!!!

            “ไม่ต้องกลัว”อาเสือกอดผมตอบ บีบไหล่อย่างหนักแน่น

            มีแค่ผม อาเสือ อาโชติ อานัย และตำรวจที่ได้เข้าไปดูกล้อง ทุกคนยืนสงบนิ่งรอดูความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ผมกลัว...กลัวมากอย่างบอกไม่ถูก เงยหน้าดูอาเสือเป็นระยะ

            ภายในจอทีวีแยกเป็นจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลายจอ เพราะกล้องมีหลายตัว เกือบทุกช่องมีคนในบ้าน ทำงานต่างกิจกรรมกัน มีตัวนึงถ่ายตั้งแต่ผมเดินกระเผลก ๆ จากชั้นบนลงล่าง ลงมาวนอยู่ในห้องครัว ป้าแม่บ้านสองคนกำลังทำอาหาร แล้วตัวเอง...ก็เดินตรงจากห้องครัวจะมีทางไปข้างนอก ที่เป็นสวนผักของสมหมาย ตรงนี้ข้างนอกก็จะมีกล้องวงจรปิดเหมือนกัน

            คุณตำรวจหลายคนยืนดูและจดอะไรหยุกหยิกในสมุดไปด้วย อาเสือหอบหายใจหนัก ๆ ผมหันไปมอง...เห็นหน้าซีดก็ยิ่งทำให้ใจหล่นไปที่ตาตุ่ม กูตายแน่ ๆ ....คราวนี้!!!! รูปการมันก็คือมีผมคนเดียวที่น่าสงสัย


            ภาพ ในกล้องดำเนินไปต่อ ถึงตอนที่ผมยืนคุยกับสมหมาย ยังไม่ปรากฏว่ามีอะไรผิดปกติ จนผมเดินออกจากห้องครัว ผ่านห้องอาหารนั่งดูอาหารอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนออกไปคุยกับอาโชติ แม่บ้านสาวเดินเข้ามายกอาหาร ขึ้นห้องอาหาร เอ๊ะ...เมื่อเช้าป้าแม่บ้าน ไม่ทำแกงส้มนี่นะ!?!?!??! เธอยกแกงส้มขึ้นตั้งเป็นอย่างแรกแล้วเดินหายออกไป ภาพอีกกล้องสมหมายก็เก็บสายยางแล้วเดินไปที่อื่นแล้ว
 


            “เดี๋ยวครับ...!!!”อาเสือร้อง ทุกคนมอง...อานัยก็หยุดวิดีโอ ผมใจหายแว้บ

            “อะ อาเสือ...”ผมคราง สารภาพบาปก่อนดีกว่า อาเสือไม่ตอบเพราะตาจ้องอยู่กับจอภาพด้านล่าง มีแม่บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามา ในทางหลังครัว ยกถ้วยมาด้วยในมือ...ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะอาหาร ระหว่างที่ผมคุยกับอาโชติ!!!!!!

            “แม่บ้านคนนั้น...!? มายุ่งอะไรกับเกี่ยวกับห้องครัว!?!?!”อาเสือร้องถาม ทุกคนมองตาม

            “แม่บ้านคนใหม่?”อา โชติพูดเสียงเบา มองหน้ากับอานัยแล้วรีบออกไปทันที คุณตำรวจพอจะเข้าใจสถานการณ์ ก็รีบออกไปเหมือนกัน ผมหายใจโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก ดูจากภาพก็เดาได้ทันที ว่าแม่บ้านแน่ ๆ ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนในห้อง ผมหันหน้าไปหาอาเสือ สายตาค่อนข้างเหม่อลอย
            “มีคนใส่ยาพิษจริงเหรอ?”ผมถามอาเสือ

            “กดดูต่อไปสิ”อาเสือบอกผมเอารีโมตมากดมือสั่น ๆ รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้

            “อะ อาเสือ”เสียงเบาติดอ้อน กูเอาตัวรอดก่อนละ เพราะไม่รู้คดีนี้จะออกหัวออกก้อย แต่อาเสือไม่ฟัง...ตั้งใจดูจอภาพ หล่อนวางแล้วเดินออก รวดเร็วและสงบนิ่งมาก ราวกับต้องการมาเพื่อจัดการอาเสือโดยเฉพาะ พอผมกลับเข้ามาในห้องอาหารอีกที ก็ปรากฏภาพตัวเองเทผงยาถ่ายในอาหาร อาเสือหันควับ ผมหัวเราะแฮะ ๆ

            “เอาอะไรใส่ลงไป!?!?!?!?”เสียงตวาดแต่ไม่ดัง (แต่ก็ยังน่ากลัวมากอยู่ดี)

            “แฮ่”

            “กาว!!?!?!?

