วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตอนที่ 50



ตอนที่ 50
            เป็นเช้าที่สายกว่าทุกวัน ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาโดยลืมไปว่าตัวเองไม่ได้นอนกับลูก ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาด้านล่างทันที เดินผ่านห้องอาหารอาโชติก็รั้งไว้บอกว่าให้ทานอาหารซะก่อน จะขัดขืนคงไม่เป็นผลเมื่อกลิ่นอาหารมันโชยแตะจมูก จะรีบกินก่อนก็ได้...
            “แฝดตื่นแล้วเหรอสุดา?”ถามสุดา
            “ค่ะ คุณท่านพาตื่นแต่เช้า”คำว่าพาตื่นแต่เช้านี่หมายถึงอาเสือปลุกลูกรึเปล่า!??! แล้วไม่ร้องกันหรือไง??
            “แล้วไม่ร้องไห้กันหรือไง”
            “ร้องค่ะ”
            “เห็นไหม!!!”ผมรีบพูด
            “แต่...นิดเดียว แค่ตอนตื่นค่ะตอนนี้อาบน้ำแต่งตัวกันอยู่”
            “อาเสือทำให้เหรอ”ถามอย่างไม่น่าเชื่อ
            “ก็จะใครซะอีกละคะ รีบทานอาหารเข้าเถอะค่ะ...ได้ยินว่าวันนี้คุณท่านจะพาเด็ก ๆ ไปข้างนอกกันด้วย”
            “อาเสือไม่เห็นบอก!”ผมพูดอย่างน้อยใจเล็ก ๆ แต่ยอมนั่งทานอาหารโดยไม่กล้าอาละวาดอีก แค่เมื่อวานที่ไม่ได้นอนกับแฝดก็ยังเสียใจไม่หาย วันนี้ป้านิดทำผัดผักใส่หมูหมัก น้ำข้นจนอยากจะให้ผัดเส้นใหญ่กินเป็นราดหน้าเหลือเกิน บอกป้าแกที่เดินผ่านมาป้าแกเลยขอยกเป็นมื้อกลางวันแทน ส่วนผลไม้ที่ปลอกวางไว้เป็นแก้วมังกร ผมทานไปแค่สองชิ้น เพราะอยากกินบัตเตอร์เค้กที่วางอยู่ในถาดตรงหน้ามากกว่า
            “ทำไมมีชิ้นเดียวละ”ผมถาม สุดามองแล้วทำท่าเข้าใจทันที
            “เมื่อเช้าคุณท่านแกะทานไปชิ้นนึงค่ะ”
            “จึ้กวันนี้อาเสือเป็นอะไรนะ จะแย่งงานกาวทุกอย่างเลย!”หงุดหงิดเล็ก ๆ มื้ออาหารนี้กระซิบถามสุดาถึงนมที่แช่ช่องฟรีสเอาไว้ ดูเหมือนมันลงน้อยลงมากและน้ำนมผมเริ่มจะหมดปั๊มยังไงก็ปั๊มไม่ออก
            “คงต้องกินนมผงแล้ว”ผมพูดเบา ๆ
            “มีนมผงของ xxx ที่จัดมาเป็นของขวัญให้ จะลองให้น้องแฝดทานไหมคะ”
            “อืม จริงด้วย งั้นสุดาช่วยเอามาให้กาวดูหน่อยละกัน”เอาไว้ค่อยโทรไปถามทามว่าจะเปลี่ยนนมนี่ยังไง เปลี่ยนได้เลยหรือต้องผสมอะไรก่อน
            เดินหลบมุมเข้ามาแอบมองแฝดที่กำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจได้เล่นกับปะป๊าเค้า แปบเดียวก็คุ้นกันเหมือนเดิมแล้ว
            “จ๊ะเอ๋!!!”ผมเล่นบ้าง โผล่หัวเข้าไประหว่างที่ทั้งสามคนเล่นกันอยู่แล้วหลบตรงมุม เอามือป้องหน้าตัวเองไว้เพื่อดูว่าแฝดจะจำตัวเองได้รึเปล่า วันนี้กลิ่นสีผมจางลงมากแล้ว เมื่อเช้าก็ยังสระผมไปตั้งสามครั้ง
            “อุ๊ย เสียงใครนะ?”อาเสือมองหน้าลูกแล้วยิ้ม เด็ก ๆ ก็ยิ้มให้
            “คิคิคิ”สกายเริ่มหัวเราะออกมา
            “จ๊ะเอ๋!!!!”เล่นอีกที คราวนี้เด็ก ๆ หันมามองอย่างสนใจ
            “เสียงใครกันนะ ใช่มะม๊าของแฝดรึเปล่า”อาเสือหยอก ผมเดินปิดหน้าเข้ามาทำเอาแฝดหัวเราะดิ้นกันใหญ่ เสียงหัวเราะของเราดังลั่นไปจนถึงห้องข้างนอก
            “จ๊ะเอ๋”ผมเปิดหน้าตัวเองออก แฝดก็หัวเราะยื่นมือจะให้อุ้มกันใหญ่ เลยอุ้มมาฟัดด้วยความคิดถึงทีละคน
            “โอ๊ยย ซบกันด้วย”เจ้าเกลเหมือนจะรู้ว่าผมหายไปหนึ่งคืน กอดนิ่งทำตัวอ้อนแบบนี้จะไปไหนได้ละ ผมยิ้มให้อาเสือเหมือนได้รับชัยชนะที่เหนือกว่า ทำเอาอาเสือหัวเราะออกมา ส่วนสกายอยากให้อุ้มบ้างเลยต้องประคองกันไว้ เด็กสองคนทำคะแนนผลัดกันซบผมไม่ยอมให้ปล่อยวาง
            “มีกลิ่นสีผมอยู่ไหม”ถามอาเสือระหว่างที่เด็ก ๆ กอดแบบนี้ อาเสือลุกขึ้นมาดมฟุดฟิดแล้วเลยมาจุ๊บแก้มเย็น ๆ ของผม
            “มีกลิ่นยาสระผม”
            “กาวกลัวว่าเด็ก ๆ จะได้กลิ่นไม่หอมเลยสระไปตั้งหลายครั้ง ขอโทษน้า...จะไม่ทำอีกแล้ว”ผมบอกสองคนในอ้อมกอด รู้สึกผิดต่อแฝดมาก ๆ
            “ดีนะมันไม่ออกสีมาก ไม่งั้นอาคงไม่ยอมด้วยอีกคน”อาเสือเอามือปัดผมให้เข้าที่
            “เอาไว้แฝดโตเรามาทำด้วยกันนะ”พูดกระซิบให้ลูกฟังแต่อาเสือได้ยิน ถึงกับตีปากผม
            “เจ็บนะ!”ผมตะคอกแต่ก็เกือบเท่ากระซิบ สายตานี่จิกอาเสือเต็มที่
            “ไม่ต้องหาเรื่องอีกถ้าทำนิสัยไม่ดีอาจะจับจัดการทั้งสามคนเลย!
            “จะตีกาวอีกเหรอ”
            “ตีแน่ถ้าทำไม่ดี อาไม่ตามใจกาวแบบผิด ๆ อีกต่อไปแล้วนะ เรื่องไหนอายอมก็อาก็ยอมให้สุด ๆ แต่เรื่องไหนอาขอ กาวต้องฟังอาบ้าง”อาเสือบ่นยาว
            “กาวพูดเล่นเฉย ๆ”ยิ้มหวานให้อาเสือ
            “เหรออออ”คนตรงหน้าทำหน้าไม่เชื่อ ก่อนจะยื่นหน้ามาจูบ
            “แล้วนี่เป็นอะไรกันเนี่ย เมื่อกี้ยังหัวเราะกันอยู่พอมะม๊ามากลายเป็นออเซาะกันซะงั้นนะครับ”อาพยายามจะดึงแฝดไปอุ้ม แต่เด็กสองคนมือเหนียวกำเสื้อผมเฉยเลย ปฏิกิริยาทีเกิดขึ้นมันทำให้เกิดความรู้สึกแปลก ๆ ในหัวใจ เหมือนว่าความรู้สึกของผมได้รับการใส่ใจจากเด็กทั้งสอง รู้สึกตื้นตันจนหุบยิ้มไม่ได้
            “ไปทานข้าวกันได้แล้วครับ”อาเสือบอก
            “อาทานหรือยัง”ผมรีบถาม เพราะนึกขึ้นได้ว่าถ้าอาเสือตื่นมาทำคนเดียวคงจะยังไม่ได้ทาน
            “อาดื่มกาแฟไปแล้วครับ”
            “อ่อ มิน่าถึงกินบัตเตอร์เค้กกาวไป”อดทวงไม่ได้ ก็คนมันขี้หวงนี่ อาเสือบิดจมูกผมไปมาหยอกล้อ
            “อากินแค่ชิ้นเดียวเอง...คนขี้หวง ถ้าลูกโตแล้วขอกินจะให้กินไหมเนี่ย”
            “ก็ต้องให้สิ อาเสือนี่พูดตลก”สายตาอบอุ่นส่งผ่านจากคนตรงหน้า ผมตบหลังคนตัวเล็กสองคนเบา ๆ พร้อมโยกตัวไปด้วยเล็กน้อย สร้างความอบอุ่น
            “ลูกให้ไม่บ่นสินะ”แววตากลั่นแกล้งทำให้ผมต้องอมยิ้มและพยักหน้าอย่างขี้เล่น
            “ถ้าไม่อยากให้กาวหวง อาก็ต้องซื้อมาเก็บไว้ให้กาวเยอะ ๆ”ผมบอก
            “หึหึหึ อาก็ให้คนซื้อมาใส่ตู้ไว้ไม่เคยขาดไม่ใช่หรือไง”
            “ก็ใช่ แต่เวลาไอ้บอลมามันชอบหยิบไปกินแถมเอากลับบ้านด้วย”
            “กาวก็ห้ามสิครับ”
            “ห้ามได้ที่ไหน มันหน้าด้านจะตาย”อาเสือหัวเราะ
            “วันนี้อาหยุดกาวอยากให้อาทำอะไรรึเปล่า”มือหนาลูบหัวลูก ๆ ความอบอุ่นมันแผ่มาถึงผมจนรู้สึกได้ ผมใช้เวลาคิดไม่นานอาจเพราะรอวันหยุดอาเสืออยู่ก่อนแล้ว
            “อยากไปเที่ยวข้างนอก”ผมรีบบอกหน้าตาชื่นบาน อาเสือหัวเราะ
            “เอาสิ อยากจะไปไหนทำอะไรวันนี้อาจะตามใจทุกอย่าง”
            “เย้ ๆ ๆ”ผมร้องดีใจ แฝดคิดว่าเล่นด้วยหัวเราะก๊ากกันออกมา คนตัวเล็กดีดดิ้นเมื่อถูกหยอกล้อ อาเสือรับเกลไปอุ้มต่อ และอาโชติก็ยกของขวัญเข้ามาวางไว้ในห้อง
            “นี่ของลูกเหรอ”ผมร้องด้วยความตื่นเต้นสุด ๆ เป็นกล่องขนาดใหญ่สองใบ โดยมีอาโชติ สุดา พี่อู ช่วยกันยกเข้ามา อาเสือหันมายิ้มและยักคิ้วให้เท่ห์ชะมัด
            “กาวแกะได้เลยไหม”
            “เอาสิ”สิ้นคำผมอุ้มกายขึ้นเพื่อไปนั่งตักปะป๊าอีกคน แล้วเดินมาแกะของขวัญ
            “เกล ดู ๆ ๆๆ”เรียกร้องความสนใจจากลูก ผมแกะกระดาษห่อมันออก พอเด็กสองคนได้ยินเสียงก๊อบแก๊บของกระดาษ ก็เกิดความสนใจจ้องตาไม่กระพริบ
            “โอ๊ะ!?”พอจะรู้แล้วเป็นอะไร ผมรีบแกะมันออกแล้วอาโชติก็ช่วยดึงออกมา
            “ระวังมันมีแม็กคมนะครับ”อาโชติร้องบอกแต่ไม่ทัน โดนข่วนเข้าที่แขนเกือบถึงศอกไม่ยาวแต่ก็มีเลือดไหลซึมออกมา
            “เจ็บ”ผมทำหน้านิ่ว
            “ไม่ระวังเลย!!!!!”อาเสือดุ
            “กาวไม่ทันเห็นนี่นา”
            “มันก็ควรต้องระวังไว้ก่อน อาเคยบอกหลายครั้งแล้วของแบบนี้เวลาแกะแพ็คต้องดูดี ๆ”บ่นอีกแล้ว สุดาวิ่งออกไปเอากล่องยาสามัญมาทำแผลให้
            “ก็กาวไม่เห็นนี่!”แก้ตัวอีก อาเสือถอนหายใจแล้วก้มมองเด็กแฝด
            “ให้สุดาทำแผลให้ไวเลยครับ”ผมไม่เถียงอะไรต่อ วางของให้อาโชติดึงมันออกมาวางและเดินออกมานอกห้องเพื่อให้สุดาก็ช่วยทำแผล
            “เจ็บไหมคะ น่าจะระวังตัวหน่อย”
            “กาวมองไม่เห็นตรงนั้น ซี้ดดดดด โอ๊ยยยย”
            “เจ็บเหรอคะ”
            “มันแสบ ๆ”ระหว่างนั้นอาเสือเดินออกมาดู
            “เข้าลึกไหม”ถามเสียงนิ่งจนน่ากลัว สุดาตัวลีบไปเรียบร้อยแล้ว
            “ไม่ลึกค่ะ”
            “ซี้ดดดด”ผมร้องเสียงเบา พับข้อแขนเพื่อมองแผลตัวเอง อาเสือเดินเข้ามาจับและมองอย่างพิจารณา
            “สุดาเอากล่องไปเก็บก่อนนะคะ”รีบชิ่งเลย!
