วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตอนที่ 42






ภาพประกอบ : สิ่งที่กาวอยากทำเมื่อต้องอยู่บ้านเฉย ๆ 
ตอนที่ 42
             กลับจากทริปทะเลที่แสนทรหด ที่ผมบอกแบบนั้นเพราะแม้ว่ามันดีที่เราอยู่ด้วยกัน แต่มันแย่ตรงที่บางอย่างเห็นได้ชัดว่าอาเสือไม่ควรทำเอง อย่างเช่น ซักเสื้อให้ผม ตามหาของที่ผมต้องการ ถ้าเป็นสุดาก็คงจะรู้แล้วว่าเอาไปวางไว้ไหน
            “กาววางไม่เป็นที่แบบนี้อาจะต้องตามหาของให้อีกสักกี่ครั้ง!”พอหาไม่เจอก็จะพูดแบบนี้ทุกที
            อาเสือทำอาหารเป็นบ้างพอกินได้เพราะเคยไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายปี แต่คำว่ากินได้มันไม่ได้หมายความว่าจะกินได้ทุกมื้อ เราเลยต้องสั่งอาหารมาทานซะเป็นส่วนใหญ่ บางอย่างก็ไม่อร่อยเอาเสียเลย แต่ถึงอย่างนั้นน้ำหนักผมก็เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกโลหรือสองโลนี่แหละ
            วันสุดท้ายก่อนกลับมาจากที่นั่น อาเสืออยากให้เราเปลี่ยนชื่อเรียกแทนตัวเอง แบบว่าจะเป็นพ่อแม่คนแล้ว อาเสืออยากเรียกแทนตัวเองว่าปะป๊าแล้วให้ผมเรียกแทนตัวเองว่ามาม๊า ฟังดูน่าขนลุกทุกครั้งที่ได้ยิน มันออกจะขัดเขินมากไปหน่อยสำหรับเราที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ต่อกัน แต่อาเสือก็อยากให้เราทำ อาบอกว่าอาจทำให้ผมอ่อนโยนและใจเย็นขึ้นบ้าง ผมก็ว่ามันน่าจะได้ผลนะ เพราะได้ยินทีไรขนลุกชูชันไปไม่เป็นทุกที
            “เมื่อไหร่จะลุกคะ?”สุดากำลังย้ายก้นผมให้เดินเข้าห้องอาหาร วันนี้ไปหาหมอมาแล้วก็ทำกิจกรรมสำหรับคนท้องครบเป๊ะตามตารางโดยไม่อิดออดสักคำ
            “แปบนึงน่า เดี๋ยวก็จบแล้ว”
            “หยุดไว้ก่อน ค่อยเดินมาดูใหม่นะคะคุณกาว ทำไมดื้อแบบนี้คะเนี่ย”
            “งั้นไปยกข้าวมาให้หน่อยสิ”ผมบอกทำหน้าดี๊ด๊า ถ้ายกมาทานในนี้ก็ไม่ต้องเดิน ไม่ต้องหยุดหนังด้วย!
            “มดขึ้นใครโดนดุคะไปเถอะค่ะ...เดี๋ยวก็โดนคุณโชติเอ็ดเข้าให้อีกหรอก”พูดถึงชื่อนี้แล้วหมดอารมณ์ วันนี้โดนอาโชติว่าไปสองครั้งแล้ว ครั้งแรกเมื่อเช้าทำน้ำหกและไม่มีใครเดินผ่านมาให้เรียกหา ผมเลยทิ้งไว้แบบนั้นกะว่าสุดาหรือพี่อูเข้ามาจะบอกว่ามีน้ำหกให้ช่วยทำความสะอาด แต่ดันลืมเองจนถึงตอนตัวเองจะลุกไปเข้าห้องน้ำ เกิดลื่นเหยียบน้ำตรงนั้นอาโชติเดินเข้ามาไวมาก จับผมไว้ได้ทันและตัวเองก็พลิกตัวตามสัญชาตญาณนั่งลงกับโซฟา คิดว่าจะไม่โดนว่าเหรอ บ่นยาวไปตามระเบียบ
            ส่วนครั้งที่สองตอนเดินไปหาไอ้ตาล แม้ไม่ได้เข้าไปแต่อาโชติก็สติแตกไปมากพอดู ขู่ว่าจะเอาไปปล่อยให้สวนสัตว์ เห็นผมทำอะไรได้ช้าขนาดนี้แล้วนี่ คิดจะทำอะไรก็ได้ไง!!