            “ยาถ่ายเฉย ๆ ไม่ใช่ยาพิษ”ก้มหน้า อาเสือส่ายหน้า

            “แน่ใจ”คว้าของกลางมาให้อาเสือดู อาเสือดมแล้วเอาลิ้นแตะ ๆ ผมตกใจชักออก

            “จะกินทำไม”

            “ลองดูว่ายาถ่ายแน่รึเปล่า”

            “แล้วถ้าไม่ใช่ละ!?!?!?”ผมตวาด คือยังไม่รู้ว่าอาเสือโดนยาของผม หรือของใคร

            “ก็ตาย กาวอยากให้อาตายอยู่แล้วนี่ ใช่ไหม”

            “................................”กัดปากตัวเองไม่ตอบ แปปเดียว...อานัยเข้ามารายงาน

            “แม่บ้านคนใหม่แน่ แต่หนีไปแล้วครับ”อาเสือพยักหน้า ผมตาเบิ่งโต เชอรี่น่ะเหรอ? เด็ก ใหม่หน้าตาหวาน ๆ เหรอ หล่อนเพิ่งมาทำงานได้เดือนกว่า ๆ ปกติแล้วจะถูกให้ทำงานทั่วไป เช็ดถูภายในบ้านแค่ชั้นล่างเท่านั้น ห้ามเด็ดขาดกับการขึ้นชั้นบน ก็ไม่น่ามีอะไรผิดปรกตินี่!?!

            “เขาทำไปทำไมฮะ”ผมถาม อานัยเงียบ มองหน้าอาเสือแล้วนิ่ง ไม่ยอมตอบ มีเรื่องที่ผมรู้ไม่ได้อีกแล้วเหรอ สายตาที่สุดจะคาดเดาจากคนทั้งสอง ทำให้ผมเริ่มหงุดหงิด

            “ขึ้นไปห้อง อยู่บนนั้น...จนกว่าอาจะขึ้นไปหา”อาเสือบอก

            “ไม่!!!!!!

            “กาว!!!! อย่าดื้อสักวันได้ไหม!!!!”อาเสือทำเสียงเหนื่อย ๆ ผมเงียบ

            “เดี๋ยวให้สุดาไปอยู่เป็นเพื่อน วินัยให้คนไปตามดูแลกาวด้วย”

            “ครับ”

            “อาเสือจะไปไหน”ผมถาม อาเสือคว้าหลอดยาถ่ายไปไว้ในมือ

            “ไปล่ามันมาถาม ว่าทำไปเพื่ออะไร”

            “ไม่ให้ไป!?!”มีอะไรที่ผมไม่รู้

            “กาว หยุดแล้วฟังอา”

            “ไม่ฟังไม่อยากฟัง กาวไปด้วย”

            “อันตราย”

            “ไหนบอกจะปกป้อง?

            “กาวต้องป้องกันตัวเองก่อน”อาเสือบอก

            “ทำไมไม่ได้”

            “กาวทำได้...อย่าปล่อยให้ใครถึงตัว อย่าปล่อยให้คนอื่นมาฆ่าเราได้! จำไว้!!

            “ฮึก...อาเสือ”ผมน้ำตาไหล รู้จากสถานการณ์ว่ามันน่ากลัวเพียงใด ไม่ใช่ไม่เคยผ่านมา อาเสือกอดปลอบทั้งที่มือหนึ่งถูกเจาะสายน้ำเกลืออยู่ ร่างสูงตบบ่าผมเบา ๆ ตำรวจสองสามนายเดินเข้ามาหาอาเสือ

            “ผมคงต้องขอสอบปากคำเพิ่มเติมนะครับ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์”คุณตำรวจบอก ผมจ้องหน้าอาเสือ

            “นี่หลานผมเอง เขาไม่เกี่ยว ยังไงคนร้ายก็ต้องเป็นแม่บ้านคนนั้นอยู่แล้ว โชติเดียวก๊อปปี้ภาพให้คุณตำรวจสักชุดด้วยนะ กาวขึ้นห้องไป”อาเสือหันมาบอก รู้ว่าคนอย่างอาเสือจัดการได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ผมอยากจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกสักหน่อย สุดาเดินเข้ามารับตัวผม ขึ้นไปอยู่บนห้อง...ลูกน้องอาเสือตามมาด้วย สามสี่คน
            “สุดา...มีอะไรผิดปกติกับแม่บ้านคนนั้น?”ผมถาม สุดาทำหน้าไม่สู้ดี

            “เอ่อ...”

            “อย่าให้ต้องลงไปถามอาเสือเอง”

            “เอ่อ...”

            “สุดา!”กดเสียงหนัก ๆ

            “คุณวินัยให้ตามสืบประวัติค่ะ เธออาจเป็นคนของคู่แข่งคุณท่าน”

            “ห๊ะ!?”ผมตกใจตัวแข็งทื่อ ถึงขนาดส่งคนเข้าถึงตัวอาเสืออย่างนี้เลยเหรอ??????




COMMENT PLEASE


งง...กับความสัมพันธ์แบบนี้ไหม ฮิฮิ

พอจะเดากันออกรึยัง...

อ่านคอมเม้น เหมือน ๆ ว่ามีคนเดาถูกด้วยละ ^^








3 ความคิดเห็น:

  1. ใครมันกล้าวางยาพิษอาเสือห้ะ ต้องจับมาลงโทษ อาเสือน่ะของกาวเพราะฉะนั้นกาววางยาได้คนเดียวเถอะ

    ตอบลบ
  2. ยังงงงง ยังงงกับความสัมพันธ์นี้อยู่~~

    ตอบลบ
  3. งง นะ กับ ความสัมพันธ์ .. แต่ที่ชัดเจน คือ อาเสือ ห่วง หวง กาว .. อุอุ

    ตอบลบ