            “เจ็บไหม”อาเสือถามหน้ายังนิ่ง
            “นิดหน่อย”
            “อาห่วงกาวมากรู้ไหม ไม่ชอบใจเลยที่เห็นกาวเป็นแผลอีก”
            “กาวเจ็บตัวมาเยอะแค่นี้ไม่เป็นหรอกน่า”จะปลอบกลายเป็นสร้างความไม่พอใจให้อาเสือเข้าไปอีก
            “เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน แต่ตอนนี้กาวเป็นแม่คนแล้ว...ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น”
            “................................”กัดปากตัวเอง เมื่ออธิบายไปแล้วอาเสือยังบ่นก็เริ่มทำให้ผมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง
            “อธิบายไปแล้วทำไมไม่ฟัง?”ทำเสียงนิ่งใส่ ทำเอาอาเสือนิ่งและจ้องหน้าบ้าง
            “อาเป็นห่วงกาวนะ”
            “กาวก็รู้ กาวก็บอกไปแล้วไงว่ามันเป็นอุบัติเหตุทำไมอาเสือถึงต่อว่ากาวซ้ำซาก”สิ่งเล็ก ๆ ที่ก่อให้เกิดความหงุดหงิดใส่กัน พูดออกไปแล้วผมก็เสียใจด้วยตั้งใจมาตลอดตั้งแต่ท้องแฝดกว่าจะใจเย็นขึ้น อาเสือมากวนอารมณ์แท้ ๆ ทำให้แสดงนิสัยเดิมออกมา ผมกัดปากน้ำตาคลอ
            “ชู่ววววว”
            “ฮึก กาวก็บอกว่ากาวไม่ได้ตั้งใจ ฟังไม่เข้าใจเหรอทำไมต้องมาบีบคั้นให้กาวรู้สึกแย่ด้วย ไอ้อาเสือบ้า!!!”แขนหนารัดกึงรวบกอดผมไว้ ผมดิ้นแต่ไม่หลุดกลายเป็นซบบ่าอาร้องไห้
            “สัญญากับอานะว่าจะระวังตัวมากกว่านี้”
            “อืม”
            “ครับสิพูดไม่เพราะเลยนะ...”
            “ครับ!”ผมหันไปกัดแก้มอาเสือ จนคนตัวโตสะดุ้ง
            “เป็นคุณแม่แล้ว...ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ไม่งั้นอาจะวางใจให้กาวดูลูกได้ยังไง”
            “กาวดูแลเค้าดีที่สุดอยู่แล้ว”อาเสือยิ้มอบอุ่นคอยเช็ดน้ำตาที่เปื้อนออกให้ เราสองคนเดินกลับเข้ามาให้ห้องเด็กแฝดก็นั่งอยู่เก้าอี้โยกเรียบร้อย
            “ขำกันใหญ่”เข้าไปกอดเด็ก ๆ เอาไว้ ท่าทางจะชอบเพราะมีของเล่นติดมาด้วยเสียงกรุ๊งกริ๊ง วันนี้ดีหน่อยไม่งอแงผมเลยมีเวลาจัดเตรียมของใช้ลงตะกร้า อยากพาแฝดไปน้องจีนที่ระยอง เพราะไม่ได้เตรียมตัวตั้งแต่เมื่อวานวันนี้เลยฉุกละหุกอยู่เล็กน้อย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
            อาเสือเป็นคนขับรถและผมก็นั่งข้างหลังกับแฝด
            “โทรศัพท์อยู่ไหน กาวจะโทรถามว่าทามอยากได้อะไรรึเปล่า”
            “นี่ครับ”อาเสือยื่นมาให้ ผมได้ทีเลื่อนหาดูสิ่งผิดปกติทันที อาเสือมองกระจกหลังมาก็ไม่สนใจยังคงกดดูที่ตัวเองอยากดู มีรูปแฝดกับผมเยอะแยะเลยไปถ่ายตอนไหนเนี่ยผมยิ้มออกมา
            “คนนี้หล่อจัง”ผมพูดขึ้นเมื่อเลื่อนไปเจอชายหนุ่มสุดเท่ห์อย่างกับนายแบบ เครื่องแต่งตัวที่เขาใส่บอกให้รู้ว่ามีรสนิยมดีไม่เบา อาเสือผมกระจกหลังอีกครั้งหลังจากที่ผมหันโทรศัพท์ให้ดู
            “อาราม คนที่ซื้อของฝากกาวบ่อย ๆ”
            “อ๋อ คนนี้เหรอ...”อาเสือเคยพูดถึงอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เคยเจอกันสักครั้งอาบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทที่ทำงานมาด้วยกันตั้งแต่เริ่มธุรกิจใหม่ ๆ น่าแปลกที่เขาไม่เคยมาบ้านมาเยี่ยมแม้กระทั่งตอนมีน้อง
            “จะโทรก็โทรสิครับ”
            “กาวสงสัย...ทำไมอารามไม่เคยมาหาอาเสือที่บ้านละ”
            “แล้วทำไมมันต้องมา”อาเสือหัวเราะคล้ายไม่ใส่ใจ
            “ก็ไม่รู้สิ เป็นเพื่อนกันก็ควรต้องมาเยี่ยมกันบ้างไม่ใช่หรือไง”
            “กาวคิดว่ายังงั้นเหรอ”
            “อืม”รอคำตอบอย่างใจจดจ่อ
            “เพราะอาหวงกาวละมั้ง”อาเสือพูดเป็นเล่น!
            “ชิส์!”ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ แม้ไม่ได้คำตอบจริง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ขุ่นข้องหมองใจแต่อย่างใด กดโทรศัพท์โทรหาทามเพื่อถามว่าอยากให้ซื้ออะไรเข้าไปให้บ้าง ทามเป็นเด็กขี้เกรงใจสุด ๆ บอกแต่เพียงว่าตามใจผมและแนะนำตลาดที่มีของถูกขาย ทำเอาผมหัวเราะก่อนวางสาย
            “ทามบอกให้ไปที่ตลาดด้วยละ”
            “งั้นเราตรงไปซื้อของก่อนแล้วกันนะ”อาเสือบอกและผมก็เห็นด้วย วันนี้เด็กแฝดจะได้เดินตลาดกันแล้ว มองเด็กสองคนที่หลับตาพริ้ม โดนจับแต่งตัวเป็นชุดเอี๊ยมกระต่ายสีชมพูกับสีส้มแถมผ้าห่มก็ยังเป็นสีฟ้าซะอีก วัยแบบนี้จะทำอะไรก็น่ารัก
            ผมนั่งดูโทรศัพท์อาเสือไม่ได้ตั้งใจจับผิดแต่ก็ไปสะดุดเอาผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างดีตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ่ายคู่กันกับอาเสือเหมือนจะออกงานอะไรสักอย่าง ซึ่งผมไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน
            “ผู้หญิงคนนี้ใครกัน?”ชะโงกหน้าไปถาม
            “อ่อ”
            “ใครเหรอ”
            “อาไม่บอกหรอกเพราะว่าหม่าม๊าของแฝดพูดไม่เพราะ”เล่นตัว!!
