วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตอนที่ 41 ทะเล... 100%




            
ตอนที่ 41
            “อาเสือเห็นหูฟังของกาวรึเปล่า”
            “อาเก็บไว้บนชั้น ทำไมมันหักไปข้างหนึ่งแล้วละกาว”อาเสือถามกลับมา ผมเดินเชื่องช้าเข้าไปเอาหูฟังเพลงมาเสียบใส่โทรศัพท์แล้วเดินมานั่งข้าง ๆ อาเสือที่กำลังเซ็นเอกสารกองโต เตรียมให้อาโชตินำกลับเอาไปที่บริษัท สุดาเข้ามาเสิร์ฟน้ำแอปเปิ้ลกับของว่างก่อนจะเดินออกไปข้างนอก
            “มันหล่นตอนกาวจะขนของลงมาห้องข้างล่าง”ผมบอกเสียงนิ่ง หูฟังไม่ติดข้างหนึ่งด้วยเคาะยังไงก็ไม่ติด สายไฟข้างในมันคงขาดเสียแล้ว อาเสือวางปากกาแล้วถอดมันออกจากหูผม
            “ไว้อาซื้อให้ใหม่”ผมพยักหน้า เอนตัวลงนอนนิ่ง ๆ เพลงที่หมอส่งมาให้ฟังก็ทำให้รู้สึกดี มันเนิบ ๆ ช้า ๆ เย็นสบาย ชีวิตที่อยู่แต่บ้านมีอะไรหลายอย่างที่น่าเบื่อ ไม่ได้เจอเพื่อนฝูงและผู้คนเลย โทรหาพี่พตก็ไม่รับสายเลยยังไม่ได้คุยกัน เกี่ยวกับเรื่องที่มันเกิดขึ้น
            “อาเสือกาวมีข่าวดีอีกอย่าง”
            “อะไร?”อาเสือทำหน้างง ผมชี้ไปที่ตู้โชว์ข้างหน้าเป็นตู้ที่มีเครื่องถ้วยชามเก่า ๆ อีกฝั่งเป็นตู้เก็บเหล้าของอาเสือ ทั้งเหล้าและไวน์ซึ่งตอนนี้กระจกด้านนี้มันแตก ของด้านในถูกเก็บออกมาหมดแล้ว ตอนอาเสือเข้ามาคงไม่ได้สังเกต
            เห็นอาเสือทำหน้าอึ้งแล้วผมหัวเราะคิก
            “กาวไม่ได้ตั้งใจนะ...บอลมันหลุดมือ”
            “กาวเอาบอลมาเล่นในนี้!?”อาเสือถามอย่างข่มอารมณ์เป็นที่สุด ผมพยักหน้าทำหน้าตาบ่องแบ๊วเอาการ
            “ก็กาวเบื่อ แค่โยนเข้ากำแพงมันก็กระเด็นไปโดนเอง กาวไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”
            “แล้วเหล้าในนั้นไปไหน?
            “มันแตกเกือบหมด สุดาเลยเอาออกมาไปทำความสะอาดในครัว”ผมบอก
            “โกรธกาวใช่ไหมละ”ยักคิ้วถาม
            “โกรธมาก!”อาเสือเอนตัวมาหาก่อนจูบแรง ๆ ย้ำหลายที
            “แล้วกาวเป็นอะไรรึเปล่า?”คนโหดถามเสียงนุ่มตอนที่หน้าเราอยู่ใกล้กันแค่คืบ ผมกัดปากน้ำตาคลอนิด ๆ
            “เปล่า”เสียงแหบสั่น ดูเหมือนการยั่วโทโสให้อาเสือสติแตกจะยากขึ้นกว่าเดิม รู้ว่านิสัยไม่ดี...รู้ว่าไม่ควร แต่ก็อดจะแกล้งไม่ได้
            “อึดอัดใช่ไหม...กาวขยับตัวไม่ถนัด เลยไม่ได้ออกไปข้างนอก...วิ่งเล่นเหมือนที่เคยทำ”อาเสือลูบแก้มถาม ผมพยักหน้าจะว่าอย่างนั้นก็ใช่
            “อีกเดี๋ยวคนในนี้ออกมากาวต้องระวังกว่านี้นะ ตอนนี้อาให้กาวอาละวาดได้เต็มที่...หลังจากนี้ห้าม”
            “อาเสือเบื่อกาวรึเปล่า?
