วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ตอนที่ 8 – “อะไรก็ไม่รู้” 100%





ตอนที่ 8 – “อะไรก็ไม่รู้”



            อาบน้ำและลงมาทานอาหารเช้า แต่ว่าอาเสือออกไปทำงานแล้ว ใกล้ ๆ กับชามโจ๊ก มีกล่องสองใบ และกระดาษหนึ่งแผ่น ผมเดินไปนั่งลง มองหน้าอาโชติ...ซึ่งวันนี้จะมาเป็นคนดูแล ทำเป็นหน้าเข้ม ผมมองตามแล้วทำเป็นไม่ใส่ใจ ทันทีที่นั่งสุดาก็เอาน้ำส้มแช่เย็นมาให้ ผมชอบกินแบบที่เป็นเกร็ดน้ำแข็ง ต้องแช่ให้พอดีถึงจะเป็น ถ้าแข็งมากไปก็ไม่ชอบ ถ้าไม่เย็นก็ไม่ชอบอีก

            เปิดกล่องนาฬิกาขึ้นมาดูเพราะหน้ากล่องมีโลโก้แบรนด์ติดไว้อยู่ อดใจไม่ไหว...ขอเปิดก่อน ทันทีที่เปิดออกก็ต้องร้องว้าว TAG HEUER ตัวเรือนสีดำแบบที่ชอบ รุ่น CALIBRE 36 หน้าปัดจะคล้าย ๆ แผงหน้าปัดรถ สายหนังมีรูระบายอากาศ เคยดูรุ่นนี้ไว้สองเดือนที่แล้ว ตอนไปสิงค์โปร ผมยิ้มกว้างออกมา...เพราะได้ของถูกใจ

            “สวยจังเลยค่ะ”สุดาเอ่ยชม ผมยิ้มลอยหน้าลอยตา อวดสุดาคนแรก และหันไปสบสายตาอาโชติ ก่อนจะทำหน้าเชิด ๆ ทำเป็นเฉย ๆ กับของที่ได้มา อาโชติยิ้มขำกับท่าทางของผม

            “ทานอาหารก่อนดีไหมคะ...”สุดาบอก ผมดูนาฬิกาตัวเองไป กินไป...จึงกินได้หลายคำ ได้มาแล้วก็ใส่เลย ยิ่งอยู่บนข้อมือผม ยิ่งดูเท่ห์ขึ้นไปอีก

            “สุดาเอากล่องขึ้นไปวางไว้บนห้องให้ด้วย”ผมบอก เก็บทุกอย่างแหล่ะถ้าเป็นของที่ชอบ

            “ค่ะ”

            กล่องต่อมาอาเสือบอกแล้วว่ากระเป๋าสตางค์ ผมเปิดกล่องดูอันนี้จะกล่องใหญ่กว่ากล่องนาฬิกา เลยทำให้สงสัยนิดหน่อยว่าแค่กระเป๋าสตางค์ทำไมกล่องใหญ่กว่า เปิดมาก็พบว่ามันเป็นของแบรนด์ BALLY สีดำ ทั้ง 4 ใบ แต่ลายแตกต่างกัน ก็โอเคชอบ ปกติเปลี่ยนไม่บ่อยอยู่แล้ว ผมหยิบมาดูทีละใบจนครบ สุดาก็คะยั้นคะยอให้กินข้าวไปด้วย จนหมดชาม

            “เอาขึ้นไปเก็บให้ด้วยนะ”ผมบอก

            “ค่ะ”

            ส่วนกระดาษที่วางอยู่...แน่ละผมหยิบขึ้นมาอ่าน มันเป็นสัญญาซื้อขายหุ้น มีชื่ออาเสือเซ็นไว้อยู่แล้ว เหลือเพียงแต่มีลายเซ็นผมกำกับลงไป เอกสารฉบับนี้...ก็จะครบถ้วนสมบูรณ์ ผมกัดฟันนิ่ง! จะไม่เซ็นเด็ดขาดจนกว่าจะได้โฉนดที่ดินบ้านสวนคืน!!!! หงุดหงิดขึ้นมาทันที

            “อิ่มแล้ว!!”หยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมา ให้รู้ว่าผมพร้อมจะไปเรียนแล้ว อาโชติมองอยู่ไม่พูดอะไร แล้วก็เดินออกไปเตรียมรถอย่างรู้งาน ผมหันไปมองสุดา

            “นี่ไง คนดีของสุดา!!!!”ผมหันไปพูดกับสุดาเสียงดัง สุดาก้มหน้าไม่พูดอะไร กัดฟันตัวเอง...น้ำตาแทบไหล จะมาเอาไปอีกแล้ว!!!!! ของที่ซื้อมาให้เหมือนเอาของมาล่อเด็กยังไงไม่รู้ ความดีใจที่ได้ของเมื่อกี้แทบหมดสิ้น อยากจะปานาฬิกาทิ้งซะด้วยซ้ำ!