            “ใครกันเหรอฮะ”
            “หึหึหึ เป็นภรรยาของผู้ชายที่ใส่สูทอีกรูปนึงน่ะ”ผมรีบเลื่อนไปดู เห็นมีรูปถ่ายอีก
            “แล้วไป”เอนหลังตามเดิม
            “หึหึหึ ถ้าอาไม่มีคำตอบกาวคงจะไม่ยอมง่าย ๆ แบบนี้ใช่ไหม”
            “แน่นอนสิ กาวเป็นแบบนี้เพราะกาวใส่ใจ อาเสือจะไม่ชอบก็ได้...แต่ถ้ากาวไม่สนใจอาเสือเมื่อไหร่ อานั่นละจะหนาว”ผมพูดยาวแกมขู่ไปด้วยนิดนึง คึคึคึ
            “ฮ่าฮ่าฮ่า อาควรจะชอบใจใช่ไหม”
            “อืม”ผมหัวเราะออกมาอีกครั้ง เหมือนว่าเสียงของเราสองคนจะทำให้สกายร้องแง ๆ ออกมา แต่อีกฝั่งยังหลับเงียบ ผมค่อยปลอบให้หยุดร้องแต่ก็ยังไม่หยุดเลยต้องจับยกออกมาอุ้มบนตัก
            “แงงงงงง แงงงงงงง แงงงงงงง”
            “น้องกายร้องไห้ทำไมครับ ชู่ววววว”สงสัยจะหิวนม ผมแกะกระดุมเสื้อตัวเองออกแล้วให้สกายดูดน้ำนม ทันทีที่ปากเล็กแตะโดนก็ดูดกินใหญ่ ไม่นานเกลก็ตื่นและบอกให้รู้ว่ากำลังหิวอีกคน 
            “แปบนึงนะครับเกล กินพร้อมกันไม่ได้นะรอก่อน ๆ”ผมร้องบอก กายยังไม่หยุดแต่ก็ต้องเอาไปวางบนเบาะนอน เปลี่ยนสลับกันให้เกลมากินนมบ้าง ผมเอาผ้าชุบน้ำอุ่นและซับทำความสะอาดก่อนจะให้เกลดูด
            “ชู่ววววววว”การเลี้ยงลูกน้อยพร้อมกันสองคนบนรถ สร้างความวุ่นวายให้ผมมากทีเดียว ถึงตลาดอาเสือลงไปซื้อของคนเดียวแล้วรีบไปบ้านอาฐาทันที แฝดเริ่มงอแงมากขึ้นกว่าเดิม
           
            บ้านหลังนี้ของอาฐาไม่ได้อยู่บนเกาะเพราะฉะนั้นเราจึงไม่ต้องข้ามฝั่งไป ถึงอยากไปก็คงไปไม่ได้เพราะแฝดเล็กเกินกว่าจะให้นั่งเรือ น้องจีนวิ่งมาหาทันทีที่เห็นรถคงจะรออยู่ก่อนแล้วแน่ ๆ ทามกับอาฐาเดินตามออกมาติด ๆ
            “สวัสดีคร๊าบบบบบ”น้องจีนยิ้มร่า เพิ่งเห็นว่าตัดผมหน้าม้าเพิ่งความหวานของใบหน้าตุ๊กตามากเข้าไปอีก อาเสือลงจากรถแล้วอุ้มน้องจีน
            “สวัสดีครับ”
            “เหนื่อยไหมฮะ”ทามร้องถาม
            “งอแงมาระหว่างทางเกือบต้องแวะพักแน่ะ”ผมยิ้มให้ ทามชะโงกหน้าเข้าไปดูแฝด
            “โอ๊ยยยย ตัวโตกว่าเดิมเยอะเลยนะฮะ”
            “กินเก่งอย่างกับอะไรดี”ผมเอ่ยยิ้ม ๆ
            “เข้าบ้านเถอะฮะ น้องจะได้นอนกลิ้งสบาย”
            “น้องจีนอยากอุ้มน้อง”
            “หืม ไม่ได้นะครับน้องตัวเล็กอยู่”ช่วยกันขนของเข้าบ้าน น้องจีนเกาะติดหนึบไม่ยอมห่างน้องทั้งสองคนเลย เป็นภาพที่น่ารักมาก ๆ สงสัยจะอยากมีน้องละมั้ง
            “น้องจีนอย่าไปใกล้น้องมากสิครับ น้องยังนอนอยู่เลยนะ”ทามเตือนด้วยนุ่ม น้องจีนยิ้มหวานและขยับถอยห่างออกมาเพียงเล็กน้อย เด็กแฝดนอนไม่นานก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เจอหน้าพี่จีนก็ยิ้มทั้งคู่ผมเลยสบายเพราะมีคนช่วยดูเด็กสองคนอย่างขยันขันแข็ง
            “ท่าทางจะเหงามาก”อาเสือพูดขึ้น มองดูน้องจีนกำลังเล่นกับน้องสองคน มันน่ารักตอนที่น้องแทนตัวเองว่าพี่ แล้วแฝดก็มองดูพี่จีนอย่างสนใจไม่ละสายตากันเลย
            “อ้อนขอมีน้องทุกวัน”อาฐาบอก
            “ก็มีสิฮะ”
            “หึหึหึ ง่ายแบบอาเสือของกาวก็ดีสิ อาจะได้ไม่ต้องคิดมาก”
            ผมเดินมาช่วยทามล้างผลไม้ใส่ตะกร้า ยิ่งเห็นยิ่งชอบที่เห็นทามทำโน่นทำนี่เพราะมันเพลินดี แอบสังเกตไว้ไปบริการเด็กแฝดด้วย ผมเลื่อนตะกร้าให้ทามใส่
            “ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ไหมฐา จะได้อยู่ใกล้ ๆ กัน”
            “คิดอยู่นะ บางทีอาจจะให้เข้าเรียนที่โน่น”
            “อืม ไปอยู่นั่นถ้านึกเบื่อยังไปมาหากันได้ง่าย น้องจีนจะได้มีเพื่อนด้วย”
            “ไอ้พุทมันจะบินกลับมาสิ้นเดือนแล้ว คงจะมีอะไรให้คุยกันเยอะแยะ”
            “จริงเหรอว่ะ”
            “อืม มันติดต่อติณฑ์มา...เดี๋ยวให้น้องจีนไปอ้อนขอบ้านมันดีกว่า ไม่รู้มันจะเปลี่ยนใจไปแล้วหรือยัง”
            “เอาดิว่ะ นัดเจอกันไหมนาน ๆ เจอกันที”
            “คงได้เจอแหละ เห็นว่าจะบินกลับมาเตรียมงานแล้วก็เรื่องบ้านใหม่มัน”
            “จะกลับมาแต่งงานที่นี่ว่างั้นเถอะ”อาเสือถาม
            “ใช่ ถ้ามันคิดจะขายให้ก็คงดีติดบ้านเลม่อนด้วย ยังไงก็ข้ามรั้วไปเล่นกับเลม่อนได้อยู่แล้ว”
            “บอกน้องจีนไปหรือยัง”อาเสือหันไปมอง น้องจีนกำลังเล่นของเล่นให้แฝดดู
            “ยังเลย กลัวถ้ามันเกิดไม่ขายมาแล้วน้องจีนจะเสียใจ”คำตอบนั้นทำให้ผมหันไปมองหน้าน้องจีน เด็กน้อยเหมือนไม่ค่อยมีเพื่อนจริง ๆ อย่างว่า ถึงได้ดี๊ด๊าเวลาเห็นแฝดขนาดนี้ ทามกับอาฐาคงเป็นกังวลถึงขนาดหาทางออกเตรียมไว้ ผมเริ่มซึมซับความทุ่มเทอะไรบางอย่างที่สองคนนี้มีเข้าทีละน้อย
            คนเป็นพ่อเป็นแม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก แม้จะเป็นเรื่องไม่สำคัญสำหรับคนอื่นเลยก็ตาม
           
            “น้องจีนทานผลไม้ครับ”ผมถือไปให้นั่งทานตรงหน้าแฝด อุ้มสเกลขึ้นมานั่งตักเล่น
            “น้องน่ารักไหมครับ”
            “น่ารักครับ น้องจีนให้น้องกินแอปเปิ้ลได้รึเปล่า”ถามเสียงอ่อน ผมส่ายหน้า
            “น้องยังเล็กอยู่ยังกินไม่ได้นะ”
            “แอ๊ ๆ ๆ ๆ ๆ”สกายส่งเสียงร้องเหมือนต้องการอะไรสักอย่าง ผมหัวเราะ
            “อุ้มไม่ได้เลยน้องกาย หม่าม๊าอุ้มได้ทีละคน”ผมคุยกับสกาย น้องจีนวางผลไม้ในมือแล้วเกาะเข่า
            “น้องจีนอุ้มได้”
            “หืม”
            “ขอน้องจีนอุ้มได้ไหมครับ”น้องจีนอ้อน โอ๊ยน่ารักมากเถอะ...ผมเองก็ยิ้มตามไปด้วย ดีที่คนอื่น ๆ เดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ นี่แล้ว อาฐาส่งเสียงเล่นกับสกายให้คุ้นก่อนจะจับอุ้มด้วยความเอ็นดู น้องจีนรีบเข้าประกบคุณป๊าขอหอมแก้มตุ้ยนุ้ยของน้อง
            “อยากอุ้มไหม”อาฐากระซิบ
            “อยากครับ”
            “นั่งลงดี ๆ แบบคุณป๊า”อาฐาเพียงแค่บอกน้องจีนก็รีบทำตาม ผมนั่งมองด้วยความลุ้นคงไม่ปล่อยลูกผมกระแทกพื้นกันหรอกมั้ง อาฐาเอาหมอนรองข้าง ๆ แล้วให้น้องจีนทำมือยื่นออกมา
            “น้องจีนเอาแขนรองหมอนไว้สิครับ”ผมเห็นแล้วว่าหมอนมันไม่พอดี ทามเดินถือหมอนรองเวลาให้นมลูกออกมา
            “เอาใบนี้ดีกว่า”ทามจัดการวางให้อย่างลงตัว คราวนี้อาฐาก็วางสกายลงบนหมอนโดยมีแขนเล็กของน้องจีนประคองเอาไว้
            “จับดี ๆ นะ”อาเสือเองก็ลุ้นพอกัน 
            “เธอหยิบโทรศัพท์ฉันที่วางในห้องทำงานให้หน่อย”อาฐาหันไปบอกทาม
            “คริคริคริ”น้องจีนชอบใจกอดและหอมแก้ม เจ้ากายก็ดิ้น ๆ สนุกสนาน
            “เกลไปนอนตักพี่จีนไหมลูก”ผมหัวเราะอีกคน อาฐาถ่ายรูปใหญ่เป็นภาพที่สร้างรอยยิ้มได้มากจริง ๆ ผมจับเกลคล้ายยืนเกาะไหล่พี่จีนร่วมเฟรม
            “น้องจีนขอน้องได้ไหมครับ”เด็กตัวเล็กหันมาทำหน้าอ้อนกับผม
            “น้องจีนจะเลี้ยงไหวเหร้อน้องกินจุนะ”ผมบอก
            “ไหวครับ น้องจีนจะแบ่งขนมให้น้องแล้วก็ให้น้องนอนบนเตียงด้วย”
            “โห น้องแฝดอยากอยู่กับพี่จีนกันไหมนะ”ผมทำเสียงตื่นเต้น
            “น้องจีนมีของเล่นเยอะ ๆ แล้วก็มีขนมเต็มเลย”เด็กน้อยพูดโอ้อวดอย่างน่าชัง ทามลงมานั่งข้าง ๆ ผมและยื่นมือมาขอเกลไปอุ้ม
            “ลูกจะแบ่งหนังสือให้น้องอ่านไหมละ น้องชอบอ่านหนังสือนะ”อาฐาถามจริงจัง
            “แบ่งสิครับ น้องจีนมีหนังสือเยอะแยะ”
            “หน้าซีเรียสเลยนะนี่”อาเสือหัวเราะ สเกลก็ดิ้นแรงอยากคลานแย่แล้วทามต้องเอาลงนอนเบาะ
            “จุ๊บ ๆ ๆ”ท่าทางจะอยากได้มาก น้องจีนบ่นเมื่อยหลังจากน้องนอนบนตักได้สักพัก พอผมเอากายลงนอนเบาะ แกก็วิ่งขึ้นไปชั้นสองและอยู่ที่นั่นอย่างนาน