            “หึหึหึ ไม่เคยเบื่อ...”
            “จริงนะ”
            “อืม”
            “ห้ามมีคนอื่นด้วย...ไม่งั้นกาวจะทำเรื่องแย่ ๆ ที่อาเสือคาดไม่ถึงเลย!
            “แค่อาคุยกับคนอื่นกาวยังเอาอาเกือบตาย จะให้อาไปมีใครอีกเด็กดื้อ มีแต่เราที่ยัดเยียดอะไรก็ไม่รู้มาให้อา”อาเสือหัวเราะ ส่วนผมเบะปากเล็กน้อย
            “คิดว่าตัวเองหล่อตายละ!
            “หล่อไม่หล่อทำให้เด็กแถวนี้ใจสั่นได้ละกัน”ผมอมยิ้มหันหน้าหนี อาเสือตามมาหอมแก้มฟอดใหญ่แล้วก็เอามือลูบคลำหน้าท้อง
            “มัวแต่คุยทานของว่างได้แล้ว”ผมรับแก้วน้ำมาดื่มและนั่งทานของว่างไปเรื่อย ๆ
            “เดือนหน้าจะฝึกงานแล้ว อาเสือจะทำยังไงให้กาวไปฝึกที่ไหนแล้วไอ้โรลอีกละ?”ถามทั้งที่ขนมเต็มอยู่ในปาก อาเสือหันไปจับปากกาแล้วดูเอกสารของตัวเองต่อ
            “โรลยื่นเอกสารมาแล้ว ทั้งของโรลและของกาว ของโรลอาจะให้ไปฝึกกับเครือก่อสร้างของเรา เพราะตรงกับสายที่เรียนมา แต่กาวอยู่ในออฟฟิศ”
            “ทำไม!?!? อย่างนี้ไอ้โรลก็ได้ออกภาคสนามเหรอ!?!”ผมโวยวาย
            “เพราะกาวใกล้จะคลอดแล้วต้องระวังเป็นพิเศษ งานในออฟฟิศก็เกี่ยวกับวิศวะเหมือนกัน กาวไม่ต้องห่วง”ผมนิ่งอึ้งด้วยความเสียใจ อาเสือหันมากอด
            “กาวเข้าใจใช่ไหม”
            “อือ”
            “เด็กดื้อเสียใจรึเปล่า?
            “เสียใจมาก”ผมกัดปากไม่อยากจะร้องไห้ออกมา เอามือลูบท้องตัวเองของกำลังใจ
            “ถ้ามีตรวจงานกาวก็ออกไปได้บ้าง แต่ขึ้นบันไดไม่ได้เด็ดขาดนะ...อาจะกำชับคนที่นั่นให้ดูแลกาวอย่างใกล้ชิด”
            “..............................................”ผมเงียบไป
            “ถ้าเรียนจบออกมาอยากจะทำอย่างตรงนี้ อาจะไม่ห้ามนะครับ”
            “อะ อาเสือให้ทำเหรอ?
            “อือ อารู้ว่ากาวชอบและอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ แต่หลังจากนี้กาวจะมีเวลารึเปล่านี่สิ?”คนพูดทำหน้าเจ้าเล่ห์แต่ผมยังนั่งงง
            “เจ้าแฝดจะทำให้กาวหัวปั่นไม่มีเวลาคิดอย่างอื่นเลยคอยดู”
            “ไม่จริงลูกกาวจะต้องน่ารักเรียบร้อย”ผมเถียง หยิกปากอาเสือทันที
            “อะ โอ๊ย ๆ คอยดูแล้วกัน...กาวดื้อแบบไหน ลูกก็จะดื้อแบบนั้นแหละ!
            “ไอ้อาเสือบ้า!!!! ไม่ต้องมาใกล้กาวเลย!! มาว่าเค้าได้ยังไง!!
