วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ตอนที่ 4 “คุณครูครับ คุณครูครับ ผมมีเรื่อง...อยากจะถามคุณครูครับ”






ตอนที่ 4 คุณครูครับ คุณครูครับ ผมมีเรื่อง...อยากจะถามคุณครูครับ”

            อาโชติขึ้นมาเรียกอีกทีก่อนเวลาเรียน ผมนั่งหาวบนเตียงก่อนจะลุกไปล้างหน้า ทำหน้าให้สดชื่น ครูจะได้ประทับใจในการเสี้ยมสอนผมวันแรก
            “กาวอยากเรียนที่ศาลา”
            “มันร้อนนะครับ”อาโชติห้าม แต่ผมจ้องหน้านิ่ง ๆ ไม่ให้ไปก็ไม่เรียนเว้ยยยย!!!!
            “...............................”จ้องหน้าอาโชติ อยากไป...ก็ต้องได้ไป ถ้าไม่ให้...ก็จะไม่เรียน สื่อด้วยสายตาส่งไป
            “ก็ได้ครับ ๆ แต่ถ้ารู้สึกร้อนให้รีบบอกเลยนะครับ”
            “ก็แค่เนี้ย”ผมเดินผ่านอาโชติไปยังห้องรับรองแขก ครูสาวลุกขึ้นยืนเต็มตัว ผมสังเกตตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูเป็นผู้ดีไม่ใช่น้อย เสื้อเชิ้ตสีอ่อน ๆ ตัดกับกระโปรงบานคลุมเข่าสีน้ำตาล ถึงจะเรียบร้อยแต่ก็ดูดี บ่งบอกว่าเจ้าตัวคงมีรสนิยมดีไม่น้อย แต่ถ้าให้เดาอีกนิด การแต่งตัวแบบนี้...คงไม่ใช่สไตล์แน่นอน สังเกตเอาจากสีลิปสติก ไม่รู้ว่าจงใจเลือกสีนี้มาเพื่อผม หรือว่าอาเสือกันแน่
            “สวัสดีค่ะ ดิฉันเจนสุดา จะมาสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ให้คุณกาวค่ะ”ผมพยักหน้า เสียงเพราะใช้ได้ หน้าตาก็สวยสะอาดดี อาโชติยิ้ม ผมยักคิ้วให้อาโชติอย่างหล่อเหลือร้าย หึหึหึ
            “เชิญตามสบายนะครับ ลูกศิษย์อาจดื้อไปหน่อย อาจลำบากครู...”
            “ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันเจอคนมาเยอะแล้ว”คุณเจนสุดาสุดสวยตอบ หึหึหึ...ผมยิ้มหวาน คึคึคึ
            “เชิญที่ศาลาด้านนอกนะครับ คุณกาวอยากไปเรียนที่นั่น เดี๋ยวผมจะให้สุดาจัดของว่างไปให้”อาโชติผายมือแนะนำใหญ่ ที่ศาลามีโต๊ะของเบาะนั่งรออยู่แล้ว
            “ค่ะ ขอบคุณค่ะ”เธอเอ่ย ผมยิ้มเป็นเจ้าบ้านที่ดี เดินนำ...ไปยังศาลา อาโชติยังมากระซิบว่า
            “อย่าทำอะไรไม่เข้าเรื่องนะครับ คุณท่านรู้จะโดนตีอีก”
            “หึหึหึ”ผมแล่บลิ้นและหัวเราะใส่อย่างร้ายกาจ ก่อนหันมาเจอคุณเจนสุดา แล้วหัวเราะใส่กันอย่างเขิน ๆ หึหึ
            “ตอนนี้เวลา 10 นาฬิกา เชิญสอนได้ตามสบายนะครับ”
            “ค่ะ”
            คุณครูคนสวยถอดรองเท้า แล้วขึ้นไปนั่งบนศาลา ที่นี่เป็นศาลาไม้อย่างดีเคลือบเงาไม้เป็นสีสวย ผมชอบมานอนเล่นเพราะลมโกรกเย็นดี ที่สำคัญอยู่ห่างจากไอ้กรงหมาบ้าพวกนั้นด้วย มันชอบเห่าเวลาคนเดินเข้าไปใกล้ เวลาพวกมันออกมาเดินเล่น ผมต้องระเห็จขึ้นไปอยู่บนห้องแทบทุกครั้ง เพราะมันชอบกระโดดใส่อย่างหมาที่อยากเล่นด้วย แต่ผมไม่ชอบ
            โต๊ะญี่ปุ่นเล็กถูกยกมาวางตรงกลาง เอกสารจากกระเป๋าที่ครูเตรียมมา ก็ถูกมาวางไว้ข้างหน้าผม ผมนอนลงตามสบาย ก็อาโชติบอกให้ตามสบาย คุณครูทำหน้างง...