            ผมถือกระดาษออกมาตรงหลังครัว มองหาสมหมายที่สวน สุดาวิ่งตามออกมา

            “จะไปไหนคะ”

            “สมหมายไปไหน?

            “รดน้ำต้นไม้อยู่ค่ะ คุณกาวอยากได้อะไรคะ?”สุดาถาม

            “ไปตามสมหมายมา”ผมบอก สุดามองหน้าผมกลับ ก่อนจะวิ่งไปตามสมหมายให้ พอมาถึงผมก็ยัดกระดาษของอาเสือใส่มือสมหมาย

            “เอาไปซีร๊อกให้ที 5,000 ใบ”

            “ห๊ะ!?!?!?!?”สมหมายกับสุดาร้องออกมาพร้อมกัน

            “โธ่คุณกาว...อยู่เฉย ๆ บ้างเถอะค่ะ เดี๋ยวก็ได้เจ็บตัวอีก”สุดาพูดเสียงเหนื่อย ๆ สีหน้าก็เหนื่อย

            “แล้วคุณท่านของสุดา เคยหยุดให้กาวมั่งไหม!?!?! ดูเอาเถอะนะ...ว่าใครเริ่มก่อน!!!!”ผมบอก สมหมายกับสุดาจ้องหน้ากัน

            “เย็นนี้...กลับมาหวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย”ผมบอก

            “โธ่ คุณกาว”รู้ว่าทั้งสองคนลำบากใจ อาโชติเดินกลับเข้ามาทำให้ผมต้องรีบออกไป ปล่อยให้สมหมายกับสุดายืนหน้าแบกโลกไว้ข้างหลัง

            “เบื่อ!!!! เบื่อ!!!! เบื่อ!!!!”ตะโกนใส่หน้าอาโชติแล้วกระแทกเท้าขึ้นรถอย่างหงุดหงิด อาโชติไม่พูดอะไรสักคำ ชีวิตช่างน่าเบื่อเหลือเกิน
 


            ลงจากรถคันหรู อาโชติกับลูกน้องคงรอแถว ๆ นี้ ปกติไม่ค่อยวุ่นวายกับผมมากนัก แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้คลาดสายตา

            “มาแล้วๆ”เสียงไอ้บอลกับไอ้กอล์ฟดังลั่นอยู่ที่โต๊ะใต้คณะ ส่วนคนอื่นก้มหน้าทำการบ้านกันอยู่ ไอ้โรลก็ลอกงานยิก ๆ เงยหน้ามามองแล้วก้มลงไปจดต่อ

            “ไงครับ คุณหนูกาว...บอดี้การ์ดมาส่งเหมือนเคย”ไอ้บอลทัก

            “เออ เอามาลอกบ้างดิ๊...”ผมทักมันนิดนึง ขี้เกียจต่อปากต่อคำ แต่ใช้เวลานี้ลอกการบ้านจนเสร็จ ดูจากลายมือคงของไอ้น้ำแน่ ๆ มันคิดมาละเอียดดี ผมอ่านทวนนิดนึง ก่อนจะจดให้ทันเข้าเรียน

            “โฮ ๆ ๆ คอแดง ๆ ถูกดูดเลือดมาเหรอจ๊ะ”ไอ้บอลแหวกคอเสื้อดู ผมรีบตะครุบเอาไว้ ลืมไปเลยว่าเมื่อคืนถูกทำอะไรมา เพื่อน ๆ คนอื่นทำหน้ายิ้มกระอักกระอ่วน ผมเอาปากกาฟาดหัวไอ้บอลไปที

            “เดี๋ยวกูจะฟ้องอาโชติ”

            “อุ๊ยตาย...สายโหดโว้ยวันนี้”