            “หึหึหึ โมโหขนาดนี้ก็รู้ตัวเหมือนกันนี่ว่านิสัยตัวเองประมาณไหน”อาเสือหัวเราะ
            “แล้วอาเสือดีนักเหรอไงนิสัยก็แย่ เจ้าชู้ สันดานไม่ดีแถมยังนอนกรนอีก!”ผมต่อว่าเสียงดัง
            “อานี่นิสัยไม่ดีเลยเนอะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
            “ด่าแล้วยังหัวเราะโรคจิตจริง ๆ”อาเสือจูบหนักหน่วงกว่าทีแรก คล้ายจะโดนทำโทษด้วยการดูดกลิ่นความหวานไม่จบไม่สิ้นแทบหายใจไม่ทัน
            “แต่เค้าของกาวจะออกมาน่ารักแน่นอน พ่อก็หล่อแม่ก็น่ารักขนาดนี้”คนบ้ายักคิ้วยิ้มเรียกเสน่ห์อย่างร้ายกาจ ผมดันหน้าอาเสือหนี ป่านนี้หน้าคงแดงไปถึงใบหูแล้วละมั้ง
            เด็กในท้องยังดิ้นอยู่เป็นระยะบางทีก็เจ็บจนน้ำตาเล็ดทีเดียว ต้องคอยปลอบและพูดกับเขาตลอด เปิดเพลงที่คุณหมอให้ฟังก็สามารถทำให้เด็กแฝดหยุดดิ้นได้ ผมเลยฟังบ่อยมากวันนึงไม่ต่ำว่าสิบยี่สิบรอบได้ วันนี้ได้เดินมากกว่าเมื่อวาน สุดาพาเดินเล่นรอบบ้านชวนคุยระหว่างเดินทำให้ไม่เหนื่อย เพิ่งเห็นว่าสวนด้านหลังสมหมายปลูกต้นไม้ไว้ ผมเคยเดินผ่านแค่ช่วงตอนกลางคืนที่หนีเที่ยว เลยไม่รู้ว่าดอกไม้แปลงนี้สวยมากทีเดียว
            “นี่มันต้นอะไรเนี่ย!? ทำไมมันประหลาดแบบนี้”ผมถามไม่เคยเห็นมาก่อน
            “ชวนชมค่ะ สวยใช่ไหมคะ”
            “อือ เพิ่งเคยเห็น...จัดสวนใหม่เหรอ?
            “ค่ะ แกก็เวียนไปเวียนมาเป็นสิบครั้งแล้วค่ะ”
            “สงสัยสมหมายจะว่างงาน”
            “แน่ะ ๆ อย่าหาเรื่องเด็ดขาดนะคะ แค่นี้พี่แกก็จะทำไม่ไหวอยู่แล้ว”สุดาเอ่ยขึ้น ผมหันควับ
            “ทำไมต้องปกป้องด้วยละ!
            “โธ่ สุดาเปล่าซะหน่อยนะคะ”คนสนิทปฏิเสธเสียงแข็ง รู้อยู่ว่าสองคนนี้กิ๊กกั๊กกันแต่ผมไม่ยอมแน่ ๆ ละคนหนึ่ง
            “สุดาห้ามไปหลงกลสมหมายนะห้ามมีแฟน ห้ามแต่งงานด้วย”
            “จะให้สุดาอยู่กับคุณกาวไปตลอดเลยหรือไงคะ”สุดาหัวเราะ
            “ใช่ห้ามลาออกด้วย!”ผมพูดน้ำเสียงจริงจัง ไม่เคยมีใครเหมือนสุดาคนที่คอยอยู่เป็นเพื่อนตอนที่ผมรู้สึกแย่ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้คนอย่างผม
            “ถึงจะมีแฟนหรือไม่มีสุดาก็อยู่กับคุณกาวอยู่แล้วค่ะ”
            “จริง ๆ นะ”ผมถามย้ำ
            “ค่ะ จะให้ไปไหนละคะอยู่ที่นี่ก็สบายดีออก...เงินเดือนก็ดี สวัสดิการก็ดี ข้าวก็ฟรีมีที่อยู่ให้อีก เสียอย่างเดียวนะคะ”
            “อะไรเหรอ!?”ผมรีบถาม
            “เจ้านายแสบไปไหนหน่อยค่ะ”ผมตาโตมองหน้าคนพูด
            “กาวไม่แสบเถอะ!!