            “เอ่อ คุณกาวคะ”
            “ตามสบายฮะ ตามสบาย”ผมบอก เอาหมอนอิงที่วางไว้มากอด แล้วทำท่าจะหลับไปจริง ๆ
            “คุณกาวคะ ลองอ่านหนังสือที่ดิฉันเตรียมมาดีไหมคะ แล้วเราลองมาทำเทสย่อยกันดู”
            “อือ เอาสิ...”ผมบอกเสียงรื้นเริง
            “เอ่อ คุณกาวก็ลุกขึ้นมาสิคะ”น้ำเสียงเกรงใจกร้าวขึ้น หึหึ ผมนอนหัวเราะ มองหน้าครู
            “อ่านให้ผมฟังไม่ได้เหรอครับ”
            “ไม่ได้ค่ะ”
            “อ่อ ขอโทษครับ ผมคงสบายไป”ลุกขึ้นนั่งแล้ว มองครูสาวสวย
            “คุณกาวลองอ่านเอกสารที่ดิฉันเตรียมมา แล้วถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็เชิญถามได้ตามสะดวกเลยค่ะ”
            “อ๊า คุณครูบอกว่า ถ้าผมถามอะไรไป คุณครูก็จะมีคำตอบให้ผมงั้นเหรอฮะ”
            “ค่ะ”ผมยิ้มพอใจในคำตอบ
            “อะไรก็ได้เหรอครับ?
            “ค่ะ ดิฉันพยายามจะหาคำตอบให้ได้ตรงคำถามของคุณที่สุด”ผมยิ้มและพยักหน้า หึหึ        
  
            “งั้นผมสงสัยว่า ไอ้วิชาเศรษฐศาสตร์เนี่ย เราจะเรียนมันไปเพื่ออะไร??? นอกจากไอ้เส้น ๆ เนี่ย ผมยังไม่เห็นประโยชน์ของมันเลย!”คุณครูสาวยิ้มทันทีที่ผมถามจบ
            “ก็เพื่อให้เราจัดสรร จัดการทรัพยากรที่มีอยู่ และนำไปใช้ให้ได้เกิดผลประโยชน์สูงสุดไงคะ”คุณครูสาวตอบอย่างมั่นใจ ผมยักไหล่และพยักหน้า คำตอบฉลาดดี...ใช้ได้ ๆ
            อาโชติเดินตามแม่บ้านยกอาหารว่างมาเสิร์ฟ ผมกับคุณครูต้องชะงักบทสนทนาไปชั่วครู่
            “พอไหวไหมครับ ลูกศิษย์คนนี้”อาโชติถาม ครูหันมามองหน้าผม แล้วยิ้ม
            “สบาย ๆ ค่ะ”
            “งั้นฝากด้วยนะครับ”หึหึหึ อาโชติเดินไปแล้ว ผมก็เริ่มเล่นสนุกต่อ
            “งั้นช่วงอ่านตรงนี้ต่อนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะสอนดูกราฟ”
            “เฮ้ออออ...”ผมแกล้งทำหน้าเบื่อ ๆ มองกวาดตัวอักษรไปมา สัก 10 นาทีก็เหลือทน ไม่มีอะไรสนุก ๆ เล่นเลย จะจ้างมาทำไมกันนะ จ้างมาก็ให้มาอ่านเอง!
            “เบื่อ!!!
            “คะ ลองอ่านให้จบก่อนดีไหมคะ”
            “เบื่อแล้ว!!! ไม่อยากอ่าน...”ผมตวาด แม่นี่เล่นแต่โทรศัพท์ตัวเอง...!!!! น่ารำคาญ!!!!