            “กินนมกันดีกว่าแฝด”ผมบอกและเข้าไปให้นมทีละคน ส่วนทามเห็นว่าน้องจีนไปนานจึงเดินขึ้นไปดู
            “น้องจีนทำอะไรเหรอทาม”ผมร้องถาม
            “ขึ้นไปจัดห้องใหญ่เลยครับ บอกจะให้น้องนอนด้วย”
            “โอ๊ยยย คืนนี้ไม่นอนต้องมีเด็กเสียใจแน่เลย”อาเสือยิ้มร่า เดินขึ้นไปหาน้องจีน
            “บางทีทามก็สงสารลูกนะฮะ”ทามบอกเสียงเศร้า
            “ไปอยู่กรุงเทพฯ นะ เราจะได้อยู่ใกล้ ๆ กัน”ผมบอกพร้อมยิ้มให้ คืนนี้เหนื่อยจากการเดินทางเลยไม่ได้ไปเล่นน้ำทะเล อาฐากับทามพาไปกินอาหารที่ริมชายหาด ผมกินอย่างไม่อยู่ดีเพราะแฝดร้องไห้งอแง ทั้ง ๆ ที่มีมุ้งครอบรถเข็นแต่ยุงก็ยังมากัดแฝดจนได้ตุ่มคนละสองสามตุ่ม ตอนกลับมาทามก็เอายามาให้ทา
            “กัดตรงไหนไม่กัด โดนหน้าเลย”บ่นเล็กน้อย อาเสือเป็นคนทาให้ลูก
            “กาวก็ว่ากาวดูดีแล้วนะ”ผมเองก็ไม่ค่อยชอบใจ แต่ทามบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาน้องจีนก็เคยโดนเหมือนกัน เป็นรอยแดงแบบนี้แต่ไม่กี่วันก็หาย
            “แอ๊ ๆ”ผมอุ้มกายขึ้นนอนทาบอกอาเสือ
            “นอนเล่นกับปะป๊าก่อนแล้วกัน กาวอาบน้ำนะ”
            “ครับผม”จะเปิดประตูออกไปนอกห้อง เห็นน้องจีนเดินวนอยู่
            “อ้าว ยังไม่นอนเหรอครับ”ผมร้องถาม น้องจีนมองเข้ามาในห้อง
            “น้องนอนแล้วเหรอครับ”
            “ยังเลย เข้ามาเล่นกับน้องสิ”
             “เย้ น้องจีนมีของเล่นมาให้น้องด้วย”
            “แฝดใครมาหากันเน้อ?”น้องจีนกระโดดขึ้นไปเล่นกับน้อง จนเกือบสามทุ่มแฝดงอแงอยากกินนมนอนแล้วแต่น้องจีนก็งอแงพอกัน จะนอนใกล้ ๆ น้องไม่ยอมห่าง อาเสือต้องหอบที่นอนลงไปนอนเบาะเรียงกันข้างล่างพื้น
            “น้องจีนกวนรึเปล่าครับ”ทามมาถาม
            “ไม่ ๆ ให้นอนกับน้องแหละดีแล้ว”ผมยิ้ม
            “อย่าลืมเอาหมอนข้างกั้นน้องจีนไว้ด้วยนะครับ บางทีแกก็นอนดิ้น”
            “อืม ทามไปนอนเถอะ...คืนนี้ทางสะดวกแล้ว”ผมล้อ
            “บ้าพี่กาว! สะดวกอะไรกันละ หึหึหึ”ทำเป็นอายหน้าแดง ผมนอนข้างสกาย สเกล หมอนข้าง น้องจีน แล้วก็อาเสือนอนติดริมผนังจนน่าอึดอัด แต่บอกให้นอนเตียงก็ไม่ยอม
            “เดี๋ยวบ่นปวดหลังอย่ามาพูดให้กาวได้ยินนะ”ขู่ออกมางั้นแหละ แต่อาเสือก็ยอมขึ้นมานอนบนเตียง
            “ปะป๊าขอหอมลูก ๆ ก่อนนอนนะ”
            “น้องจีนหอมด้วย”
            “แน่ะ เนียน ๆ เลยนะน้องจีน”ผมหัวเราะ อาเสือทำน้องจีนก็เลยทำตามบ้างก่อนจะนอนหันข้างยื่นมือมาโอบน้องเกล
            “ทำไมน้องใส่หมวกด้วยครับ”น้องจีนถาม
            “เดี๋ยวน้องเป็นหวัด น้องจีนก็ห่มผ้าดี ๆ อย่าถีบออกนะ”
            “คร๊าบ”ผมหันหน้ามาหาอาเสือ
            “เลี้ยงแฝดเป็นเด็กดีแบบน้องจีนได้คงดีเนอะ”กระซิบกับอาเสือ
             “อาว่ากาวก็ทำได้”อาเสือพูดให้กำลังใจ ทำให้ผมมีความมั่นใจขึ้นมาก
            “อาเสืออย่าทิ้งกาวนะ...กาวดื้อก็ห้ามทิ้ง”
            “หึหึหึ อาจะทิ้งคนรักของอาได้ยังไงละ”ผมพยักหน้ามองเด็กสามคนที่หลับไปแล้ว อาเสือนอนเล่นอีกสักพักจึงลุกไปอาบน้ำและลงมาจุ๊บแก้มผมก่อนหลับฝันดี
            เป็นเด็กดีแบบพี่จีนนะแฝด สัญญาว่าจะเลี้ยงให้ดีที่สุดและจะทุ่มเทให้แฝดสุดตัวเลย

 

ครบ 50 ตอนแล้ววววววววววววววววววววว
จุดพลุปุงปัง ๆ ๆ ๆ ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตอนนี้ค่ะ
ขอบคุณที่ช่วยติชมคอมเม้นต่าง ๆ นานา ชินจะพยายามมากขึ้นไปอีกนะคะ
เรื่องตอนที่แล้วที่ถามกันเข้ามาว่าไม่ลงที่นี่แล้วจะลงที่ไหน
ชินอยากจะบอกว่าชินมีหน้าเพจนะคะ แปะลิงค์ไว้แล้วที่หน้าแรก
ที่ไม่ตอบและไม่อธิบายใด ๆ ด้วยกลัวว่ามันจะซุ่มเสี่ยงก็การที่นิยายชินหายแว้บ
ชินจะไม่ลงมันซ้ำอีก เพราะฉะนั้นชินก็จะปกป้องมันให้ได้ถึงที่สุดค่ะ ^^
ขอโทษที่ทำให้ต้องลำบากกันนิดนึงนะคะ

           
           

           
            

ตอนที่ 49 อาเสือไม่อยากตายดี! 100% NC



ตอนที่ 49 อาเสือไม่อยากตายดี!
            หลังจากที่กลับมาอยู่กรุงเทพแล้ว ผมได้รับการติดต่อจากพี่พตว่าอยากจะปรับความเข้าใจกันหลาย ๆ เรื่อง แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อาเสือให้อาโชติตามประกบแทบจะเป็นสามีผมอีกคน สุดาก็จับตามองไม่ห่างกายและไม่ยอมให้ผมขับรถออกไปไหนตามลำพัง ประตูบ้านถูกปิดตอนอาเสือไม่อยู่และรีโมตอาโชติก็เป็นคนเก็บไว้ แถมล็อคตู้ห้องยามด้วย จะออกไปไหนทีต้องขออนุญาตจากท่านประธานเสือเสียก่อน กว่าจะโทรติด,รับสาย,และคิดวิเคราะห์อยู่นาน ความอยากไปไหนต่อไหนก็หมดลงทันที ผมรู้ว่าพี่พตกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่อยากลำบากก็เลยตัดสินใจให้คนเอาเงินไปให้ก้อนหนึ่ง เป็นเงินส่วนตัวที่ผมไม่ได้ใช้อะไร มันไม่ได้มากมายถึงขนาดจัดการทุกอย่างที่พวกเขาทำได้ แต่มันก็คงจะพอต่อชีวิตให้อยู่ต่อไปถ้าเขาใช้มันดี ๆ ผมว่ามันก็อาจต่อยอดอะไรได้หลาย ๆ อย่าง เรื่องนี้อาเสือได้ห้ามแล้วแต่ผมก็ยังดื้อจะเอาให้
            วันนี้แฝดเพิ่งจะกลับมาจากโรงพยาบาลหลังจากตรวจสุขภาพประจำเดือน ทั้งคู่แข็งแรงและพัฒนาการเป็นไปตามเกณฑ์ทำให้ผมเบาใจเป็นอย่างมาก
            “กาวหิวข้าวมากเลย”ผมอ้อนสุดา จากที่วันนี้ไปด้วยกันสุดาคอยช่วยอุ้มเด็กและเข้าไปเป็นเพื่อน ส่วนอาโชติอยู่ข้างนอก
            “งั้นสุดาจะไปถามป้านิดว่าเตรียมข้าวเสร็จรึยังนะคะ”
            “อืม”สุดาวางเกลลงเบาะนอนที่เราเอาเตียงสูงออกไปแล้ว เบาะหนาแต่ก็ยังกลัวตกเลยต้องเอาหมอนกั้นเอาไว้ แฝดเป็นเด็กที่นอนแล้วต้องแผ่ขยายบารมีไปทั่วราชอาณาจักร
            “แอ๊ ๆ ๆๆๆๆ”สเกลแย่งของเล่นกาย เจ้ากายก็จิกหน้าเกล ตอนแรกผมหันหน้าไปดูยังไม่อะไรมากคิดว่าแย่งกันเดียวก็คงปล่อย เลยจัดของเข้าชั้นของแฝด คราวนี้กายหันหน้าเข้าหาสเกลแล้วดึงหน้าจนเกลร้องไห้ออกมาจ้า
            “แง ๆ ๆ ๆ”ผมวางมือแล้วรีบเดินเข้าไปดุ
            “น้องกาย! ทำแบบนี้ได้ยังไงนิสัยไม่ดีเลย”พูดอย่างมีอารมณ์โมโห สกายเบะปากตาแดงขึ้นทันที เหมือนรับรู้ว่าผมกำลังโมโห
            “ฮึก ๆ ๆ”
            “ไม่ต้องร้องเลย แย่งกันได้ยังไงปะป๊าซื้อมาให้คนละอันนี่นา”ผมคุ้ยถุงหิ้วหายางกัดของสกาย เอาล้างน้ำอุ่นแล้วกลับมายื่นให้
            “ไม่ร้อง ๆ”ลูกนอนนิ่งคงจะเกิดอาการช้ำใจ ต้องอุ้มขึ้นมาปลอบ
            “โอ๋ ๆ ก็น้องกายทำตัวไม่ดีนี่นา”
            “แงงงงง แงงงงง ฮึก ๆ ๆ”กอดและตบก้นเบา ๆ ก่อนจะยิ้มให้เกล
            “เกลยังไม่ร้องเลยดูสิ จุ๊บ ๆ”ก้มลงไปจุ๊บปากเกลแล้วเอาหน้าให้เด็กสองคนมองกัน
            “ถ้าคุณป๊ารู้ว่าแย่งของกันดีรับรองโดนตีแน่ ๆ”ผมขู่ เด็กแฝดชอบเล่นของชิ้นเดียวกัน ผมพยายามซื้ออันที่เหมือนกันมาให้แล้วนะ แต่ของที่แฝดชอบเล่นบางอย่างได้มาจากคนอื่นชิ้นเดียวก็ต้องแบ่งกันเล่น พอเล่นก็แย่งกันอีกเป็นอย่างนี้ร่ำไป อาเสือก็ทั้งดุทั้งทำหน้าโหด ๆ ให้แฝดกลัว
            “ของเกลมีอันนึง กายมีอันนึงนี่ไง”สกายสะอื้นไม่ยอมให้ผมปล่อยวาง เลยต้องอุ้มเล่นให้อารมณ์ดีและปล่อยให้เกลนอนเล่นคนเดียว อาโชติเดินเอาตะกร้าเข้ามาให้
            “ตั้งโต๊ะแล้วนะกาว”
            “โอเค อาโชติเอารถเข็นมาให้กาวหน่อย...เด็กยังไม่นอนตอนนี้แน่”คนร่างสูงทำตาม ส่วนผมเดินไปหยิบขวดน้ำมาให้เด็ก ๆ ดื่ม ใกล้จะสี่เดือนแล้วขออะไรคุณป๊าดีนะ อาเสือบอกว่าถ้าเด็ก ๆ สุขภาพดีไปจนสี่เดือนไม่เจ็บไม่ป่วยจะขออะไรก็ได้คนละอย่างรวมผมด้วย ฮี่ฮี่...ขออะไรดีนะ?