            “ฮ่าฮ่าฮ่า จริงเหรอคะไม่สักนิดเลย? โถ่ ๆ ๆ ๆ พูดปดแบบนี้ไม่ได้ยินกันแค่สองคนนะคะ”
            “แล้วใครได้ยินอีก”ผมมองซ้ายขวาไม่เห็นมีใคร สุดาลูบท้องแผ่วเบา
            “ก็ในนี้ได้ยินอีกตั้ง คน หูเลยนะคะ”ผมยิ้มขึ้นบ้าง
            “ชิส์!”ทุกคนในบ้านพยายามจะทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้น มันออกจะโหดร้ายไปหน่อยถ้าผมยังไม่พอใจและอาละวาดให้อื่น ๆ ต้องลำบากใจ
            ที่ทำอยู่ก็เพื่อเด็กสองคน เพราะฉะนั้นถ้าออกมาแล้ว ช่วยเป็นเด็กดีด้วยนะครับ ผมบอกเด็กในท้องในใจ

            ช่วงบ่ายหลังเวลาอาหารผมทานยาและมาหาอาเสือในห้องทำงาน อาเสือไม่ได้ทานข้าวและดูเหมือนว่างานจะรีบเร่งทีเดียว
            “ทำไมไม่กินข้าว”ผมถาม
            “อ้าวกาว ทานข้าวเสร็จแล้วเหรอ”อาเสือไม่ได้ตอบกลับไปฝ่ายถามผมเอง คนตัวโตเดินก้าวเท้ายาว ๆ ผ่านโต๊ะทำงานมาประคองผมไปนั่งที่โซฟา
            “งานเยอะเหรอ?
            “อีกนิดก็เคลียร์แล้ว ตอนเย็นอาต้องบินไปภูเก็ตนะครับ”
            “ทำไมละ”ผมร้องขึ้นจับมืออาเสือแน่น อาเสือนั่งลงข้าง ๆ และกอดไว้แนบตัว
            “อามีประชุมด่วน โปรเจ็คที่นั่นผิดแผนไปหน่อย...อาต้องไปตรวจดู”
            “ทำไมไม่ให้อาโชติไปละ แล้วใครจะอยู่กับกาว”
            “ช่วงโชติมีงานทำเยอะพออยู่แล้ว อาไปแปบเดียวเดี๋ยวก็กลับ...ไม่ได้นอนค้าง”
            “ไปกี่โมงแล้วจะกลับกี่โมง?”ผมถามเสียงรัว จนอาเสือหัวเราะ
            “คิดจะกำหนดเวลาอาหรือไง”
            “ไม่ได้เหรอ!? จะให้กาวอยู่คนเดียวใช่ไหม?
            “เดี๋ยวอาให้สุดามานอนเป็นเพื่อน กาวอย่าเพิ่งโมโห”
            “ไม่ทันแล้ว ตอนนี้กาวอยากจะอาละวาดหนัก ๆ ทีเดียว!!!”พูดประชดออกไป
            “เอาไว้พรุ่งนี้อาจะชดเชยให้นะครับ ไปเที่ยวกันยาว ๆ สองคน”
            “สองคนเหรอ!!!!”ผมถามเสียงตื่นเต้น
            “อารีบเคลียร์งานจะเสร็จแล้ว เด็กดื้ออยากไปทะเลกับอาไหม”
            “อื้อ อยาก!
            “พูดไม่เพราะเลย...”
            “อยาก”
            “อยากครับ”
            “...............................”
            “โอเค ๆ อยากไปก็อยากไป พรุ่งนี้เตรียมตัวเลยนะ”
            “อาเสือบอกว่าไปกันสองคน”
            “ครับผม ไม่มีสุดา ไม่มีอาโชติ กาวต้องดูแลตัวเองแบบเต็ม ๆ ละนะคราวนี้”
            “ไปสองคนได้เหรอ ใครจะขับรถให้”
            “หึหึหึ อาขับรถเป็นนะ...ถ้ากาวลืมไปแล้ว”ผมกำลังตื่นเต้นอย่างที่สุด จะเป็นยังไงถ้าต้องอยู่แบบนี้เราแค่สองคน หัวใจเต้นแรงและเลือดก็สูบฉีดมากทีเดียว
            “รออานะ...”