            “งั้นลองมาทำเทสย่อยดีไหมคะ”ผมนั่งเงียบ...ใช้ความคิด ก่อนจะเอ่ยออกมา
            “เอางี้ดีกว่า...ผมจะพาครูเดินชมสวน ระหว่างนี้...ครูก็บรรยายเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ที่น่าเบื่อให้ผมฟังดีไหม”ผม ออกความคิด คุณครูสาวจ้องหน้า
            “เอางั้นเหรอคะ ก็ได้ค่ะ...ถ้ามันทำให้คุณกาวหายเบื่อ”แล้วผมกับแม่นางก็ออกเดินจากศาลา โดยที่หล่อนไม่ลืมหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาบันทึกภาพด้วย เหอ ๆ
            ระหว่างทางหล่อนก็กดโทรศัพท์ถ่ายรูปไปมุมโน้นมุมนี้ ผมเดินตามหลังไปอย่างช้า ๆ
            “ที่นี่กว้างกว่าที่คิดอีกนะคะ”ครูสาวบอก สงสัยจะใส่ใจกับบ้านมากไป จนลืมว่าตัวเองมาทำหน้าที่อะไร แหม...พอต่อหน้าอาโชติละพูดซะดิบดี นังตอ...
            “ฮะ”ผมยิ้มน้อย ๆ
            “เชิญถ่ายได้ตามสบายนะครับ”ผายมือเชื้อเชิญ นางก็เข้าใจว่าเชิญจริง ๆ ยิ้มร่ากดใหญ่เลยวุ้ย!!!! กูประชด!!!
            “โห...กรงนกใหญ่จังเลย เลี้ยงนกด้วยเหรอคะ”ครูสาวถาม
            “ฮะ”
            “นกอะไรคะ”หล่อนส่องภายในกรง มองเข้าไปบน ๆ แต่ไม่ยักมีนกสักตัว จะมีได้ยังไงละ...นี่มันกรงงู ขืนมีนก ไอ้ตาลก็ได้จับกินหมด คึคึคึ
            “อยากเข้าไปดูไหมครับ”ผมชักชวน
            “เข้าได้ใช่ไหมคะ คือ...เราจะไม่ไปรบกวนเขาใช่ไหม”
            “โฮะ ๆ ไม่หรอกฮะ”กร๊ากกกกกก...ขำท้องจะแข็ง ผมยิ้ม เปิดกรงที่มีกลอนขนาดใหญ่ แล้วพาเดินเข้าไป ด้านในมีต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด มีกิ่งไม้ใหญ่พาดจากฝั่งหนึ่งไปยังฝั่งหนึ่ง ข้างล่างมีสระน้ำเล็ก ๆ และผืนทรายไว้นอนอาบแดด ทางเดินปูนลาดผ่านไปยังทางออกอีกทาง แต่ทางนั้นล็อคไว้...เข้าออกได้ทางเดียว
            “ดิฉันขออนุญาตถ่ายรูปได้ไหมคะ”ครูสาวเอ่ยขึ้น ผมยิ้ม รับโทรศัพท์มากดถ่ายให้ ดอกไม้สีแดงสดกำลังออกดอกสวยงาม หล่อนจับดอกไม้เทียบกับหน้าแล้วให้ผมถ่ายต่อ
            “ไหนคะนก?”ทำ ท่าส่องหา ผมยักไหล่ เดินหาเหมือนกัน...จริง ๆ กรงไม่ใหญ่ แต่ต้นไม้มันเยอะไปนิดนึง สายตาอันปราดเปรียวส่องหา มีแดดแบบนี้ มันจะอยู่ข้างบน ๆ โอ๊ะ...เจอละ หึหึหึ
            “ครูอยากถ่ายมุมนี้ไหมครับ เดี๋ยวผมถ่ายให้”ผมบอกอย่างใจดี ครูสาวรีบยิ้มรับ เดินมาหาเร็วรี่
            “ตรงนี้นะคะ”
            “ครับ ยืนนิ่ง ๆ นะครับ สวยครับ สวย...อีกรูปนะครับ แชะ...สวยงามมากครับ โอ๊ะ...นั่นอะไรอ่ะครับ”ผมชี้ไปให้ดู บนกิ่งไม้ ไอ้ตาลกำลังนอนหลับพักผ่อนสบาย สีทองอร่าม ผิวหนังเป็นเกร็ดเงาวับ ตัวใหญ่ยาวประมาณ 3 เมตร
            ครูสาวคนสวยหันไปมองระดับสูงกว่าสายตาขึ้นมานิดนึง แล้วก็....