            วิชาพื้นฐานที่ทุกคณะต้องเรียนอยู่แล้วอย่างบุคลิกภาพ ทำให้ผมเจอเพื่อนต่างคณะมากมาย แน่นอนว่าต้องเจอ ไอ้คิ้วผู้ซึ่งเป็นรองประธานค่ายยืนดักอยู่หน้าประตู หลังจากเรียนเสร็จ

            “เฮ้ย...ใครจะไป ก็ส่งรายชื่อด้วยโว้ย จะได้ของบประมาณถูก”มันแหกปากตะโกนแข่งกับนักศึกษาคนอื่น ๆ ผมนั่งหัวเราะมันกับไอ้โรล ไอ้กอล์ฟกำลังจดรายชื่อกลุ่มเราอยู่ แน่นอนว่าต้องมีชื่อผมด้วย

            “กี่คนว่ะ”ไอ้โรลถาม เสียงดังเพราะส่งงานกันอยู่ด้วย

            “1..2...3...7...8...11 เออ แค่นี้ก็พอ...นอกนั้นใครจะไปให้มันไปลงกันเอาเอง”ไอ้บอลบอก ผมก้มลงดูเห็นชื่อตัวเองในลำดับที่ 4 แล้วหยิบกระดาษเดินไปหาไอ้คิ้ว

            “อ้าว มาเรียนด้วยเหรอมึง! ไปกันกี่คน...อ่อ มีมึงด้วย...ไปได้แน่ใช่ไหม?”มันหันมาถามหน้าจริงจัง

            “ไม่ได้...จะเขียนเหรอว่ะ!!!!”มันก็ถามแปลก ๆ ไม่เห็นว่าเป็นผู้หญิง (โหดๆ) กูสวนไปละ...

            “เออ!!!! ให้ดีละ!!!!! ต้องออกใบขออนุญาตจากทางมหาลัยฯไปให้ผู้ปกครองไหมว่ะ?”ไอ้คิ้วพูดขึ้น ไอ้พวกเพื่อนเวรทั้งหลายก็หัวเราะกันเสียงดัง ผมยกนิ้วกลางให้ไอ้คิ้ว มันแล่บลิ้นแล้วเก็บรายชื่อไป

            “แล้วได้ครบยังว่ะ ขาดอีกกี่คน”ผมถาม

            “ก็ว่าจะเอาสัก 50 คน กำลังสวย ขาดไม่เยอะหรอก...ทำไม มึงจะพาใครไปอีก?

            “เปล่า! กูถามไม่ได้เหรอว่ะ มึงนี่...จะพูดเบา ๆ เหมือนผู้หญิงคนอื่นเป็นไหมนี่”ผมบอก

            “ทำไม!?!?! พูดดังอย่างกูทำไม!?!?!?!”มันยืนเท้าสะเอวถาม

            “เปล่าครับพี่!?!?! เปล่าครับ!?!?!”ผมแกล้งก้มหัวให้มัน พวกไอ้บอลหัวเราะใหญ่

            “ไอ้นาวไปไหนว่ะ คิ้ว”แยมโรลมันถามเพื่อนมันครับ ไอ้คิ้วมองหาตรงทางเดินพอดี

            “อ้าว...นี่ไง พูดถึงก็มา...ตายยากนะมึง”มันทักเพื่อนมัน ที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู และหน้าผม ตัวแม่งเตี้ยได้อีก...แต่มองใกล้ ๆ แล้วโคตรน่ารัก ตาหวาน หน้าใส...แต่ติดงอเล็กน้อย

            “อยู่กันหลายคนอย่างนี้ ไปกินสุกี้กัน”ไอ้กอล์ฟเอ่ยชวนเสียงดัง ทุกคนเห็นด้วย

            “ไปด้วยกันไหมว่ะ คิ้ว”ผมชวนมัน ไอ้คิ้วหันไปทางเพื่อนมัน

            “กูไม่ไป...ร้อน! ไอ้ติณฑ์แม่งก็ไม่มารับสักที!!!!!”เพื่อนมันตรงหน้าเริ่มขมวดคิ้ว ไอ้แยมโรลก็เดินออกมากอดคอเพื่อนมัน

            “งั้นมึงโทรไปบอกเฮียว่าให้ไปหาร้านสุกี้ก็ได้ กินในห้าง ไม่ร้อนหรอก”