            อาโชติตัวใหญ่ร่างสูงเวลายืนคร่อมเด็ก ๆ ที่นอนอยู่ทำให้เด็กไม่ชอบ คอยร้องไห้ออกมาทุกครั้ง คราวนี้เลยคลานไปหาแฝดแล้วหยอกล้อด้วยของเล่น
            “ดีดดิ้นใหญ่เลยนะ ซนเหมือนแม่เลยนะเรา”อาโชติชอบพูดแบบนี้ทำเอาผมหน้างอ
            “เหมือนแล้วไม่ดีเหรอไง...ถอยไปเลยงอนอาโชติแล้ว!”ผมอุ้มเกลขึ้นวางบนรถเข็น อาโชติเลยอุ้มสกายขึ้นนั่งเล่นบ้าง น้องยังนั่งไม่ได้เลยต้องมีเบาะหนุนหลังไว้และรัดเข็มขัดกันหล่น
            “อาโชติมาทานด้วยกันสิ”ผมบอก นั่งทานคนเดียวมันเหงานะอาเสือไม่กลับมาสองวันแล้วยิ่งเหงาหนักเข้าไปใหญ่ เหมือนอาโชติจะรู้เลยพยักหน้ารับ
            “สุดาไปไหนละพี่อู”ผมถาม
            “ช่วยพี่หมายเอาผ้าไปตากค่ะ”
            “ไม่ใช่แอบไปจู๋จี๋กันนะ!?!?!?”ผมทำหน้าเคือง ๆ เผลอเป็นไม่ได้สองคนนี้!! พี่อูกับคนอื่น ๆ หัวเราะ อาโชติเลยพูดขึ้นมาว่า
            “กาวก็ปล่อย ๆ สุดาไปมั่ง แก่ขนาดนี้เดี๋ยวไม่มีคนเอา”
            “กาวไม่ปล่อย สุดาต้องอยู่กับกาวไปตลอด”พูดอย่างเอาแต่ใจ
            “หึหึหึ กาวก็มีครอบครัวแล้วสุดาเองก็อยากมีมั่ง”อาโชติแก้ตัวให้สุดา ทำให้ผมรู้สึกขัดใจ
            “แล้วอาโชติไม่คิดอยากมีมั่งหรือไง”ถามกระแทกออกไปเล็กน้อย อาโชติอมยิ้ม
            “จะเอาชนะอะไรอา?
            “อาโชติซุกใครไว้ใช่ไหม”ผมถามตรงประเด็น อาโชติหัวเราะร่วนเป็นเสียงหัวเราะดังกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยิน
            “คิดจะหาเรื่องเหรอครับ ไม่ได้ผลหรอก”แกล้งอาโชติไม่สนุกเลย ผมเบ้ปากแล้วรับประทานอาหารตัวเองต่อไป พี่อูนำอาหารของแฝดมาวางเตรียมไว้ให้ ได้เวลาก็ร้องงอแงเมื่อผมทำอะไรไม่ทันใจ
            “อิ่มแล้วเหรอครับ”อาโชติร้องถาม
            “อิ่มแล้ว ๆ พี่อูช่วยเอาอาหารแฝดไปหน้าบ้านที กาวจะไปเดินเล่นแล้วป้อนลูกตรงนั้น”
            “ค่ะ”ผมเดินเข้าห้องครัวแล้วล้างมือล้างปาก กินยังไม่อิ่มหรอกแต่เดี๋ยวค่อยมาต่อก็ได้ ตอนนี้ได้เวลาของแฝดแล้ว รีบเข็นทั้งสองออกไปรับลมหน้าบ้านแล้วป้อนกล้วยบดอย่างใจเย็น
            อาเสือโทรมาระหว่างนั้นพอดี ผมยิ้มกว้างก่อนเปิดเสียงให้แฝดได้ยินด้วย
            “ปะป๊าโทรมา ๆ”
            “ฮัลโหลกาว”
            “คุยกับปะป๊าไหม...สวัสดีครับกันเร็ว”ผมร้องดีใจ แฝดก็จะคว้าโทรศัพท์
            “ทำอะไรอยู่ครับ”
            “กำลังป้อนกล้วยบด”ผมตอบ     
            “แอ๊......”น้องเกลพูดแล้วมองหน้าผม สกายเลยส่งเสียงหาป๊าบ้าง
            “คิดถึงจังเลย”อาเสือทำเสียงอ่อนหวานจนผมเขินต่อหน้าแฝด
            “แอ๊”ลูกตอบครับ
            “คิดถึงก็ไม่กลับมาซะทีเนอะ”ผมมองหน้าแฝดเหมือนเป็นตัวแทนของอาเสือ
            “แอ๊ ๆ ๆ”
            “เสียงเกลหรือกายครับ คิดถึงปะป๊าไหม”อาเสือถาม
            “อืออออ”จะเอามือถือจากมือผมซะแล้ว เหมือนว่าหน้าจอจะหันเหความสนใจจากเด็กน้อยสองคน
            “คุยกับป๊าก่อน เดี๋ยวป๊าไม่กลับนะวันนี้”ผมขู่ลูก แต่เด็กยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรอยากให้ป้อนอาหารแล้ว ผมก็ป้อนอีกสองคำ
             “เงียบกันแล้ว”อาเสือพูดขึ้น
            “ลูกสนอาหารกันแล้วสิ น้องเกลลลลลลล”ผมดุสเกลเพราะกำลังแย่งของในมือกาย
            “เป็นอะไรกาว?”อาเสือรีบถาม
            “เปล่า ผ้าอ้อมตก...”แก้ตัวให้ไม่งั้นเกลโดนดุแน่
            “ให้จริงนะไม่ใช่แย่งของเล่นกันอีกละ”
            “ไม่ใช่สักหน่อย”ผมตอบเสียงเบา “อ้ามม ๆ อ้าปากเร็วครับ”จะหมดถ้วยแล้วกินกันเก่งมาก
            “อาเสือทำงานเหนื่อยไหม”ผมถาม
            “นิดหน่อย คือว่าอามีเรื่องอยากบอก....”อาเสืออ้ำอึ้งขึ้น ผมรีบปิดเสียงไม่ให้แฝดฟังแล้วเอาโทรศัพท์แนบหูโดยอัตโนมัติ
            “อย่าบอกว่ายังไม่กลับอีกนะ...กาวไม่อยากฟังแล้ว!”ทำเสียงเข้มขึ้นมาจนอาเสือเงียบไป
            “มันไม่เสร็จเลยกาว งานไม่ค่อยเข้าที่อาคงต้องอยู่ดูอีกวัน...”
            กริ๊บบ....ผมกดวางสายแล้วปิดเครื่อง ถ้าคุยต่อต้องอาละวาดและวีนแหลกแน่ ๆ ต่อหน้าเด็กแบบนี้ต้องกลั้นเอาไว้ สงสัยอาเสือคงจะโทรเข้าเครื่องอาโชติเพราะเดินคุยโทรศัพท์ออกมาดู ผมก็ไม่สนใจอาโชติก็เดินเข้าบ้านไป
            “งอนป๊าแล้ว...คอยดูจะไม่คุยด้วยเลย! อุตส่าห์เป็นเด็กดีแล้ว...แต่อาเสือไม่ผ่อนปรนเลยสักนิด คนใจร้าย”อดบ่นออกมาไม่ได้ ป้อนอาหารเกลกับกายเสร็จก็เอาลูกไปอาบน้ำนอนเล่นในห้องทันที ไม่มีคนเข้ามากวนอีก สักสองทุ่มครึ่งแฝดก็นอนหลับกันหมดแล้ว ผมเอาโทรศัพท์มานั่งกดเล่นไอ้บอลก็ส่งข้อความมาว่าวันอาทิตย์จะพาไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะซึ่งผมตอบมันไปว่าโอเค
            “หาพ่อใหม่ให้ดีซะมั้งแฝด ป๊าของแฝดนิสัยไม่ดีสัญญาไม่เป็นสัญญา บอกจะกลับวันนี้ไง!?!? ไอ้อาเสือบ้า!??!”คิดแล้วหงุดหงิดนอนก็ไม่หลับ เลยเดินออกไปยังห้องครัวแต่ผ่านแม่บ้านทั้งหลายที่พากันนั่งปักหลักดูละครทีวีอยู่ ปกติจะเข้าห้องใครห้องมันแหละ แต่อาโชติดูแลผมกับลูกคนเดียวไม่ไหวเผื่อเกิดอะไรขึ้นมาอีก ทุกคนเลยพร้อมใจกันมานอนห้องรับแขก อาเสือก็ไม่ได้ว่าอะไรที่จะให้แม่บ้านมานอนดูทีวีกันตรงนี้ อาว่าดีซะอีกที่ไม่ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว  
            “จะไปไหนคะ”
            “กาวอยากได้น้ำฝรั่ง”ผมบอก
            “พี่เอาให้ค่ะ”พี่อูเดินนำไปห้องครัว ผมนั่งดื่มน้ำฝรั่งแล้วเค้กบัตเตอร์อีกชิ้นและเดินกลับมานั่งบนโซฟา ดูกันแต่ละครอะไรก็ไม่รู้ไม่เห็นจะรู้เรื่อง ผมสะกิดสุดา
            “พรุ่งนี้เปลี่ยนสีผมให้หน่อยนะ”ทุกคนหันควับ! มองมาเป็นตาเดียว
            “ไม่ได้ทำสีนานแล้ว...เอาสีแดงดีไหม”ผมถาม
            “หาเรื่องอีกแล้วเหรอคะ? เห็นระเบิดไม่ลงนานเลยคิดถึงหรือไงคะ...”