            เสียงรถแล่นเข้ามา สุดารีบชะโงกหน้าออกไปดูแล้ววิ่งกลับเข้ามา
            “คุณท่านกลับมาแล้ว ลุกซะทีเถอะค่ะ”ผมตาโตมองนาฬิกา ประชุมเสร็จไวจัง!?!? ลุกออกจากห้องโดยไวมีสุดาประคองมาถึงห้องอาหาร
            “มะม๊าละสุดา”
            “กำลังจะทานอาหารค่ะ”ผมเงี่ยหูฟังคำพูดสยองขวัญ คนอื่นฟังปกติแต่ผมว่าไม่ค่อยปกติสำหรับผมสักเท่าไหร่ อาเสือเดินนำหน้าเข้ามา สุดาแล้วก็อาโชติ
            “จะสองทุ่มแล้วทำไมเพิ่งทานอาหารเย็นละครับมะม๊า!?”อาเสือถาม คำพูดสร้างความอายขนาดนั้น ทำให้คนทั้งห้องอมยิ้มพอใจ
            “กาวเพิ่งจะหิว”ตอบออกไปสั้น ๆ แล้วก้มหน้าลงทานอาหาร อาเสือล้างมือแล้วก็มานั่งทานเหมือนกัน
            “วันนี้เป็นเด็กดีไหม?”ผมนิ่ง แต่อาโชติแสยะยิ้มน้อย ๆ อาเสือหันมาเห็นพอดี
            “ทำหน้าแบบนั้นคืออะไรว่าไงโชติ”
            “ก็ดีครับ”
            “ก็ดีฟังดูลังเลนะ...ว่าไหม?”อาเสือจ้องหน้าผม ผมทำเฉยทานอาหารไปเรื่อย ๆ อาโชติกับสุดารีบหนีไปคนละทาง ปล่อยให้ผมเผชิญอยู่กับซาตานคนเดียว!!! ก่อนจะโดนบ่นผมรีบชิงเปลี่ยนเรื่องก่อนทันที
            “อาเสืออออออออ  ไหนบอกว่าจะซื้อเสื้อมาให้ไง?”ผมทวงถามเสื้อแบบที่สั่งอาเสือไป
            “อายังไม่ว่างเลย ให้คนไปดูแล้วแต่เขาไม่รู้จัก”ทำหน้ามุ่ย
            “อาหยุดแล้วค่อยพาไป คืนนี้เข้านอนเร็วหน่อยนะ...กาวต้องไปฝึกงานพรุ่งนี้แล้ว จะไหวไหม?
            “ไหวสิ แค่นี้สบายน่า”
            “ลองทำไปก่อน ไม่ไหวให้บอกอา...อย่าฝืนเด็ดขาด ทำอะไรก็ต้องห่วงลูกก่อน”
            “กาวรู้แล้ว”นั่งทานอาหารจนผมอิ่มก่อน นั่งรออาเสือทานเสร็จ คนตัวโตถามหาอาโชติแต่คงไปนอนแล้ว เลยไม่ได้สั่งงาน คนตัวโตพยุงเข้ามาในห้องนอน แต่ผมยังดูหนังไม่จบ
            “กาวอยากดูหนังให้จบก่อน”
            “หมดเวลาแล้วครับ พรุ่งนี้ค่อยดูต่อ”
            “โธ่!! อาเสือบ้า!!”พูดใส่หูอีกคน
            “มะม๊าดื้อนี่นา อาบน้ำแล้วเดี๋ยวอานวดให้”
            “ขอดูก่อน!”ผมยืนนิ่งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง อาเสือถอนหายใจ
            “งั้นไปอาบก่อนแล้วค่อยมาดู จะได้สบายตัวนอนหลับไปเลย...”
            “โอเค้”ผมเดินเข้าไปอาบน้ำ และตามเคยที่ต้องไม่ล็อคประตู เด็กแฝดท่าจะชอบน้ำอาบทีไรได้เป็นต้องดิ้นทุกทีน่า
            “อะ อาเสือ”ผมร้องเรียก อาเสือรีบวิ่งเข้ามา
            “เจ็บเหรอ!?