            “เอาไงดีว่ะ โทรหามันก่อนแล้วกัน...เดี๋ยวแม่งแดกหัวกูอีก”ไอ้เตี้ยพูดจาน่ารัก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทร สงสัยแฟนมัน เพื่อนผมทั้งหลายก็ออกมายืนรอหน้าห้อง

            “โคตรคุณหนู”ผมหัวเราะหึหึ พูดเบา ไอ้คิ้วยังได้ยิน...หันมาหา

            “น้อยกว่ามึง”

            “แหม ๆ แตะไม่ได้นะคะ...”แกล้งหยิกแก้มมัน มันตบหัวกูทันที อะ...ไอ้...ผู้หญิงโหดเอ้ยยยยย

            ลงมาใต้ตึกกับลิงอีกฝูง อาโชติยืนมองผมอยู่ก่อน ผมกวักมือเรียก...ก่อนจะบอกว่าจะไปกินข้าวกับเพื่อน

            “ทานที่บ้านดีไหมครับ”

            “จะไปกับเพื่อน”ผมย้ำคำเดิม อาโชติพยักหน้าหน่อย ๆ

            “งั้นผมจะขับรถตามนะครับ”ผมพยักหน้า ห้ามไม่ให้ตามไปก็คงไม่ได้ รอเพื่อนมากันครบ ก็นั่งรถออกมา ผมนั่งคันไอ้บอล ไอ้กอล์ฟ ไอ้รัน ไอ้เอก ส่วนอีกคันเป็นพี่กาวใหญ่แฟนไอ้คิ้ว แยมโรล ไอ้ชัด ไอ้นาว

            ที่ห้างคนเยอะ แถมรถยังเยอะสุด ๆ อาโชติต้องขึ้นไปจอดรถอีกชั้นนึง แต่โทรคุยกับผมตลอด ทำอย่างกับผมจะหนีไปไหนระหว่างนี้

            “คนของพ่อมึงนี่...อาการหนักนะ”ไอ้บอลพูด ผมหัวเราะก่อนจะวางสายไป แล้วอาเสือก็โทรมาตอนมันขับรถวน ๆ จะเอาที่จอดชั้นนี้

            “ว่า....”

            “เรียนเสร็จรึยัง? ช่วงโชติบอก...จะไปกินข้าวกับเพื่อน”

            “ก็คนมันหิว”

            “กินที่ไหน ให้อาไปหาไหม...”

            “ไม่ต้อง! อย่าทำเหมือนกาวเป็นลูกแง่หน่อยเลยน่ะ...อามา กาวก็ได้อายเพื่อนอีก!!!”ผมพูดอย่างใส่อารมณ์ คนอื่นบนรถก็นั่งเงียบกันหมด

            “โอเค ๆ ดูแลตัวเองด้วย”ผมกดตัดสาย โทรมาถามทั้งที่ไม่เคยโทรมา...รู้หรอกน่า ว่าจะเอาใจ จะได้ให้ผมเซ็นอิกระดาษใบนั้นเร็ว ๆ

            “มึงทำถูกต้องแล้ว ที่ไม่พาพ่อมาด้วย ใจเย็น ๆ นะฮับ”ไอ้รันพูดติดตลก

            “แมร่งเซ็ง!! บีบกูมาก ๆ คอยดูกูจะหนีออกจากบ้าน”ผมพูดกระแทกเสียง

            “มึงจะหนีไปไหนได้ มึงก็รู้...”ไอ้บอลพูดแล้วเงียบ ให้ผมได้คิด...นั่นดิ จะออกไปไหนได้ ออกก็ตาย...ไม่ออกก็เหมือนตาย

            ร้านสุกี้แต่เรากินเหมือนอยู่ร้านหมูกระทะ โต๊ะยาวใหญ่สุดของร้าน แม้แต่ไอ้คิ้วผู้หญิงหนึ่งเดียวของกลุ่ม มันก็ยังกินทันหมู่กระเพาะหมูอย่างพวกเรา ฮ่าฮ่าฮ่า ผมนั่งดูไอ้มะนาวมันนั่งเงียบ ๆ หยิ่ง ไม่คุยกับใครเลย มันกินของมันคนเดียว อร่อยอยู่ริมโต๊ะคนเดียว