            “กะ กะ กะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
            “ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า”
            หล่อนกระโดดอย่างคนตกใจสุดขีด แล้ววิ่งเตลิดออกจากกรง ก่อนจะเป็นลมล้มพับไป ผมยืนหัวเราะโบกมือให้ไอ้ตาล
            “ดีมาก...เดี๋ยวจะบอกอาโชติให้เพิ่มไก่เป็น 2 ตัว คึคึคึ”ตะโกนบอกสัตว์เลี้ยงของตัวเองแล้วตามออกมา
            ทั้งอาโชติ ลูกน้อง สุดา และแม่บ้าน วิ่งมาจากตึก ผมยืนดูครูสาวนอนล้มกองที่พื้น คงไม่ตายหรอกมั้งเนอะ คริคริคริ แค่นี้ก็เป็นลมซะละ
            “เกิดอะไรขึ้นครับ!!!!!! แล้วมาทำอะไรกันที่นี่!!!!!”ผมยักไหล่
            “คุณกาว!!!!!!”อา โชติทำเสียงดัง ผมยักไหล่อีกแล้วเดินไปที่ศาลา ปล่อยให้การปฐมพยาบาลเป็นหน้าที่ของคนอื่นไป โทรศัพท์ครูสาว...ที่ถูกผมถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ตอนที่หล่อนหันไปเจอไอ้ตาลนอนอยู่ 555555555 จัดการอัพโหลดให้ซะเลย แล้ววางไว้คู่กระเป๋าของหล่อน ไม่นานอาโชติก็เดินมา
            “คุณท่านกำลังรีบกลับมานะครับ”
            “อาโชติฟ้องอาเสือ?!?!?!
            “ผมต้องรายงาน!!! เพราะท่านบอกหลายทีแล้วว่าไม่ให้เข้าไปเล่นในกรงงู”
            “ไม่ได้เข้าไปเล่น!!!! เข้าไปดู...”
            “ดูอะไรครับ ในนั้นมีอะไรให้คุณกาวดู...นอกเสียจากว่าจะให้ครูเข้าไปเพื่อจะแกล้ง”
            “แล้วยังไงละ? อาโชติจะทำอะไรกาว!!!”เถียงเสียงดัง
            “มันไม่สมควรนะครับ เกิดครูตกใจช็อคตายไปจะว่าไง”
            “ก็เป็นฆาตรกรเหมือนอาเสือ!!!!
            “คุณกาว!!!!”ผมจ้องหน้าอาโชติ สุดาวิ่งเข้ามา...อาโชติกำมือแน่น
            “ดูคุณกาวไว้สุดา เดี๋ยวคุณท่านจะกลับมาเคลียร์เอง ผมจะเอาครูไปส่งรพ.”