            “เถอะน่า พรุ่งนี้ออกไปซื้อยาย้อมผมดีกว่า...”ผมพูดคนเดียว
            “คุณกาวววว อย่าหาเรื่องเลยค่ะ...อยู่สงบ ๆ แล้วมันไม่สนุกหรือไงคะ เดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันต่อหน้าลูกหรอก”สุดาเตือน
             “ไม่ทะเลาะหรอกน่า...กาวแค่เบื่อ ๆ พรุ่งนี้นะสุดากาวไม่เปลี่ยนใจ”บอกแล้วรีบกลับเข้าไปในห้องตัวเองทันที
            “หงุดหงิดป๊าแฝดจังว่ะ!!!!!!”เดินวนไปวนมาในห้องไม่รู้จะทำยังไงให้หายหงุดหงิด กว่าจะอาบน้ำแล้วมานอนกับแฝดได้ก็เกือบค่อนคืนเข้าไปแล้ว ฮึ่มมม!!!

            วันต่อมาอาเสือโทรเช็คกับอาโชติแต่เช้า ผมไม่สนใจหรอกจะบอกอะไรก็บอกไปเพราะหงุดหงิดมาก ๆ วันนี้เล่นกับแฝดจนได้เวลาจึงให้อาโชติพาออกมาซื้อของ ถ้าไม่พามาผมไม่ยอมแน่อาโชติก็รู้สถานการณ์เลยขับรถออกมาให้
            “เอาสีไหนดีนะ”
            “คุณกาว”สุดาทำเสียงอ่อนแรง ไม่สน ๆ ยังไงก็จะเปลี่ยนสีผมให้ได้
            “เอาสีควันบุหรี่ดีไหม แต่มันต้องกัดก่อนนี่?”หันไปถามสุดา แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ
            “หรือชมพูพิ้งค์ดี? ลูกว่าไงครับ”ถามแฝดที่นอนบนรถเข็น วันนี้เอามาคันเดียวเลยต้องนั่งเบียดกันในรถ
            “อย่าทำเลยนะคะ”
            “ถ้าพูดอีกคำนึงกาวจะโกรธสุดาด้วยอีกคน อาเสือสัญญาว่าจะกลับตั้งแต่เมื่อวานทั้ง ๆ ที่บอกว่ามีประชุมแค่สองวันก็ไม่ยอมกลับ...จะให้ทำยังไง ตัวเองไปไหนต่อไหนได้ไม่เคยสนใจกาวกับลูก”
            “คุณท่านมีงานต้องทำนี่คะคุณกาวก็รู้”
            “งั้นก็ไปทำงาน ไม่ต้องสนใจกาวกับลูกงั้นสิ?”ผมเริ่มหาเรื่องกับสุดา อาเสือไม่มีวันหยุดแม้แต่วันอาทิตย์ถ้ามีงานด่วนก็ต้องออกไป
            “น้อยใจใช่ไหมคะ ถ้าน้อยใจก็โทรไปบอกเลยสิไม่ต้องมาประชดอะไรแบบนี้”
            “สุดากำลังจะทำให้กาวอารมณ์เสียมาก ๆ นะ”พูดเสียงเรียบ
            “เฮ้อ จะเอาสีไหนคะ?”เห็นอีกคนยืนเลือกสีผมให้ ผมเลยไม่อยากจะต่อว่าอะไรอีก
            “สีควันบุหรี่ก็สวย สว่างดีด้วย...กาวอยากได้แบบสีออกเทา ๆ เขียว ๆ”สุดายืนมองชั่วครู่ก่อนจะหันมาบอก
            “ไปทำที่ร้านไหมคะ จะได้ปรับสีได้ตรงใจ”
            “กาวไม่อยากให้คนอื่นมาจับผมกาว!”ผมมองหน้าสุดา
            “อุปกรณ์เค้าครบกว่านะคะ”
            “แง๊ ๆๆๆๆๆ”น้องเกลร้องไห้จ้าขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย ผมหันไปอุ้มเกลขึ้นมากอดปลอบ
            “เป็นอะไรครับ จุ๊ ๆๆๆ”
            “แง๊ๆๆๆๆๆ”
            “หิวนมแน่เลย แปบนึงนะครับ ม๊ากอดเกลอยู่นี่ไง...”
            “ง่วงนอนรึเปล่าคะ ได้เวลานอนแล้วนี่นา”สุดาบอกทำให้ผมยกนาฬิกาดู
            “โอ๋ ๆ เกลง่วงนอนแล้วใช่ไหม...เดี๋ยวจะพากลับแล้วครับ สุดาเอาสีนี้แหละ...”ผมรีบบอก เอาขวดนมให้กายดูดนอนในรถเข็น แต่เกลต้องอุ้มไว้และให้กินนมไปด้วย เดินไปหาอาโชติให้จ่ายสตางค์ก็รีบพากันกลับบ้านทันที
            คงจะง่วงนอนมากเพราะตาฉ่ำกันทั้งสองคน แต่ถูกผมแกล้งไม่ยอมให้นอน เพื่อที่จะได้ไปหลับที่บ้าน บนรถก็พาเล่นหัวเราะชอบใจจนเหนื่อย เอาเข้าไปวางเบาะนอนปุ๊บหลับกันสบาย จึงรีบออกมาให้สุดาทำผมให้ทันทีไม่ได้ทำสีแบบแรง ๆ เหมือนเมื่อก่อน เอาเฉดสีตามที่มีเลือกมาผสมกัน และรอคอยว่าจะเกิดเป็นสีอะไร
            อาโชติรีบโทรบอกอาเสือไปตามคาด อาเสือโทรมาหาด้วยความหัวเสียสุด ๆ
            “ทำบ้าอะไรกาว?
            “ยุ่งอะไรด้วย?”ทำเสียงไม่พอใจกลับ
            “ทำไปแล้วหรือยัง? อาเคยบอกว่าไม่ชอบทำไมกลับมาทำอีก”
            “กาวไม่ได้ทำนานแล้ว อาเสือไม่ต้องมายุ่ง”
            “งอนเรื่องที่อาไม่กลับบ้านใช่ไหม อากำลังจะกลับนะ...อย่าเพิ่งทำ!!”อาเสือรีบบอก
            “กำลังหมักผมได้แค่สามสิบนาทีเอง...”
            “รีบไปล้างออกซะ!”อาเสือตวาด
            “.........................................”
            “อากำลังกลับแล้ว ไปล้างหัวซะ”พูดจบอาเสือก็วางสายไป สุดาก็รอซ้ำเติมอยู่ใกล้ ๆ
            “........................................”
            “ล้างเถอะค่ะ”น้ำเสียงอ่อนโยนของสุดาทำให้ผมพยักหน้า ก่อนจะเข้าไปล้างผมแต่ว่าสีมันติดไปบ้างแล้ว ถึงจะไม่เข้มแต่ก็ออกสีอยู่มาก แถมยังมีกลิ่นยาย้อมติดหัวด้วย
            เห็นผมซึม ๆ อาโชติเลยให้กำลังใจ
            “ไม่ค่อยออกสีมากหรอกครับ”ผมเดินเข้าห้องไปปกติ แฝดตื่นมาก็เปิดไฟในห้องถึงจะตอนกลางวันแต่ผมก็ปิดม่านไม่ให้มีแสง เด็ก ๆ จะได้นอนกันเต็มที่ สกายยังไม่ค่อยตื่นดีแต่ก็มองมาหาผม ก่อนจะร้องไห้จ้า
            “แงงงงงง๊”
            “น้องกาย ๆ หมะม๊าไง....กาย ๆ กายคร๊าบบบบ”ร้องปลอบโยน สุดาได้ยินเสียงคงตกใจวิ่งเข้ามา
            “มีอะไรคะคุณกาว”
            “สกายสิ คงตกใจสีผมกาวมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนี่นา”
            “น้องได้กลิ่นทำสีผมรึเปล่า อย่าเข้าใกล้เลยค่ะ...เด็ก ๆ ไม่ชินหรอก”คำเตือนของสุดาทำให้ผมชะงัก คิดแต่มุมของตัวเองไม่ได้คิดถึงลูก และมองข้ามเรื่องละเอียดอ่อนนี้ไปอย่างน่าตีที่สุด ผมน้ำตาร่วงเผาะขณะที่กายยังร้องไห้และมีสุดาเดินเข้ามาอุ้ม
            “ม๊าขอโทษ”ผมร้องคราง
            “ออกไปก่อนเถอะค่ะ เพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ กลิ่นสีมันยังมีอยู่ เดี๋ยวสุดาดูแลเด็ก ๆ เอง”ผมเดินถอยห่างออกมาอย่างเสียใจที่สุด โง่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ บอกตัวเองย้ำหลายที ทั้งที่ระวังมาตลอดทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ!