            “คืนนี้จะกลับกี่โมง”
            “อาไม่แน่ใจ อาจห้าทุ่มหรือเที่ยงคืนกาวไม่ต้องรออา...นอนหลับไปเลย เจ้าตัวเล็กจะได้นอนด้วย”
            “อาเสือต้องกลับมานะ”
            “หึหึหึ หึงอาซะจริง!”หน้าตาที่แสดงความหยิ่งยะโสแบบนั้นทำให้ผมนึกหมั่นไส้ไม่น้อย ตลอดวันที่เหลือเลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ออกมาส่งอาเสือไปทำงานตอนสักห้าโมง มีอานัยไปส่งขึ้นเครื่องบินเช่าส่วนตัว อาโชติกับพนักงานอีก คนตามไปด้วย
            อาเสือโทรมาคุยด้วยตลอดเวลาที่ทานข้าวเย็น คงกลัวว่าถ้าไปแล้วผมไม่มีจับช้อนขึ้นมา สุดาได้ทีเสิร์ฟใหญ่เลย แม้ผมจะบอกว่าอิ่มมากแล้วก็ตาม ยาบำรุงถูกจัดวางไว้เหมือนเดิม ผมหยิบขึ้นมากินทุกเม็ดแล้วกรอกน้ำตามลงไป ถึงตอนนอนสุดากับพี่อูมาปูที่นอนนอนเป็นเพื่อนตลอดคืน

            ตื่นสายตามปกติผมลุกขึ้นมาพร้อมกับอาเสือที่เปิดประตูเข้าห้องมา สุดากับพี่อูออกไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ผมต้องนอนตะแคงเพราะท้องขยายใหญ่มากขึ้น เวลาลุกก็เลยลำบากแบบนี้
            “เป็นยังไงบ้าง?
            “ก็ดี อาเสือกลับมาเมื่อไหร่?
            “ตีหนึ่งหรือตีสองนี่แหละ...จุ๊บ”
            “แวะที่อื่นรึเปล่า”
            “จะให้อาแวะที่ไหนได้ ประชุมเสร็จอาก็รีบกลับจนคนอื่นประหลาดใจ”
            “ทำไมเหรอทุกทีต้องไปนวด ๆ นาบ ๆ ก่อนใช่ไหม”
            “หึหึหึ พูดขึ้นมาเองแล้วอย่ามาร้องไห้ให้อาเห็นนะกาว”
            “............................................”ผมเงียบเอามือจิกตัวเองและอาเสือก็จับออก
            “ไปอาบน้ำแล้วแต่งตัวน่ารัก ๆ ซะที กว่ากาวจะตื่นอาให้คนเก็บของขึ้นรถเสร็จหมดแล้ว”
            “จะ จะ จะไปเลยเหรอ”
            “อืม”
            “อาเสือขับรถไหวหรือไง”
            “ไหวสิ...ออกตอนนี้กว่าจะไปถึงคงเย็นพอดี แดดไม่ร้อนเดี๋ยวอาพาไปเดินเล่นชาดหาด”
            “อาเสือจะพาไปไหน”
            “ตราด”
            “อ่อ คิดว่าจะพาไปหาอาฐาซะอีก”
            “ก็อาบอกว่าเราจะอยู่กันสองคนไง...”