            “ค่ะ”สุดานั่งก้มหน้า แล้วอาโชติก็รีบออกไป
            “แค่เป็นลม ไม่เห็นต้องพาไปรพ.”ผมบ่นกับสุดา
            “เธอน่าจะช็อคด้วยค่ะ คุณกาวน่ะ...เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”สุดาเอ่ยเสียงสั่น
            “คราวนี้โดนแน่ ๆ เลยค่ะ”
            “.................................”ผมเงียบ
            “ก็แค่งู ไม่เห็นต้องกลัวขนาดนั้นเลยนี่ ร้องเสียงดังได้ยินไปสิบบ้าน!!!”ผมบ่น
            “คนเรากลัวไม่เหมือนกันนี่คะ ขนาดสุดายังไม่กล้าเข้าใกล้กรงงูเลย”
            “ให้มันกินอิ่มแล้ว มันไม่กัดหรอกน่า”ผมบอก เถียงออกไป...ก็สุดาสิ ทำหน้าเหมือนจะเป็นจะตาย
            “ถ้าสุดาหลอกคุณกาวเข้าไปในกรงตั๊กแตน คุณกาวจะกล้าเข้าไหมละคะ ก็เหมือนกันแหล่ะค่ะ คุณครูเธอก็คงกลัวงูมาก ทีหลังอย่าทำอีกนะคะ”สุดาเตือน  ผมหน้างอเถียงไม่ออก เพราะตัวเองก็กลัวตั๊กแตนมาก
            นั่งอยู่ที่ศาลากับสุดา สักพักครูสาวก็กลับมาที่ศาลา เธอเหมือนคนตกใจมาก หน้างี้ซีด...และผมเผ้ายุ่งเหยิง จนอดหัวเราะไม่ได้ อาโชติจ้องหน้าดุ ๆ
            “ไปทำผมร้านไหนมาเหรอฮะ”ผมหัวเราะ เอ่ยปากแซว แต่ครูสาวไม่เล่นด้วย...คงจะโกรธ
            “ดิฉันไม่สอนแล้วนะคะ เงินค่าจ้างก็ไม่รับ ให้คนไปส่งฉันที่บ้านจะขอบคุณมาก”พูดเสียงแข็ง ๆ ผมอดยิ้มดีใจไม่ได้ อาโชติยื่นซองสีขาวให้
            “รับไว้เถอะครับ ค่าเสียเวลา ท่านบอกว่าให้คุณรับไว้ให้ได้และต้องขอโทษแทนหลานชายด้วย”
            หล่อนหันหน้ามาทางผม ผมเบะปาก...ยักไหล่ หึหึหึ เก็บของแล้วเตรียมกลับเลย อาโชติต้องวิ่งเอาเงินไปให้ที่รถอีกที
            “คุณกาวน่ะ!!!!”สุดาเหมือนจะร้องไห้
            “ก็แม่นั่น เอาแต่กดโทรศัพท์ก็เลยไม่มองดูดี ๆ น่ะสิ ว่ามันกรงนกหรือกรงอะไร ความผิดกาวเหรอ”
            “คุณกาวววว!!!!”สุดาทำเสียงเหนื่อยใจ ความผิดแม่นั่นนะ ทำไมสุดาต้องมาชักสีหน้าใส่ผมด้วย

            ก่อนอาเสือจะมา ผมรีบเข้าห้องอาหาร ซัดอาหารใส่ให้เต็มพุง อาเสือมาต้องโดนกักบริเวณแน่ ๆ ชิงกินก่อนจะได้อิ่มท้อง ไปจนถึงกลางคืน...วันนี้มีเรื่อง บางทีอาเสืออาจจะไม่ออกไปไหน ดีไม่ดี...สุดาขึ้นมาหาไม่ได้อีก หิวตายอยู่ในห้องนั่นแหล่ะ
            อาโชติก็คงจะโกรธมาก ยืนเฝ้าไม่พูดอะไรสักคำ ช่วยคุยก็ไม่คุยด้วย...แปลกคน ผมเลยกินไป พูดไปอยู่คนเดียว อย่างคนอารมณ์ดี คุยโทรศัพท์กับเพื่อน...สนุกสนาน
            “เออ แล้ววันนี้พ่อมึงไม่อยู่เหรอว่ะ”ไอ้บอลถาม
            “อยู่”ผมตอบได้สั้น ๆ แค่คำสองคำ แต่ก็รู้กัน...ว่าถ้าเป็นอย่างนี้ หมายถึงผมมีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่สะดวกคุยแต่อยากคุย
            “งั้นมึงคงออกไม่ได้ดิว่ะ คืนนี้”
            “เออ”
            “เฮ้อ...งั้นกูคงต้องพูดคำว่าเสียดายแทนกับมึงแล้วล่ะว่ะ”
            “ทำไม?