            เสียงร้องของเด็กสองคนยังกรีดแทงใจ สายตาที่เกลกับกายมองมาหาผมอยากให้ผมอุ้ม และพอผมไม่ได้อุ้มเหมือนทุกครั้งที่พวกแกตื่นนอน ก็คอยมองตามจนผมเดินออกจากห้องมา
            “ฮือออออออออออออออออออออ”เสียงร้องไห้ผมดังระงมนอกห้อง ไม่มีใครช่วยอะไรได้...ในเมื่อความดื้อกำลังทำร้ายตัวเองและลูก
            “ใจเย็นนะครับ”อาโชติเดินมาตบบ่า และเข้าห้องไปช่วยสุดา
            “ไปเป่าพัดลมไหมคะ”พี่อูก็คอยมาช่วย ผมพยักหน้านั่งร้องไห้ไปด้วย นานเท่าไหร่กลิ่นผมถึงจะจางไปนะ? คืนนั้นต้องร้องไห้โฮอีกหนเพราะว่าไม่สามารถนอนกับเด็ก ๆ ได้ เกลกับกายก็เลี้ยงไม่ง่ายสำหรับคนอื่น ทั้งสองคนไม่เอาใครเลยทำให้งอแงมากกว่าปกติ กว่าสุดาจะทำให้หลับได้ก็เกือบห้าทุ่มเข้าไปแล้ว
            ผมไม่อยากให้ลูกเห็นหน้าเพราะกลัวจะงอแงมากกว่าเดิม เลยย้ายขึ้นมานอนบนห้องเดิมของตัวเอง ไม่ได้เข้ามานานแล้วแต่ของยังจัดเป็นระเบียบอยู่ ทิ้งตัวลงนอนหลังอาบน้ำอย่างเศร้าใจที่สุด
            “เวรกรรมจริง ๆ เลยกู”บ่นกับตัวเอง พรุ่งนี้สีผมคงหายแล้วและกลับไปกอดลูกได้เหมือนเดิม ผมคิดปลอบใจตัวเอง กำลังเคลิ้มหลับได้ยินเสียงเหมือนคนอยู่อีกห้องแต่ไม่ได้ลืมตามาดู เสียงนั้นเงียบไปสักพักก่อนประตูห้องผมจะเปิดออก แสงนอกห้องสอดเข้ามาทำให้ต้องหยีตาดู
            เป็นอาเสือ
            “มันน่าตีไหม????”อาเสือเปิดไฟสว่างโล่ทั่วห้อง ผมมองตายังไม่ค่อยเปิดเมื่อร่างสูงขยับเท้าเข้ามาใกล้ และก้มดมกลิ่นผม
            “ยังมีกลิ่นติดอยู่เลย”
            “...............................”เม้มปากแน่นสนิทไม่เถียงอะไรสักคำ
            เพี๊ยะ!!!!! อาเสือบ้าฟาดเข้าที่สะโพกแม้ไม่แรงแต่ก็ทำให้ผมร้องไห้ได้อีกที มือหนาตีแล้วคลึงไว้ที่สะโพกแสนเบา เอานิ้วเกลี่ยผมที่ปกหน้าผากออก
            “เด็กดื้อ!!!!
            “ฮึก ๆ”กัดผ้าห่มอย่างน้อยใจ อาเสืออาบน้ำเปลี่ยนชุดแสดงว่าคงกลับมาได้สักพักแล้ว เข้ามาที่นี่แสดงว่าต้องไปดูลูกแล้วด้วย
            “รู้สึกยังไงที่ไม่ได้นอนกับลูก? อาควรสมน้ำหน้ากาวไหม?
            “โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”ผมร้องไห้ออกมาเสียใจสุด ๆ อาเสือก้มลงจูบแก้ม
            “งานประชุมอาสองวันแรกมันดูเละเทะ อาเลยให้พนักงานแก้ตัวอีกวัน มันไม่ได้อยู่ในแผนแต่แรกแต่ถ้าอาไม่รีบปรับ งานอาจได้รับผลกระทบ ที่อยากบอกเนี่ยอยากให้กาวเข้าใจนะครับ”อาเสืออธิบาย ผมพยักหน้ารับทราบสิ่งที่อาเสือบอก
            “กาวมันแย่มากใช่ไหม?”ผมถามเสียงสะอื้น
            “หึหึหึ ไม่หรอกครับถ้ากาวทำงานแบบอาและหายไปหลาย ๆ วัน อาก็จะโทรตามกาวเหมือนกัน”
            “ตอนนี้กาวรู้สึกแย่มาก”
            “เพราะลูกหรือเพราะอา?
            “ลูก”รีบตอบจนอาเสือหัวเราะ
            “ชักน้อยใจแล้วสิ อุตส่าห์รีบกลับมาแท้ ๆ ไม่คิดจะมีรางวัลหน่อยเหรอ?
            “นี่รีบแล้วนะ? ถ้าไม่รีบทั้งอาทิตย์กาวคงไม่ได้เจออาเสือ”
            “อาพยายามจะรีบกลับอยู่แล้วถึงบอกให้กาวใจเย็น ๆ ไง ทีแรกจะขึ้นเครื่องมาตั้งแต่ตอนเช้า แต่นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ซื้อของให้กาวกับลูก เลยต้องอยู่ต่อซื้อของให้ก่อน”
            “อาซื้ออะไรมา”
            “ของกาวเป็นเซ็ทกระเป๋าไว้ใส่นมลูก”
            “ลายอะไร?”รีบถามเพราะกลัวไม่ถูกใจ อาเสือก้มลงจูบหน้าผากก่อนพูดต่อ
            “เป็นเส้นตารางสีแดงคาดน้ำเงิน”คำตอบชวนให้ผมอมยิ้ม แค่ไม่ใช่ลายเสือก็พอใจมากแล้ว
            “ถูกใช่ไหม”ผมพยักหน้า
            “ของเกลกับกายอาอยากให้กาวดูเองพรุ่งนี้”
            “ทำไมละ?
            “เพราะอาว่ากาวต้องถูกใจ”ผมยิ้มกว้าง จนอาเสือยิ้มตาม
            “จูบอาหน่อย”ผมเลื่อนตัวเอามือคล้องคออาเสือถูกใจโน้มตัวลงมาหาแล้วกอดผมไว้
            “คืนนี้ขอเวลาให้อาบ้าง”
            “เอาใหญ่เลยนะ”ผมพูดยิ้ม ๆ จูบอาเสือดูดดื่ม อีกคนยิ้มกริ่มขึ้นมาทันทีปากที่แตะค้างไว้ไม่ยอมหลุดออกแม้ขณะพูด
            “มีน้องให้แฝดกันดีกว่า”
            “หึหึหึ”ผมได้แต่หัวเราะ ตอนถูกอาเสือยั่วเย้าอย่างหนักมือสองข้างอ่อนแรงเมื่ออยู่ในกำมืออาเสือ
            “อาจะทำโทษกาว”
            “งื้อออ เรื่องอะไร?”ผมถาม
            “เรื่องสีผมนี่ไงรู้ไหมว่าน่าตีมาก!”ทำเสียงดุแต่ไม่ยอมเปิดปากผมเป็นอิสระ ร่างหนาเบียดอัดร่างกายถาโถมเข้ามา จูบปานจะขาดใจคงจะทำโทษอย่างที่ว่าไว้จริง ๆ ผมหายใจไม่ตรงกับจังหวะของอาเสือทำให้เกิดภาวะหอบชั่วครู่ จนอาเสือยอมปล่อยปากเป็นอิสระ
            “แฮ่ก ๆ ๆ”
            “หน้าแดงจัดเลย หึหึหึ”ผมไม่ตอบอะไร ได้แต่สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ เก็บสะสมออกซิเจนเมื่ออาเสือเริ่มทำมันอีกครั้งและอีกครั้ง อยู่ในกำมืออาแล้วนี่เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจะทำอะไรกับผมก็ได้ อาเสือไซ้ซอกคอและหลังใบหูก่อนจะขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัว
            มือหนารวบมือผมขึ้นไปกำไว้เหนือศีรษะ อีกมือหนึ่งก็ปลดกระดุมเสื้ออย่างง่าย ผมเบี่ยงหน้าหันไปอีกข้างไม่อยากมองหน้าอาเสือตรง ๆ อาหนุ่มหายใจฟึดฟัดพอใจที่เสื้อหลุดง่าย ก่อนจะลูบไล้ทั่วร่างแผ่วเบา
            “อึก”ผมสยิวจนเก็บเสียงไม่ไหว อาเสือหัวเราะในลำคอและดึงผมลุกขึ้นนั่ง
            “ไปห้องอาไหม?
            “ทะ ทำไมละ”ถามเสียงเบา อาเสือก่อกวนด้วยการแกล้งพรมจูบจากคอลงล่าง
            “เตียงอานุ่ม”
            “อึก ๆ มะ ไม่”ผมตอบเสียงสั่น ถอดแบบนี้จะให้ออกไปอีกหรือไง ถ้ามีใครเดินขึ้นมาเห็นเข้าละอย่างเช่นอาโชติก็ชอบทำงานดึก ๆ ไม่รู้ว่ารู้รึเปล่าว่าอาเสือกลับมาแล้ว ห้องอาโชติอยู่ข้างล่างแต่ว่าบางทีก็อาจจะอยากขึ้นมาดูว่าผมนอนอยู่บนห้องสบายดี
            “นะ”ส่ายหน้าเป็นคำตอบ อาเสือไม่ว่าอะไรต่อและดึงให้ผมยืนขึ้นเต็มตัว ความสูงผมไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยมีแต่รูปร่างที่ค่อนข้างจะใหญ่อวบอัดมากกว่าแต่ก่อน อาเสือบีบเน้น ๆ ตามเอวและสะโพกอย่างชอบใจ
            “จุ๊บ”
            “อ๊ะ....”ผมร้องสั้น เอียงหน้าหนีเพราะจั๊กจี้อาหนุ่มยืนกอดไม่ยอมปล่อยแถมโดนสำรวจไปทั่วร่าง
            “หวานไปหมดทั้งตัว”
            “อื้อ!!”ร้องขึ้นอย่างขัดใจไม่อยากให้อาเสือพูดสิ่งที่ทำให้อาย ผมกัดริมฝีปากล่างของอาเบา ๆ
            “หึหึ”อาเสือหัวเราะในลำคอก่อนจะจับผมแก้ผ้าทั้งตัว
            “ไม่เอา!!!”ร้องเสียงสั่น อาเสือล็อคเอวเอาไว้โชว์ตัวผมใส่หน้ากระจก
            “สุดที่รักของอา...อยู่ตรงหน้านั่นกาวเห็นไหม”
            “กาวอาย!”ผมร้องเอามือปิดแก่นกาย ยิ่งทำให้อาเสือชอบใจคว้าตัวผมมาจูบอีกครั้งและอีกครั้ง มือหนาปัดป่ายไปทั่วร่าง ก่อนจะเลื่อนตัวลงต่ำสัมผัสรักที่ตรงนั้น ผมยืนตัวบิดทันทีที่อาหนุ่มคว้ามันก็แทบยืนไม่ไหว ต้องจับไหล่หนาเป็นที่ยึดเหนี่ยว
            อาเสือกำลังล้อเล่นที่กลางร่าง ผมหลับตาปี๋รับสัมผัสจนแทบต้องกลั้นหายใจอยู่เป็นระยะ เล็บจิกที่ไหล่จนจนนิ้วเกร็งไปหมด หน้าท้องกระเพื่อมไหวตามแรงเสียวซ่านที่อาเสือมอบให้