            “เอ้า...มองอยู่นั่น นั่นนะ...เขามีผัวแล้ว”ไอ้บอลพูดเสียงดัง หันมาทั้งโต๊ะ ผมหัวเราะเขิน ๆ

            “เฮ้ย ชอบเพื่อนกูเหรอว่ะ”ไอ้ชัดแซว

            “ก็น่ารักดี”ผมแซวกลับ ไม่มีอายครับ...หน้าด้านอยู่แล้ว ไอ้มะนาวแสยะยิ้มทั้งที่อาหารเต็มปาก ก่อนจะส่งสายตามองผมอย่างสมเพช เห็นวิธีมองมันแล้ว...กูรู้สึกตกต่ำลงทันที

            “มีผัวแล้วค่ะ เชิญป้ายต่อไปค่ะ”ไอ้ชัดแซวเพื่อนมัน ไอ้มะนาวเอาตะเกียบเคาะหัว

            “ปากดี!!!!”ทุกคนหัวเราะ นั่งกินกันอย่างอร่อย หารเงินกันออกมาแล้วก็ไม่แพงมาก กินเสร็จแฟนไอ้มะนาวก็มารับที่หน้าร้าน ผมอึ้งนิดหน่อย...แฟนมันก็คือแบบ โคตรหล่ออ่ะ...อุ้มเด็กมาด้วย หน้าเหมือนมันเปี้ยป บอกว่าเป็นลูกกูก็เชื่อ แต่ไอ้โรลกระซิบแล้วว่าหลานมัน

            “กลับเลยเหรอ”ไอ้คิ้วถามเพื่อนมัน

            “กลับเลยใช่ไหม?”มันหันไปถามแฟน

            “ม่อนยังไม่ได้กินข้าว เดี๊ยวพาม่อนไปกินข้าวก่อน”แฟนมันบอก แล้วมันก็หันมาพยักหน้าให้พวกผม คือว่าแบบดูดีอ่ะ ทั้งสองคนเลย เห็นมันหยิ่ง ๆ เวลาอยู่มหาลัยฯ แต่จริง ๆ แล้วผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นคนยังไงแน่ ข่าวลือก็บอกว่ามันเป็นเด็กขาย แต่ผมไม่เชื่อหรอก ยิ่งมาเห็นมันกับแฟน ยิ่งไม่เชื่อ..

            “มอง ๆ อยากได้ผัวหรืออยากได้เมียจ๊ะ”ไอ้แยมโรลหันมาแซวผม

            “หึหึ เดี๋ยวกูจะฟ้องผัวมึงให้จัดการ ปากดีนัก!!!!”ผม ใส่กลับ ไอ้โรลขยี้หัวผม แล้วเดินหนีไปเลย เหอ ๆ สุดท้ายเราเลยเดินแยกกัน ไอ้คิ้วไปกับแฟน ไอ้ชัดไปเตะบอลกับไอ้เอกไอ้รัน ไอ้กอล์ฟกลับบ้าน ส่วนผม ไอ้บอล ไอ้โรล จะเดินเล่นกันสักพัก ระหว่างที่เดินอยู่ก็เห็นอาโชติกับลูกน้องเดินอยู่ไม่ไกล

            “มึงอย่าลืมไปขอพ่อมึงด้วยนะเนี่ย!”ไอ้บอลพูดครั้งที่ร้อย

            “เออน่า!!

            “ทำปากดีตลอด ชัวร์ไหมว่าจะได้ไป?

            “เออ ได้ไปแน่มึงไม่ต้องห่วง กูนี่ระดับไหน”

            “ถุ้ย....”ไอ้โรลหัวเราะ

            “มีปัญหาอย่ามาลากกูไปเอี่ยว เข้าใจ๋”ไอ้บอลพูด

            “เออน่า...มึงนี่พูดมาก”ผมพูดทำเป็นหงุดหงิด แต่จริง ๆ ก็มีนิดหน่อย ขี้เกียจฟังมันย้ำ ๆ เหมือนเวลาอาเสือพูด มันน่ารำคาญ

            เสียงเพลงโทรศัพท์ดัง ไอ้โรลมันรีบรับแล้วคุยกับผัวมัน เหอะ...ว่างไม่ได้เลย เห็นคุยกันตลอด มันเดินถอยไปอยู่ข้างหลัง ผมเดินนำกับไอ้บอลสองคน จู่ ๆ มีใครไม่รู้มาจับแขนผม แล้วจะดึงให้ไปด้วย ผมตกใจมาก...เพราะมาถึงตัวไว

            “มานี่!!!”มันพูด ไอ้บอลยังไม่รู้ตัว มองโน่นมองนี่

            “บอล!!!!”ผมตะโกนเรียกมัน ไอ้บอลหันมา ตกใจ...คว้ามือผมไว้อีกข้าง ไอ้โรลชะงักเท้า...