            “อ้าว ก็วันนี้วงไอ้โรลมันจะเล่นดิว่ะ เห็นมันบอกว่าจะให้มึงร้องนำด้วย”ไอ้บอลบอก ไอ้โรลคือเพื่อนที่มหาลัยฯครับ พวกมันมีวงดนตรีเล่นตามผับ ตอนดึก ๆ บางทีก็เล่นที่ตลาดนัดจตุจักรบ้าง งานจ้างก็มี นักร้องนำมันเพิ่งลาออกไป มันก็จ้างขาจรมาร้องเพลงให้ บางทีก็เอามือกลองมาร้องบ้าง มือกีต้าร์บ้าง มือเบสบ้าง แล้วแต่วันไหนเสียงพวกมันจะพร้อม ก็แมร่งเล่นไปดื่มไป เสียงคงดีอยู่หรอก ไอ้พวกไปฟังก็เมาพอ ๆ กัน ถึงฟังไม่ออก มาเสียงมันแหบใกล้พังกันขนาดไหน แต่ก็เหอ ๆ เสียดายว่ะ!!!!! อุตส่าห์รอให้ถึงวันที่นักร้องนำมันโดนไล่ออก! เกลียดมันมานานละ หล่อน่าหมั่นไส้ ไอ้ขี้เก๊ก!!!! ดีละ...ที่มันชิงลาออกซะก่อน
            “วันหลัง”
            “เออ ๆ เดี๋ยวจะโทรไปบอกมันให้ มันจะได้หานักร้องคนอื่น แล้วมึงยังโอเคดีอยู่นะ”
            “ก็...คิดว่าดี”
            “ดี ก็ดีแล้ว...มึงนี่ก็อยู่เฉย ๆ ไม่ชอบ ชอบให้พ่อมึงเป็นบ้า!!!
            “พอใจ”ผมตอบสั้น ๆ มือก็ตักอาหารกินไปเรื่อย ๆ
            “มีลูกอย่างมึง กูละก็เหนื่อยใจแทน”ไอ้บอลทำสุ้มเสียงกวนตีน ผมอยากจะด่ามันออกโทรศัพท์มากว่า ไอ้ห่...มีลูกอย่างมันไม่เหนื่อยใจเลยนะ กินเหล้าแมร่งทุกคืน พอ ๆ กับผมแหละ มากกว่าด้วยซ้ำ เพราะเสาร์อาทิตย์มันก็ออก ที่สำคัญบ้านมันก็ไม่ตาม เรียกว่าปล่อยตามสบาย แค่อยู่ในพ่อกับแม่เห็นหน้าบ้างเท่านั้น!
            “หึหึ”
            “เออ ๆ มีอะไรโทรมาหากูแล้วกัน แต่ถ้าจะหนีออกจากบ้านไม่ต้องมานะ เดี๋ยวพ่อมึงมาตามแล้วกูซวย”
            “หึหึ...”ไอ้เห้...ด่ามันในใจครับ
            “แค่นี้ละ จุ๊บๆ”มันกวนตีนก่อนวางสาย
            “ไอ้เห....เหยยย เอ้ย”ผมเผลอตัว หันมายิ้มแฮะ ๆ ให้อาโชติ แหม...ทำเป็นยืนหน้าเข้ม ไม่คุยก็ไม่คุย เชอะ...
            “สุดา เพิ่มข้าวให้หน่อย วันนี้เจริญอาหาร!!”ทานคนเดียวฟาดเรียบ
            “ของหวานไหมคะ”สุดาถาม แม่บ้านก็เสิร์ฟกันใหญ่เลย ผมพยักหน้า นั่งกินทับทิมกรอบ...ก่อนจะได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามา อาโชติกับลูกน้องรีบออกไปเสนอหน้า เอ้ย...รับหน้า
            “แย่แน่เลยค่ะ คุณท่านต้องโกรธแน่ ๆ”สุดาเอ่ยเสียงสั่น แม่บ้านเตรียมตัวหนีพายุ
            “หยุด!!! ใคร ออกไปนะ กาวจะให้อาเสือไล่ออกให้หมด”คือแบบ...อยู่คนเดียวมันเสียว ๆ นะ มีเพื่อนบ้างดีกว่า แม่บ้านพากันชะงักเท้า ทำหน้าไม่สู้ดี ไม่มีใครอยากอยู่เพื่อให้โดนลูกหลง ผมเข้าใจ...
            “กาว!!!! กาว!!!!!!!!!!!”เสียงอาเสือเรียกลั่นบ้าน ผมเช็ดปากให้เรียบร้อยก่อนจะเดินไปหา
            “คร้าบบบบบ”อย่างหน้าระรื่น...