            “เค้าถีบ”ผมบอก อาเสือยืนประคองช่วยอาบจนตัวเองเปียกไปซะครึ่งตัว
            “ปะป๊ามาแล้วคร๊าบบบบบ”อาเสือลูบท้องวน ๆ
            “อาเสืออย่าลูบแบบนั้น”ผมร้องห้าม รู้อยู่ว่าทำไมอาเสือมองต่ำแล้วก็เอามือออก
            “อ่อ”
            “ไปเอาผ้ามา กาวจะแต่งตัวแล้ว”ผมสั่ง อาเสือรีบหยิบมาให้ ยืนมองผมใส่ชุดคลุมเพราะมันนอนได้สบาย คนตัวโตจูงมือประคองพาไปนอนที่เตียง แล้วเปิดหนังจากที่ค้างให้ดูต่อ
            “อาอาบน้ำก่อนแล้วกัน”ผมพยักหน้า รอไม่นานอาเสือก็ออกมาเตรียมอุปกรณ์วางบนเตียงแล้วเริ่มทาครีม นวด ๆ ให้อย่างสบาย เวลานวดก็ต้องพูดคุยกับเด็กแฝดไปด้วย เป็นทริกที่จะให้ได้เด็กไม่ทำให้ผมเจ็บตัวมาก
            นวดจนผมหลับไปหนังที่จะดูก็ยังไม่จบ ก่อนหลับเห็นอาเสือเอาสมุดฝากครรภ์มาอ่าน คงจะดูว่าพัฒนาการถึงไหนแล้ว  

            เช้านี้เริ่มฝึกงานไอ้โรลมาหาที่บ้านแต่เช้า พี่ฟ้าแฟนมันก็หอบขนมและของกินมาให้ล็อตใหญ่ต้องให้คนไปขนลงมา
            “พี่ไปเลยนะ”พี่ฟ้าบอก
            “โอเค กลับดี ๆ”เราสองคนเดินเข้าบ้านมา อาเสือกำลังรอทานอาหารเช้า
            “สวัสดีครับ”
            “มาแล้วเหรอโรล”
            “ครับ”
            “นั่งดิ กินข้าวเสร็จค่อยออก แล้วไอ้บอลละมันไปทำงานรึยัง”ผมให้สุดาตักข้าวให้โรลด้วย มันดูเกร็งเกินไปเพราะอาเสือนั่นแหละ
            “เมื่อเช้าโทรไปแล้ว มันกำลังออก”
            “อ่อ มันทำกับที่บ้านใช่ไหม”
            “อืม”
            “โรล อาฝากกาวด้วยนะ...ไปวันแรกคงยังไม่ได้ทำอะไรเยอะ”
            “ครับ”
            “เดี๋ยวอาสั่งคนในออฟฟิศไว้อีกที หรือจะให้อาไปด้วย”ผมกับโรลส่ายหน้าพร้อมกัน อยากฝึกงานเหมือนคนอื่น ๆ ไม่มีอภิสิทธิ์อะไรทั้งนั้น
            “กาวก็ต้องทำตัวดี ๆ ทำเดือนนี้ พอเดือนหน้าอาไม่ให้ทำแล้วนะ...กาวต้องพัก”
            “อะไรอ่ะ!?!?!”ผมโวยวาย
            “มันแปดเดือนแล้วกาว ทำไมไม่ได้หรอก...”
            “กาวยังเดินไหว”
            “ไหวก็ไม่ได้ เห็นไหม...พูดไม่ทันไร ดื้อขึ้นมาอีกแล้ว...ไหนบอกเป็นห่วงเค้ามากไง”
            “กะ ก็ห่วง แต่กาวก็ว่ากาวไหว”
            “หึหึหึ กาวไม่ไหว...อาเดาได้เลย”ผมหน้างอให้คนตรงหน้า ไม่เคยให้กำลังใจเลยผมอยากฝึกงานและผ่านครั้งนี้ด้วยตัวเองเหมือนคนอื่น ทำไมอาเสือไม่เข้าใจ!?
            งอนและไม่อยากพูดกับอาเสือ อาโชติมาส่งที่ทำงานก็เงียบนิ่งมากที่เดียว
            “มึงโอเคไหมเนี่ย”ไอ้โรลถาม
            “เออ”ผมกับมันเดินเข้ามาในออฟฟิศเล็ก ๆ อยู่ที่ไซต์งานแห่งหนึ่ง ที่นี่เป็นที่เดินเอกสารระหว่างก่อสร้างหน้างานกับออฟฟิศใหญ่
            “สวัสดีครับ คุณช่วงโชติ”
            “สวัสดีครับ คุณวิชานันท์ เอาเด็กมาส่งครับ”อาโชติยิ้มให้ ผมมองคนตรงหน้ายิ้มแย้มเหมือนจะใจดี
            “อ่อ นี่ใช่ไหมครับ...แฟนของนาย”
            “หึหึหึ ครับนี่กาว แล้วนี่ก็โรลครับ”หลังอาโชติแนะนำ เราสองคนยกมือไหว้
            “กี่เดือนแล้วครับ?