            “เฮ้ย อะไรว่ะ!?!?!”ไอ้บอลเสียงดัง ผมพยายามสลัดมือหนีแต่มันกำแน่นมาก มองหาอาโชติ...อาโชติวิ่งเข้ามาหา แต่มันมองตามสายตาผม เห็นอาโชติด้วย ก็วิ่งหนีไป ปล่อยให้ลูกน้องอาโชติวิ่งตาม คนในห้างก็มอง

            “อะไรคุณกาว!?!?!”อาโชติจับแขนผมไว้

            “ไม่รู้ใคร จู่ ๆ ก็มาดึงแขน”ผมบอก

            “เป็นอะไรเปล่า?”ไอ้บอลถาม ผมส่ายหน้า ไม่ได้กลัว...แต่งง ๆ มากกว่า

            “อะไรว่ะ?”ไอ้โรลถามเสียงเครียด

            “มันเดินมาจากไหนว่ะ”ผมไม่ตอบ แต่ถามมันกลับ เพราะมันเดินมาจากข้างหลัง ไอ้แยมโรลก็เดินข้างหลัง

            “กูก็ไม่รู้ มันเดินเบียดไหล่กูขึ้นมา...กูก็คิดว่ามันรู้จักกับมึง”ไอ้โรลพูด ผมส่ายหน้า

            “ไม่รู้จัก จู่ ๆ ก็มากระชากแขนกู”ทุกคนเงียบ...ลูกน้องอาโชติวิ่งกลับมา

            “ไม่ทันครับ”อาโชติจับมือผมไว้แน่น ไม่พูดอะไรต่อสักคำ

            “กลับเถอะครับ”แล้วลากผมออกมาจากเพื่อน แต่ไอ้บอลกับไอ้โรลมันรู้...เดี๋ยวเราค่อยคุยกันทีหลังนอกรอบ ขึ้นมาบนรถ อาโชติก็โทรรายงานอาเสือทันที เหตุการณ์เป็นยังไงก็ยังไม่รู้เลย มันเป็นใครอะไรยังไง...ก็เดาไม่ออก แต่อาเสือเม้งแตกไปละ อาโชติมาส่งผมที่บริษัท อาเสือยืนรออยู่ก่อนแล้ว

            “เป็นยังไง มันเป็นใคร?

            “อย่าเวอร์น่า เขาอาจแค่ทักคนผิด”ผมบอก เดินเข้าห้องทำงานกว้างอย่างตามสบาย

            “แน่ใจเหรอ?”อาเสือพูด ผมไม่อยากจะคิดอะไรที่น่ากลัวต่อตัวเอง

            “ไม่มีอะไรหรอกมั้ง?”ผมถาม ขณะที่อาเสือทำหน้าเครียด

            “.....................................”ไม่ได้พูดอะไรกันอีก อาเสือก็กรุณามากพอที่จะไม่บังคับให้เซ็นสัญญาวันนี้ ตอนนี้ ผมนั่งเล่นคอมฯ ของอาเสือในห้อง ส่วนผู้เป็นอาออกไปประชุม
           
 

COMMENT PLEASE





"ลุ้นกันต่อเนอะ ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก อยากให้รู้จักสภาพแวดล้อมของกาวก่อน อิอิ"














1 ความคิดเห็น:

  1. ใครอ่ะ ที่มาจับกาว อย่ายุ่งกีบกาวของอาเสือน้าา กรี้ดด ตินตินนาวนาวกับหนูม่อน แบบว่าอรมณ์พ่อแม่ลูกมว้ากก แต่นาวจ้ะ เนื้อหอมนะเรา นุ้งกาวจีบด้วย ตินตินอีกคน ขำกาว จะจีบคนผัวหรือจะจีบคนเมีย เล่นมองทั้งคู่ คึคึ เดี่ยวเจออาเสือจัดการหรอก

    ตอบลบ