            “แฮ่ก ๆ อะ อะ อา”ผมครางเสียงสั่น รู้ว่าไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เวลาอารมณ์มันมาเต็มมากแล้ว อาเสือผละออกแล้วเงยหน้ามองตาหวานฉ่ำ
            “หึหึหึ”เสียงหัวเราะไม่พูดอะไรต่อ คนร่างสูงลุกขึ้นยืนถอดเสื้อผ้าขณะที่ผมล้มตัวลงนอนแผ่หลากลางเตียง โดยลืมไปว่าสภาพตัวเองหมิ่นเหม่มากเพียงไร คิดอะไรไม่ทันอีกต่อไปแล้วในเมื่อแค่หายใจให้ถูกจังหวะยังเป็นเรื่องยากในตอนนี้
            อาเสือขว้างเสื้อผ้าตัวเองทิ้งลงพื้นเผยรูปร่างเป็นผู้ชายเต็มขั้น หน้าท้องเป็นลอนสวยงามผิวออกแทนและตอนนี้แดงเล็กน้อย นัยย์ตาสีน้ำตาลของคนตัวโตบ่งบอกว่าอาเสือคงมีเชื้อของชาติตะวันตกอยู่มากแน่ ๆ ผม คิ้ว ตาสีเดียวกับเด็กแฝด ไม่ต้องบอกว่าตอนนี้แฝดหน้าเหมือนใคร
            “มาทำลูกอีกสักคน”อาเสือยิ้มกริ่มก่อนจะโดดเข้าหา ผมรีบเอามือและเท้ายันไว้ไม่ให้คนตรงหน้าล้มใส่ตัวเอง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงรัว
            “กาวขอนะ ๆ ให้แฝดโตอีกสักนิดนะ ๆ”ทำเสียงอ้อนสุด ๆ จากที่เคยทำมาอาเสือจ้องหน้าและหรี่ตาขอคำตอบ 
            “อย่างแรกกาวอยากรับปริญญา ทำงาน และเลี้ยงแฝดให้ดีก่อน...อาเสือช่วงนี้ก็ทำงานหนัก ไหนจะเรื่องคดีที่ยังต้องไปศาลอยู่เรื่อย ๆ ถ้ามีเค้าอีกคน...กาวว่ามันจะลำบากมากเลย”สาธยายเหตุผลยาวทั้งทำหน้าอ้อนแบบที่น้องเจเลยทำใส่อาฐา
            อาเสือทำหน้าคิดตามก่อนพยักหน้า
            “งั้นถ้ากาวพร้อมอาขอสักสามคนนะครับ”ย้ำคำเดิมก่อนที่ผมจะปฏิเสธ บทรักอันร้อนแรงของเราเริ่มต้นอีกครั้ง อาเสือไม่ปล่อยให้มีช่วงว่างในการคิดอะไรอื่นนอกจากสิ่งที่เรากำลังทำ
            มือหนารูดขึ้นลงพอที่มันจะคับแน่นจนผมทนไม่ไหวจิกแขนหนาให้รู้สึกตัว
            “กะ กาว มะ ไม่ ไหว”ผมบอกออกไป อาเสือถึงผ่อนมือแล้วเปิดลิ้นชักหัวเตียงผม
            “ถุงยางไปไหน?”อาเสือถาม ผมส่ายหน้าไม่รู้ก็ไม่ได้ใช้ห้องนี้มาตั้งแต่ท้องแล้ว คงเป็นพี่อูหรือสุดาเข้ามาทำความสะอาด แต่ส่วนใหญ่ของอะไรวางจะวางไว้ที่เดิมไม่ถูกย้าย อาเสือควานมือหาอีกลิ้นชักอีกชั้นยิ่งทำให้ส่วนนั้นมันสีกับหน้าท้องผม
            “นี่ไง”อาเสือพูด หยิบเจลกับถุงยางมาแกะก่อนจะใส่มือหนาจับมือผมไปรูดของอาให้มันโตเต็มที่ ผมมองส่วนล่างใจเต้นตึก ๆ ก่อนสายตาจะปรับโฟกัสขึ้นมาจ้องตากับอาเสือพร้อมกัน
            อายมาก!!!
            “จุ๊บ”อาเสือให้รางวัลก่อนจะให้ผมปล่อยมือ
            “ใส่ให้อาไหม?
            “อาใส่เองเถอะ!”ผมบอกกระแทกเสียงหน่อย ๆ ให้ตายเถอะอายมาก
            “อาอยากให้กาวใส่ให้อาอีกกว่า”ผมถอนหายใจ หยิบถุงยางในมืออาเสือมาบรรจงใส่ให้ มือยิ่งสั่นหัวใจเต้นแรงแต่อาเสือก็ยังจูบพรมไปทั่วหน้าไม่หยุด ผมใส่มันให้เรียบร้อยแล้วอาเสือทาเจลมันก็พร้อมทำงานทันที อาเสือทำช่องทางของผมให้พร้อมเพื่อที่จะได้ไม่เจ็บตอนโดนใส่เข้าไป แค่นิ้วยังทำให้รู้สึกเสียวซ่านไปทั้งร่าง ผมอ้าขากว้างและเอาผ้ากัดปากพลางส่ายหน้าเมื่อมาถึงจุดที่พร้อมรับอาเสือเข้าไป
            “พร้อมแล้วใช่ไหมครับ”ค่อย ๆ ถูกยัดเข้าไปทีละนิด
            “อย่าแรงกับกาวนะ”ผมบอก แม้รอยผ่าคลอดที่หน้าท้องจะบางลงมากแต่ก็ยังกลัวอยู่ดี อาเสือเองก็ระวังค่อย ๆ สอดมันเข้ามาจนมิด ทำเอาผมต้องกัดปากตัวเองใบหน้าเหยเกสุด ๆ
            “อึก ๆ”ร้องทั้งที่ยังไม่ถูกทำให้สั่นไหว อาเสือรอให้ผมปรับความอึดอัดที่รับเข้าไปก่อนจะเริ่มขยับเมื่อผมพยักหน้า ร่างหนากระแทกกระทั้นจากเบาไปจนถึงความเร็วระดับปานกลาง
            “อื้มมม”เสียงอาเสือครางอย่างพอใจ ความรู้สึกในตอนนี้กระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว ส่วนที่ทำหน้าที่เชื่อมเราสองคนไว้มันทำงานเข้าขากันอย่างดีที่สุด อาเสือใช้พลังงานในการโยกย้ายสะโพกส่วนผมนอกจากหลับตาและปล่อยความคิดกระจายไปก็ไม่สามารถควบคุมอะไรตัวเองได้อีก
            “อะ อา”ผมครางเสียงสั่น
            “อืมมมม”อาเสือไม่ยอมตอบ
            “อะ อา อา”ผมร้องเรียกอีก คราวนี้อาเสือหยุดชะงักและก้มลงมาจูบแก้ม
            “ครับ?”สีหน้าคนตัวโตกำลังอึดอัดส่วนที่ค้างคากันอยู่ มันเต้นตุบ ๆ ๆ แต่อาเสือก็ยังอดทน ผมยื่นมือไปเช็ดเหงื่อให้ แม้ในห้องจะมีเครื่องปรับอากาศแต่ความร้อนในกายเราดูเหมือนจะมากกว่า
            “กะ กาว...”ผมอยากพูดและเมื่อคนตัวโตตั้งใจฟัง ก็ทำให้เกิดอาการประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย สายตาคมเข้มกำลังจ้องผมอยู่
            “ครับ?”อาเสือเริ่มขยับอีกครั้ง ผมจับสะโพกอาไว้ก่อน
            “กะ กาว...”กลืนน้ำลายลงคอยากเย็น
            “กาว...รักอา”บอกออกไปแล้วทำให้อาเสือยิ้มกว้าง เริ่มขยับสะโพกสุดแรงให้รู้ว่าพอใจ
            “อาก็รักกาวมากนะครับ”เสียงกระซิบดังข้างหู ผมกอดรัดเกี่ยวกวัดอาเสือไว้ทั้งแขนและขา แก่นกายโดนกระทุ้งเข้าออกไม่หยุด เสียงครางของเราสองคนดังสลับกันจนถึงช่วงเวลาที่อาเสือขยับเร็วและแรงมากว่าปกติ สองมือของเราสอดประสานเข้าหากัน อาเสือกอดผมเต็มร่างยกตัวขึ้นนั่งและขยับมันเร็ว ๆ
            “อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อา...กะ กาว มะ ไม่ ไหว”ผมร้องเสียงสั่น แบบนี้มันลึกเกินแต่อาเสือไม่ปล่อย
            “อึก ๆ ๆ ๆ ๆ ซี้ดดดดด กะ กาว กาว...”เสียงครางดังที่ข้างหูทำให้จิตเตลิดไปอีกครา อาเสือใส่แรงทั้งหมดกระแทกเข้ามาทำให้ผมสะดุ้ง
            “อ๊า....”เสียงอาเสือร้องปลดปล่อยเต็มที่ ก็ดึงมันออกจากตัวผมที่นอนหายใจหอบแฮ่ก
            “อาจัดการของกาวให้”ผมนอนแผ่ขากางอาเสือจับแก่นกายผมรูดแล้วก้มดูดทันที ความเสียวที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเริ่มขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่ส่วนหลังแต่เป็นส่วนหน้า! ทั้งโดนรีดจนอารมณ์ผมเริ่มมาอีกทีใช้มือจิกผมอาเสือเอาไว้
            “ปล่อยมาเลยครับ”       
            “อึก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”ผมร้องบิดเร้ากายใช้เท้าจิกที่นอน
            “อ๊ะ ๆ ๆ ๆ อ๊า...อ๊าส์!!”ก่อนจะพุ่งน้ำพิศวาสออกมาเต็มหน้าอาเสือ และหอบหายใจเฮือกใหญ่หมดแรงต้องทิ้งตัวลงบนที่นอน
            “อารักกาวนะครับ”อาเสือบอกทำให้ผมพยักหน้าเหนื่อย ๆ ปล่อยให้อาช่วยชำระร่างกายผมด้วย และพาผมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อใหม่ จึงอุ้มผมมาวางที่เตียงกว้างห้องอาเสือ
            “อาจะลงไปนอนกับแฝดนะครับ”
            “อื้อออออ”ร้องอย่างไม่พอใจ ผมไม่มีแรงจะพูดแต่แสดงสีหน้าไม่พอใจเต็มที่ อาเสือหัวเราะ
            “กลิ่นผมกาวมันยังติดจมูกอาอยู่เลย เดี๋ยวอาให้สุดากลับไปนอนห้องแล้วอาจะนอนกับแฝดเอง”
            “ไม่เอา!!!
            “หึหึหึ กาวไม่ได้นอนเพราะทำตัวเองนะครับ”อาเสือหัวเราะสะใจ ทำเอาผมหน้างอแต่ไม่มีแรงจะทุบตีอาเสือ แม้แต่จะยกแขนยังว่าหนักเลย!
            อาหนุ่มฟัดแก้มผมเล่นสองสามทีก่อนจะยิ้มดีใจ
            “อ๊า...ดีใจจังได้นอนกับแฝด”พูดให้ผมเจ็บใจแล้วอาเสือก็ออกจากห้องไป บ้าชะมัด!!!! ตอนนี้อยากโกนหัวตัวเองมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เถอะให้ตาย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!