            “เจ็ดครับ แต่กาวทำงานไหวนะ...”รีบออกตัวก่อน อาโชติกับคุณวิชานันท์มองหน้า
            “ก็ลองดูกันไปแล้วกัน จะเริ่มงานเลยไหม?”มาวันแรกก็ให้เรียนรู้งานคร่าว ๆ ว่าต้องทำอะไรบ้าง ในออฟฟิศนี้จะมีแค่ผม คุณรี่ซึ่งเป็นแอดมินประจำออฟฟิศ ไอ้โรล (ทำส่วนหน้างาน) พี่บูมเป็นวิศวะไฟฟ้า ต้าว – ดราฟท์แมน (สถาปนิก) ส่วนคนอื่น ๆ มีห้องเป็นตู้คอนเทนเนอร์ติดกัน
            “อาจะขึ้นไปดูหน้างานนะ คงจะกลับเลย...แล้วเดี๋ยวจะมารับตอนเย็น”
            “อืม”ผมตอบรับ อาโชติกลับไปแล้ว ก็เดินมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
            “งานของกาวจะช่วยพี่บูมเช็คความถูกต้องของระบบไฟฟ้านะ ไล่ไปทีละชั้นเลย...ขอแบบได้ที่ดราฟท์ ส่วนของโรลก็เอาแบบจากกาวไปเช็คว่าได้เดินสายไฟถูกต้องแล้ว แล้วคอยประสานงานมาที่กาวหรือพี่บูม”
            “ครับ”
            “เดี๋ยวงานของโรลให้ไอ้แปงไปช่วยดูแล้วรู้จักคนงาน”
            “ครับ”โรลตอบ
            “แล้วผมจะรู้ได้ยังไงครับ ว่าหน้างานมันทำออกมาตามแบบ”ผมถามขึ้น พี่เค้ายิ้ม ๆ
            “โรลก็ต้องถ่ายรูปมา แล้วเอารูปนั้นมาให้กาวทำรายงาน กาวต้องทำเอกสารเป็นการตรวจ Defect ครั้งที่เท่าไหร่ก็ว่าไป แล้วเอาเอกสารให้รี่ รี่จะเอาเอกสารไปดำเนินการต่อ ถ้ามันตีกลับ...เราก็จะตรวจแก้ ๆ กันไปแบบนี้ จากหน้างานผ่านกระบวนการที่เราแล้วส่ง เข้าใจไหม”
            “อ่อ เข้าใจครับ”ฟังดูไม่อยากเท่าไหร่ว่าไหม
             “ว่าแต่คนอื่น ๆ ละครับ”โรลถาม
            “เดี๋ยวก็มา วันหลังไม่ต้องมาเช้าขนาดนี้หรอก...”ผมกับไอ้โรลยิ้ม สบายละสิ...หึหึหึหึ
            คิดว่าจะง่ายผมเริ่มเอาแบบออกมากางบนโต๊ะยาว โดยมีต้าวอธิบายคร่าว ๆ ให้ ไอ้โรลก็ไปหน้างานซะครึ่งวันหายหัวไปเลย ตอนพักเที่ยงเลยต้องเอาข้าวมานั่งกินกับรี่แล้วก็ต้าว
            “พี่ทำอาหารมาเองเลยเหรอคะ”รี่ถาม อายุน้อยกว่าผมแต่ทำงานมา ปีได้แล้ว
            “แม่บ้านทำมาให้น่ะ กินสิ”
            “ไม่เอาค่ะ ไม่อยากแย่งคนท้อง คริคริคริ”
            “แหมอิรี่...ทำเป็นคนดี แต่ผมขอไข่ฟองนึงนะพี่”ต้าวก็อายุน้อยกว่าปีนึง เพิ่งเริ่มทำงานที่นี่ปีแรก
            “พี่ต้าว น่าเกลียด...พี่อย่าไปถือสา”
            “ออฟฟิศมีคนแค่นี้เหรอ”ผมถามยิ้ม ๆ
            “จริง ๆ ก็เยอะกว่านี้นะคะ”
            “ตอนนายมา”ต้าวเสริม ผมหัวเราะ...เก็บเป็นข้อมูล สองคนนี้ไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ก็ดีนะ...จะได้ไม่ต้องเกิดอาการเกร็งกัน
            “แล้วปกติอยู่ในนี้กันสองคนเหรอ”
            “ครับ”
            “ก็ดีนะ...”ผมพูดเรื่อย ๆ รีบทานข้าวให้เสร็จ จากนั้นก็ว่างยาว...ตลอดบ่ายไอ้โรลเพิ่งจะกลับมาพร้อมที่บูมที่เหงื่อเต็มตัว
            “กาวใช่ไหม”พี่บูมถาม
            “ครับ”
            “เดี๋ยวเอารูปจากโรลปริ๊นออกมาแล้วทำรายงาน Defect เลยนะ จุดไหนที่ไม่เหมือนในแบบก็เขียนให้ละเอียดเลย ทำเสร็จแล้วเอาให้รี่มันปริ๊นก็ได้”
            “รี่มีไฟล์เอกสารอยู่พี่ เดี๋ยวเอารูปมาก๊อปวางได้เลย”ผมพยักหน้า
            “กินข้าวยังว่ะ”ไอ้โรลถาม
            “เออ กินแล้ว”
            “เออ ๆ อย่าลืมกินยาละ...”