            “อือ”ผมลุกอาบน้ำและทานอาหาร กว่าจะเสร็จธุระตัวเองก็กินเวลาไปเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว สุดาสั่งทุกอย่างร้อยแปด ทำอย่างกับจะไปเป็นชาติ คนโน้นก็พูดอย่างโน้นคนนี้ก็พูดอย่างนี้กรอกหูซ้ายขวาของผมไปมา
            “กาวดูแลตัวเองได้น่า”
            “ให้จริงเถอะค่ะ”
            “ไปนะ”อาโชติประคองนั่งบนรถและปิดประตูให้ อาเสือหันมายิ้ม
            “พร้อมนะ”
            “อือ”
            ไม่ง่ายเลยที่คนท้องโต ๆ จะนั่งรถได้นานขนาดนี้ ผมพลิกตัวไปมาและเอนตัวพิงสบายตลอดทาง นั่งข้างคนขับก็ไม่ได้เพราะไม่สามารถคาดเข็มขัดรัดได้ อาเสือจึงคอยเทียวมองแต่กระจกหลังอยู่ร่ำไป  ผมแวะเข้าห้องน้ำอยู่บ่อยครั้ง ไม่เข้าใจตัวเองจะฉี่บ่อยไปไหน!? ทั้งที่กินน้ำไม่ได้เยอะเลย
            มาถึงบ้านพักตอนสักประมาณ โมงครึ่ง อากาศกำลังเย็นสบายเพราะฝนเพิ่งตกเสร็จใหม่ บ้านหลังใหญ่สวยสีฟ้าสดใส เปิดไปด้านในก็เป็นโทนฟ้าขาวตัดสลับกันได้อย่างพอดี ชวนให้ทุกอย่างดูสดใสและสบายใจขึ้นมาก คนดูแลช่วยยกของให้เราเข้ามา และให้เบอร์โทรร้านค้ารวมทั้งส่วนกลางเอาไว้
            ด้านหลังอีกฟากติดกับทะเลกว้างน้ำใสสวย อยากจะออกไปเดินเล่นเร็ว ๆ
            “อาเสือกาวอยากออกไปตรงนั้น”
            “นั่งพักก่อนเถอะ”
            “กาวอยากไป”ผมรีบบอก อาเสือหัวเราะ
            “ใจเย็น ๆ เด็กดื้อ เราอยู่อีกหลายวัน”
            “กี่วัน?”ผมหันไปถามทันที
            “อาทิตย์หนึ่ง”คนพูดยิ้มกว้างปล่อยคำตอบที่ถูกใจออกมา ผมโผเข้ากอดอาเสือ
            “จริง ๆ นะ”
            “จริงสิ อาให้ของขวัญกาวกับลูกแล้ว...หลังจากนี้กาวต้องให้ของขวัญอาบ้างนะ”
            “ของขวัญอะไร?”ผมทำคิ้วขมวดไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย
            “เป็นเด็กดีของอา”
            “ก็เป็นอยู่ไม่ใช่หรือไง?
            “พูดกับอาเพราะ ๆ ด้วย กับคนอื่นก็เห็นพูดดี”
            “ก็พูดดีแล้วนี่ไง”ทำเสียงเบาตาม
            “ดีกว่านี้อีก อายังเปลี่ยน...กาวก็ต้องเปลี่ยนเหมือนกัน ต่อไปนี้เราห้ามตะโกนใส่กันแล้วโอเคไหม”
            “อาเสือบอกตัวเองเถอะ”
            “จุ๊บ....สัญญากันแล้วนะ”
             บ้านชั้นเดียวแต่กว้างมีหลายห้อง ห้องนอนก็ยังมีสองห้องผมเดินเข้าห้องเล็กอย่างเคยชิน อาเสือเดินตามเข้ามาเอาของมาวาง
            “เตียงเล็กแบบนี้จะให้อานอนไหน”
            “กาวชอบห้องนี้”
            “แล้วอาละ?