            “ทำแบบนั้นทำไม!!!!!!”อา เสือมาถึงก็ใส่ผมเลย ทำหน้าดุใส่ด้วย ลูกน้องสามสี่คนข้างหลัง ยืนหน้านิ่งใส่แว่นดำ อย่างกับเจ้าพ่อมาเฟีย อาโชติคงรายงานหมดแล้วละสิ มองอาโชตินิดนึงก่อนจะเอ่ย
            “ไม่ทำไม”
            “กาว!!!!!!!!!!!!”อาเสือตะโกน เสียงพูดปกติยังก้องกังวานดูมีอำนาจ เวลาโมโหยิ่งดูน่ากลัวเพิ่มขึ้นไปอีก ผมทำใจดีสู้เสือ
            “ก็แค่พาไปเยี่ยมชมสัตว์เลี้ยง”ผมบอก ทำหน้าเชิด ๆ
            “สัตว์เลี้ยงของกาวไม่เหมือนคนอื่น อาเคยบอกแล้วใช่ไหม ห้ามเข้าไปเด็ดขาด!!!!! ถ้ามันฉกเขาขึ้นมาจะทำยังไง”อาเสือทำตาดุ
            “มันฉกรึยังละ!!!!!!”ผมเถียงอย่างมีอารมณ์
            “ยัง แต่ถ้า...ถ้า ถ้า...!!!!!!! ถ้ามันฉก!!!!!!”อาเสือเน้นย้ำคำนั้นหลาย ๆ ที
            “แล้วมันฉกรึยัง!?!?!??!”ผมก็ย้ำคำตอบ เสียงหายใจอาเสือแรงมาก...คงจะโกรธเต็มที่
            “สุดา ไปเอาไม้มา!!!
            “คะ คะ...?
            “เอาไม้เก็บไว้ที่ไหน เอามา...ไม่โดนไม้เรียวซะบ้าง ไม่สำนึก!!!!!!”อาเสือตะคอกดัง
            “จะตีกาวเหรอ!!!!!!!!! โตแล้วนะ...ไม่ใช่เด็ก ๆ !!!!!!!!!!!”ผมตะโกนบ้าง รอบข้างอาเสือมีลูกน้องแว่นดำ ส่วนด้านหลังผมมีสมาคมแม่บ้านยืนก้มหน้า เห้ย!!! เงยหน้าสู้สิว่ะ!!! ไม่เห็นต้องกลัวอาเสือเลย!!!!!
            “ไปหยิบมาสุดา!!!!!!!!!!”อาเสือจับข้อมือผมแล้วบีบแรง ๆ
            “กาวเจ็บนะ!!!!!!!!!
            “แค่นี้เจ็บ ที่ตัวเองทำคนอื่นไม่เจ็บเหรอไง!!!!”อาเสือตวาด
            “แล้วทีอาเสือฆ่าคนอื่น เขาไม่เจ็บเหรอไง!!!!”ผมด่าออกไป อาเสือตวัดฝ่ามือลงบนหน้า ตัวผมล้มลงไปที่พื้น
            เพลี๊ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
            “ว้ายยยย... // คุณกาว”อาโชติและสุดาวิ่งมาทุกคนดูตกใจ รวมทั้งผมด้วย
            “ปล่อยมัน!!!! ไปเอาไม้มา”อาเสือย้ำคำเดิม ผมจับแก้ม...จ้องหน้านิ่งอย่างเอาเรื่อง
            “พูดเรื่องจริงทำเป็นรับไม่ได้!”น้ำตาอาบแก้ม แต่ไร้เสียงสะอื้นใดใด
            “ไอ้กาว!!!!!!!!!!!”อา เสือไปคว้าแจกันดอกไม้ทุ่มลงที่พื้น คนอื่นต่างวิ่งหนีหลบมุมคนละทาง เศษแจกันกระจายเต็มห้อง ใบนี้จำได้ว่า...ซื้อมาคู่ละตั้งเกือบแสน ผมตัวสั่น...ยอมรับว่ากลัว แต่จะไม่แสดงออกว่ากลัวเด็ดขาด
            ไม้เรียวยาวถูกนำมาถึงมืออาเสือ ไหนว่าจะไม่ตีกันแล้วไง!!!!!!!! ไอ้คนใจร้าย!!!!