            “กินแล้ว”ย้ำอีกที ไอ้โรลมันออกไปกินข้าวเสร็จมันก็เข้ามาเอาเก้าอี้เรียงต่อกัน นอนยาวอย่างสบาย ผมยังงง ๆ กับภาพถ่ายที่มันถ่ายมา แล้วก็แปลนแบบจากต้าว เลยต้องช่วยกันดูโดยมีต้าวกับพี่บูมค่อยแนะนำ
            วันแรกผ่านไปอย่างเหนื่อยที่สุด อาโชติมารับตรงเวลาเป๊ะ แวะไปส่งไอ้โรลที่บ้านมันก่อน (มันกลับไปอยู่บ้าน) แล้วจึงค่อยเดินทางกลับบ้าน อาเสือยืนรออยู่แล้วพอรถจอดก็มาช่วยพาลงจากรถ
            “เป็นยังไงบ้าง”
            “กาวเหนื่อย...ไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น”
            “ครับ ๆ อาบน้ำเลยไหม”ผมพยักหน้าเดินเข้าห้องทันที คนตัวสูงเดินประคองไม่ปล่อย
            “อาอาบให้”
            “ไม่เอา...”
            “กาวเหนื่อยพอแล้ว...จะได้เร็ว ๆ ไง”
            “ไม่เอา...น่าเกลียดจะตาย”
            “หึหึหึ เด็กดื้ออายด้วยหรือไง”อาเสือหัวเราะ
            “คะ คะ ใครบอก!
            “มาเร็วอาอาบน้ำให้ สุดากำลังเตรียมจัดโต๊ะอาหารกาวไม่หิวเหรอ”
            “หิวมากกกกกก”คนตัวโตยิ้ม ดึงผมเข้าไปในห้องอาบน้ำและอาบให้อย่างที่บอก มันทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกใครสักคนจ้องทุกส่วนแบบนั้น มือหนาลูบไล้สบู่ที่หน้าท้องนูน
            “ใกล้แล้วสินะ”เสียงพูดเบาไม่ต้องการคำตอบ ผมยืนตัวสั่นหันหลังให้ ไม่ได้หนาว...แต่สั่นเพราะความอาย 
            “เร็ว ๆ สิ”อาเสือหัวเราะ รีบอาบให้เสร็จโดยเร็ว และแต่งตัวลงไปข้างล่าง
            สุดาทำอาหารไว้รออยู่แล้ว กำลังนั่งทานไม่นานคนตัวโตก็ได้รับโทรศัพท์ด่วน คงจะสำคัญมากถึงต้องออกไปคุยข้างนอก ผมวางช้อนทันทีไม่ได้กวนให้เสียอารมณ์แต่อยากรออาเสือเข้ามาก่อน
            “ทานต่อเถอะค่ะ”พี่อูบอกน้ำเสียงใจเย็น ผมมองที่ประตูอาเสือก็ยังไม่เดินเข้ามา
            “ทำไมคะ อิ่มแล้วเหรอคะ”สุดาเดินเข้ามาทักอีกคน
            “เปล่า รออาเสือ”
            “คุณกาว”
            “ไม่ได้เป็นอะไร แค่จะรอ...”ผมพูดค้างไว้แค่นั้น อีกเดี๋ยวอาเสือก็เดินเข้ามา ไม่ยอมอธิบายว่าคุยกับใครทำไมต้องออกไปคุยข้างนอก ผมก็นั่งมองหน้าอยู่แบบนั้น
            “อาเสือออออ”ลากเสียงยาว ๆ และทำหน้าให้รู้ว่าต้องการอะไร อาเสือดึงทิชชู่มาเช็ดปากให้แต่ผมหันหน้าหนี
            “เรื่องงานน่ะ”อาเสือบอกเสียงเรียบ ผมยังไม่พอใจ
            “อาบอกเท่าที่บอกได้...ไม่อยากให้กาวเครียดมาก แค่เรื่องงานเท่านั้นจริง ๆ ครับ”
            ยอมก็ได้...แต่ไม่ทานต่อเพราะอิ่มแล้วจริง ๆ
            “กาวอยากนอนแล้วอาเสือ”
            “อิ่มแล้วเหรอ”
            “อืม”
            “อืม?”อาเสือเลิกคิ้ว ผมเลยแก้คำพูดใหม่
            “คร๊าบบบ”ไม่ได้บอกให้อาเสือหยุดทาน รู้ว่ายังทานไม่อิ่มแต่ก็เดินพามาที่ห้องนอน ผมเอนตัวลงสบายบนโซฟา เปิดหนังเรื่องที่ชอบ
            “ไปกินข้าวต่อสิ”บอกลอย ๆ ตาจับจอภาพไม่แทบไม่กระพริบ
            “อาอิ่มแล้ว”
            “โกหก”
            “อิ่มแล้วจริง ๆ ไหนดูสิต้องทานยาอะไรบ้าง”ผมไม่ตอบได้ท่านั่งที่สบายแล้ว เพียงแต่รับยามาทานไปเท่านั้น อาเสือนั่งข้าง ๆ นวดแขนกับมือให้
            “เริ่มงานวันแรกดีไหม”
            “อืม”
            “เดินเยอะไปรึเปล่า ถ้าไม่ไหวอย่าฝืนเข้าใจไหม...”
            “ครับ”รับคำเหนื่อย ๆ ผมหลับไปอย่างง่าย คงเพราะวันนี้เหนื่อยมากมาทั้งวัน แม้จะไม่ได้ทำอะไรเยอะเท่าโรลแต่ก็ออกแรงมากกว่าปกติหลายเท่า เด็กแฝดคงตัวใหญ่ขึ้นผมเดินทีต้องแอ่นหลังแทบจะหัก ปวดร้าวทั้งหลังไปจนถึงน่องขา
            “ไปนอนที่เตียงเถอะ”เสียงกระซิบบอกใกล้ ๆ ผมลืมตาและพาตัวเองลุกขึ้น โดยมีอีกคนช่วยพยุงไม่ห่าง เตียงกว้างที่มีแค่ผมนอนคนเดียว ไม่รู้สิ...มีอาเสือมันก็ดีมีคนกอด แต่มันอึดอัดแล้วก็รำคาญไม่สบายตัวยังไงไม่รู้ อีกคนเลยต้องปูเบาะนอนที่พื้น ใครเห็นเข้าคงจะหัวเราะ...คุณสรนัฐผู้ยิ่งใหญ่เอามากทีเดียว
            เตียงยวบเพราะอาเสือยังนั่งอยู่ ผมหลับแต่ยังรู้สึกตัว แม้แต่ตอนนี้ที่อาเสือเอาหมอนข้างมาดุนท้องแล้วใส่ถุงเท้าให้
            “กาวเท้าเย็น”จับเฉย ๆ ไม่ว่า แต่นวดให้ด้วยอย่างสบาย
            “เด็กดื้อไม่ฝันร้ายแล้วใช่ไหม”เสียงทุ้มถามขึ้นอีก ผมพยักหน้าทั้งที่หลับตา
            “ดีแล้วนะ...ไม่ต้องฝันร้ายแล้ว เด็กดื้อของอาเป็นเด็กดีแล้วนะครับ”
            “อือ”คนโหดเหมือนกล่อมเด็กแฝดเพียงแค่ลูบไล้ ริมฝีปากอุ่นแตะที่แก้ม หน้าผากและปากผม ก่อนจะเลื่อนตัวลงไปแตะที่พุงหนา
            “ฝันดีครับ ที่รักของอา”
            ผมยิ้มแม้กระทั่งหลับตาเลยทีเดียว
           
            ตื่นขึ้นมาตอนเช้าอาเสือไม่อยู่แล้ว อาโชติว่าเข้าโกดังด่วนคงจะมีเรื่องแน่เลย เดาเอาจากสีหน้าอาโชติเมื่อคืน ผมเตรียมตัวไปทำงานเลยโทรหาไอ้โรลก่อน มันก็กำลังอาบน้ำอยู่เหมือนกัน ไปถึงคงเวลาใกล้ ๆ กัน ข่าวออกเรื่องไฟไหม้โกดังอาเสือ แต่ตอนนี้ดับได้แล้วและตำรวจกำลังหาสาเหตุอยู่ ผมนั่งฟังอยากสนใจทีเดียวคนอื่น ๆ มองหน้ากัน ปิดทีวีไม่ทันเพราะรีโมตอยู่ในมือผม
            “อาโชติว่า...ทำไมไฟถึงไหม้”ผมลองเชิงถามดู อาโชติยักไหล่ทำสีหน้าสบาย ๆ
            “ก็คงไฟฟ้าลัดวงจรแหละครับ มันไหม้แค่ส่วนเดียว...ตรงโกดังเปล่า พอดีคุณท่านให้คนเอาของออกมาหมดแล้ว”
            “ทำอย่างกับรู้ว่าไฟจะไหม้”ผมพูดลอย ๆ กดโทรศัพท์หาอาเสือ
            “เด็กดื้อจะไปทำงานแล้วใช่ไหม”
            “อืม อาเสืออยู่ไหน”
            “อากำลังจะเข้าไปคุยกับตำรวจ ให้ช่วงโชติไปส่งนะ...อย่าลืมเอาข้าวกับยาไปด้วย ยานวดอาวางไว้บนโต๊ะกินข้าวเห็นรึเปล่า”
            “อืม เห็น”ผมหยิบขึ้นมา
            “เอาไปด้วย...เผื่อปวดขายังไงให้คนที่นั่นช่วยนวดให้”
            “แล้วอาเสือจะกลับกี่โมง?”ผมถามในใจก็เป็นห่วง ไม่รู้อะไรทำให้เกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา
            “อายังไม่แน่ใจ แต่ว่าตอนเย็นเดี๋ยวอาไปรับนะ”
            “ที่ทำงานเหรอ?