            “ลุกขึ้นกาว กาวทำผิด!!!! อาต้องทำโทษ!!!!!!
            “............................”ผมกัดปาก นั่งนิ่ง
            “คุณท่านคะ สุดาขอเถอะค่ะ”สุดาก้มหน้าขอร้องแทน
            “งั้นฉันจะตีสุดาแทน ดีไหม?”อา เสือทำเสียงเหี้ยม อาโชติที่ยึดให้เกาะแขน ผมจ้องหน้าอาเสือ...อย่างถือดี สุดาไม่ได้ทำผิด จะให้คนอื่นมารับแทนไม่ได้ ค่อย ๆ ยืนขึ้นช้า ๆ น้ำตาไหลอาบสองแก้ม
            “อย่าทำแบบนี้อีก!!!!
            “จะทำ!!!
            “กาว!!!!!!!”อาเสือตวาด ง้างไม้เรียวขึ้นสูงแล้วฟาดลงที่ก้น แต่มันไม่โดนก้นอย่างเดียว โดนเอวแล้วก็ขาด้วย
            “โอ๊ย!”ไม้แรกที่หวดมาผมก็ร้องเสียแล้ว ยืนไม่ค่อยมันคงเท่าไหร่ ร่างก็จะพาเซ ดันไปเหยียบเอาเศษแจกัน
            “โอ๊ย...”ผมสะดุ้งก้มลงเพราะเท้าโดนแจกันแน่แล้ว ขณะที่อาเสือกำลังเตรียมหวดมาอีกเป็นครั้งที่สองอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม้เรียวฟาดมาเต็มกลางหลัง อย่างผิดจังหวะ
            “โอ๊ย....”ตัวผมล้มลงเพราะประคองตัวไม่ได้ มือและข้อศอกรับเอาเศษแจกันเต็ม ๆ
            “กาว!!!!!!
            “คุณกาว!!!!!!!”ทุก คนร้องตกใจ เลือดไหลที่เท้ามือ และศอก อาเสือไวกว่าใคร...คว้าตัวผมไว้ แต่มือยังไม่วางไม้เรียว รู้สึกจุก ๆ ที่ท้อง...เพราะเพิ่งกินอิ่มมา (เวรกรรม) ตอนนี้รู้สึก...อยากอ้วกไม่ไหวแล้ว
            “เก็บเศษแจกันเดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!”อาเสือสั่งเสียงเข้ม ทุกคนรีบจัดการทันที
            “คุณกาวเป็นยังไงบ้างคะ”สุดาเอ่ยถามน้ำตาไหล
            “สะ สุดา...เจ็บ กาวเจ็บ”ผมร้องกอดสุดา ทั้งที่อาเสือประคองร่างไว้
            “เจ็บเหรอ อาจะพาไปหาหมอนะ”
            “สุดา...สุดา กาวเจ็บ”ผมร้อง ท้องก็จุก มือ เท้าก็เจ็บ ดันร่างอาเสือหนี...แต่คนตัวใหญ่ไม่ปล่อย
            “โชติเอารถออก!!!!!!!!”อาเสือสั่ง ในบ้านก็เกิดความวุ่นวายอีกระลอก
            “รู้ไว้เลยว่ากาวเกลียดอา เกลียดอาเสือที่สุด!!!!!!!!!!”ผมกัดฟันพูดออกไป
            “เกลียด เกลียด เกลียด!!!!!! เกลียดกว่าใครทั้งหมด เกลียดอาเสือที่สุด!!!!!”อาเสือนั่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำ ผมก็พูดไปอย่างนั้นตลอดจนถึงรพ.










COMMENT PLEASE

4 ความคิดเห็น:

  1. สงสารเสือมากกว่ากาว ยังไงเรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำ
    ส่วนตอนนี้เราว่ากาวทำตัวเอง

    ตอบลบ
  2. รู้สึกเหมือนกาวจะอ้วกใส่อา หึหึ

    ตอบลบ
  3. กาวว .. มีการ กินตุน จนจุก .. 5555

    ตอบลบ