            “ครับ...”
            “ทำไมละกลับกับอาโชติก็ได้”
            “อาต้องไปดูโครงการที่นั่นอยู่แล้ว ตอนเย็นจะเดินไหวไหม...อาอยากพาดูเตียงนอนให้ลูก”
            คำว่า ให้ลูก’ ที่ออกมาจากปากอาเสือทำให้หัวใจผมเกิดพองโตขึ้นมา
            “อืม”
            “วันนี้ก็อย่าเดินมากละ”
            “รู้แล้ว จะไปแล้วนะ”
            “ถึงที่ทำงานแล้วโทรหาอาด้วย”
            “อืม”
            “อืม?
            “ครับ”
             “หึหึหึ อารักกาวกับลูกนะครับ”
            “อืม เอ้ย...ครับ”ผมวางสายไป อารมณ์ดีจนต้องยิ้มออกมา
            “มีอะไรดี ๆ เหรอคะ...ยิ้มไม่หุบแบบนี้”
            “ไม่บอกหรอก”ผมบอกออกไปอย่างขี้เล่น เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วเดินมาที่รถ มีอาโชติรออยู่แล้วแต่วันนี้ลูกน้องเยอะจัง
            “มีอะไรเหรออาโชติ ทำไมวันนี้คนดูเยอะ ๆ”
            “หึหึหึ ไม่มีอะไรครับ...พอดีเรียกมาสั่งงานนิดหน่อย ไปเลยไหม...เดี๋ยวรถติด”ผมมองงง ๆ ก่อนเดินขึ้นรถไป กำลังจับสังเกตทุกอย่าง ทั้งสีหน้าอาโชติ คนรอบ ๆ และคนในบ้าน รวมทั้งสุดา มีอะไรที่แปลกไปนิดหน่อยไม่ถึงกับผิดปกติ บนรถมีลูกน้องของอาโชติสองคนขับรถ แล้วตัวอาโชติก็มานั่งข้างผมด้านหลัง รถเป็นรถตู้เลยมีที่กว้างมาก กระจกด้านหลังบานเบ้อเร้อเลยอดหันไปมองไม่ได้ แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดไม่ได้มีลูกน้องคนอื่น ๆ ตามมา
            “เป็นอะไร”
            “เปล่า คิดว่าลูกน้องอาโชติจะตามมา”อาโชติส่ายหน้า เมื่อมาถึงออฟฟิศผมมีงานที่ต้องทำค้างอยู่ รี่ก็ยังไม่มาเลยต้องทำเท่าที่พอจะเข้าใจไปก่อน เธอมาถึงสักเกือบสิบโมง
            “ขอโทษทีพี่กาว รี่ไปโรงพยาบาลมา”
            “อ้าวเป็นไรอ่ะ”ผมมองหัวจรดเท้า
            “ไม่ได้เป็น เอาข้าวไปส่ง...บ้านรี่รับทำข้าวกล่อง”
            “อ๋อ”
            “มารี่ช่วยพิมพ์ พี่แค่บอกแล้วกันว่าจะพิมพ์อะไร”ผมพยักหน้า มีหลายส่วนที่ไม่ตรงตามในแบบ และบางจุดก็ติดปลั๊กไฟได้ประหลาดไม่รู้ว่าใครออกคำสั่ง คงต้องเจาะผนังแก้ใหม่ ผมทำรายงานเสร็จก็ให้รี่เอาไปส่งวิศวะกรไฟฟ้าอีกคน ทั้งวันก็มีงานแค่นี้ไอ้โรลคงจะออกหน้างานเพลิน ตัวมันไม่ชอบนิ่งเฉยอยู่แล้ว
            “กาว เย็นนี้กูไปกับพวกพี่บูมนะ”
            “ไปไหน?
            “โจ๊ะ ๆ”
            “เหอะพี่ฟ้ามึงรู้ยัง?
            “รู้แล้ว ไปเปล่า”
            “อาเสือมารับ”บอกสีหน้าเสียดาย
            “เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ”มันหัวเราะสะใจ ก่อนเดินออกไป ตอนเย็นอาเสือมารับจริง ๆ ด้วย แต่รออยู่บนรถไม่ได้ลงมา ถ้าลงมาคนต้องรู้แน่ว่าผมมาฝึกงานที่นี่ ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมีคนเห็นผมมากนักงี้ไง
            “กาว...อามีเรื่องขอร้อง”คำแรกที่อาเสือพูดออกมาคือสิ่งนี้ ผมนั่งฟังในรถโดยดีแต่ก็ไม่ยอม
            “อาอยากให้กาวหยุดฝึกงานไปก่อน”
            “ไม่”คำสั้น ๆ
            “อาคุยให้แล้ว เรื่องเรียนกาวไม่มีปัญหา...จบทันเพื่อนแน่นอน”
            “ไม่เอา กาวทำไหว”ผมดื้อ
            “หมอบอกว่าไง...กาวมีสิทธิ์คลอดก่อนกำหนดใช่ไหม อาไปคุยกับหมอมาวันนี้ไม่เห็นกาวบอกเรื่องนี้ให้อาฟัง”
            “ก็กาวขี้เกียจเล่า”ผมแก้ตัวดื้อ ๆ
            “อาไม่ยอมตามใจกาวเรื่องนี้หรอกนะ กาวต้องห่วงลูกให้มาก ๆ เข้าใจไหม”
            “แต่กาวไม่ได้ทำอะไรมาก...แทบไม่ได้เดินออกจากห้องด้วยซ้ำ”
            “อารู้ครับ...แต่อาอยากให้กาวอยู่บ้าน และมีคนดูแลตลอดเวลา”
            “ทำไมเกี่ยวกับเรื่องไฟไหม้ไหม?”อาเสือเงียบและพยักหน้า
            “คิดว่าเกี่ยว”ผมตัวชาวาบทีเดียว
            “มีคนทำเหรอ?”ถามเสียงตื่นเต้น อาเสือพยักหน้าอีก
            “คิดว่า...”
            “แต่ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับกาว”
            “อาไม่อยากเสี่ยง ตอนนี้เราเป็นเป้า...ถ้ามันรู้ว่ากาวกับลูกอยู่ตรงนี้ อากลัวมันจะมาทำอะไรกาว”จ้องตาคมลึกฉายแววเป็นห่วงชัดเจน
            “แต่ว่าอาเสือต้องไปคุยกับอาจารย์ให้กาวนะ”
            “อาคุยแล้ว...ส่วนโรลไม่ต้องเป็นห่วงนะ อาคุยกับบูมแล้วบูมมันดูแลได้...ไม่ต้องห่วง”
            “อื้อ”
            “ระยะนี้กาวคงต้องเก็บตัวสักพักนะครับ ให้จับคนร้ายได้ก่อน...อาถึงจะเบาใจ”
            “อาเสือไปมีเรื่องกับใครหรือยังไง?”ผมถามออกไปด้วยความสงสัย
            “อาไม่แน่ใจ”คนอย่างอาเสือมีศัตรูก็ไม่แปลกหรอก แต่แปลกที่มันกล้านี่สิ
            “จะยอมก็ได้...”อาเสือยิ้มกว้าง 
            “ขอบคุณครับ”รู้สึกเขินตัวเองเล็กน้อยที่ว่าง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ตื่นเต้นจังจะออกมากันแล้วนะ คิดอะไรออกก่อนอาโชติจะขับรถถึงบ้าน
            “อาเสือบอกจะพาไปดูเตียงไง?
            “เออ อาลืมเลย...แต่จะถึงบ้านอยู่แล้ว ไว้เราค่อยมาดูวันหลังดีไหม”
            “ไม่ดี กาวไม่ยอม”อาโชติหัวเราะ
            “กลับรถไปสิช่วงโชติ เดี๋ยวมีเด็กงอแงใจร้อนเวลาไม่ได้ดั่งใจอีก”
            “อาเสือบอกไว้เองว่าจะพาไปดูนี่นา”ผมค้อนคนข้าง ๆ อาเสือหอมแก้มฟอดใหญ่
            “ปะป๊าห่วงมะม๊ากับลูกมากนะ”เสียงกระซิบที่ได้ยินแต่เราสองคน ผมยิ้มพร้อมหันหน้าไปอีกทาง เขินจนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว
            ความรักหน้าตาเป็นอย่างนี้เองเหรอ เพิ่งจะเข้าใจ

           
 
เด็กวิดวะ น่ารักระเบิดระเบ้อออออออออออออออออออ



คุณอาก็หล่อระเบิดระเบ้อออออออออออ (ไม่ยอมแพ้) 



ตอนหน้าเตรียมตัวรับขวัญหลานกันด้วยค่ะะะะะะะ


COMMENT PLEASE






            
           

3 ความคิดเห็น:

  1. ถ้าอาเสือจะหล่อขนาดดดเน้!!!!!! ชะนีหน้าไหนก็อยากอ่อย กาวจะไม่ไว้ใจจะคิดมากก็ไม่แปลกเลย แต่กาวใจเย็นขึ้นนะ ตั้งแต่มีแฝด

    ตอบลบ
  2. อาเสือขาาาาาาาา ยิ้มทีโลกสว่างสดใสมากค่ะ

    ตอบลบ
  3. กาวถ้าไม่ป่วยจากประสบการณ์ความทรงจำที่ส่งผลต่อจิตใจที่รุนแรงก็อาจจะไม่เป็นคนเช่นนี้ก็ได้มังนะ

    ตอบลบ