            “อาเสือก็ไปนอนอีกห้องนึงสิ”
            “ผัวเมียจะแยกกันนอนได้ไง!? ไป ๆ ไปนอนกับอา”ผมเดินไปตามแรงจูง อารมณ์แบบไม่มีสุดาทำโน่นทำนี่ให้ ไม่รู้ว่าตัวเองควรเริ่มจากไหนก่อนดี อาเสือเลยต้องทำคนเดียวทั้งยกของวางที่และจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ ผมนั่งมองอีกคนทำงานเดินไปเดินมาหัวหมุน
            “ดูท่าจะเหนื่อยนะ”พูดลอย ๆ แต่มองหน้าอาเสือ อาหนุ่มพยักหน้าหัวเราะหึหึในลำคอ
            “ก็นิดหน่อย”ไม่รออาเสือจัดของและทำกับข้าวเสร็จ ผมเดินออกมาดูวิวรอบบ้าน ได้ยินเสียงอีกคนตะโกนว่าอย่าออกไปไหนไกล แต่ก็ไม่ทันแล้วขามันพาให้ก้าวเดินออกมาย่ำทรายทั้งที่ไม่ได้ใส่รองเท้าด้วยน้ำ
            เสียงคลื่นกระทบหาดฟองสีขาวซู่ซ่าอยู่บนฝั่ง ก่อนไถลถอยหลังกลับลงสู่ทะเลอีกครั้ง ผมยืนมองภาพนั้นไม่รู้เบื่อ เด็กแฝดเริ่มมีปฏิกิริยาอีกครั้งด้วยการถีบพุงผม แรกทีเดียวยังทนได้แต่เริ่มจะหนักขึ้นเหงื่อผมเริ่มไหลออกซึมทั้งหน้าผาก ขมับ และฝ่ามือ
            “อะ อาเสือ”พยายามเรียกอาเสือ แต่ก็เบาเต็มที
            “อะ อะ อา”ผมจะเอนตัวลงนั่งกับทราย จึงค่อย ๆ หย่อนตัวลงช้า ๆ มีผู้ชายสองคนวิ่งมาจากไหนไม่รู้น่าจะเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกันเข้ามาประคองตัว
            “คุณครับ เป็นอะไรครับ”เขาถามเสียงตกใจ ผมโบกมือทำหน้าเจ็บ
            “จะคลอดแล้วเหรอครับ!”อีกคนตะโกนทำตาโต
            “ปะ เปล่า ๆ เค้าถีบ”ผมบอก ทั้งสองคนช่วยให้ผมนั่งลงได้สำเร็จ
            “ขอบคุณครับ”
            “คุณโอเคนะ”
            “อือ ไม่เป็นอะไรหรอก...เค้าถีบ”
            “กี่เดือนแล้วครับเนี่ย”
            “จะเจ็ดเดือนแล้วครับ”ผมบอกลูบท้องตัวเองตลอดเวลา พร้อมปล่อยลมฟู่ออกมาทางปากหวังช่วยบรรเทาความเจ็บ
            “สีหน้าคุณไม่ดีเลย”
            “เหรอครับ”
            “ฮะ หน้าคุณซีดมาก...เค้าถีบแรงมากเลยเหรอฮะ”คนนึงพูด ผมยิ้มให้เล็กน้อยและชี้ที่พุงตัวเอง ให้เค้าวางมือมาจับ ดูท่าทีลังเลแต่ก็ยืนมือมาเล็กน้อย
            “ลองดู”ผมบอก
            “กาว!!!!”อาเสือตะโกนลั่น ทำเอาเราทั้งสามคนสะดุ้ง คนบ้าเดินทำหน้าโหดเข้ามาสองคนนี่ก็เลยกลัวถอยออกห่างไปนิดนึง
            “แฟนเหรอครับ”เขาถาม ผมพยักหน้า
            “ดุจัง แฮะ ๆ งั้นไม่กวนแล้วครับ...ไปนะ”ทั้งสองคนรีบออกไปก่อนอาเสือจะเดินลงจากตัวบ้านมาถึง คนตัวโตมองตามหลังทั้งสองคนที่วิ่งเห็นแต่หลังไว ๆ ผมก็มองด้วย อ๋อ คงอยู่บ้านหลังนั้นเองสินะ...ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่ น่าจะ 200 เมตรได้มั้ง
            อาเสือหันกลับมายืนค้ำหัวแล้วมองหน้าอย่างไม่พอใจ
            “อะไร?”ทำหน้ากวน ๆ
            “มันมาทำอะไร?
            “ยุ่งอะไรด้วย ถ้าจะมาหาเรื่องไปไกล ๆ นะ”ผมเตือนก่อน นี่ก็ไม่อยากอารมณ์ไม่ดีเหมือนกัน อาเสือยืนนิ่งค้างนานก่อนจะลงมานั่งข้าง ๆ คนตัวโตจับผมไปจูบแต่มันรุนแรงจนผมเจ็บ ต้องจิกคออาเสือผลักออก
            น้ำตาคลอด้วยความเจ็บ อาเสือลูบปากช้ำและบรรจงจูบเบากว่าเดิม
            “อือ!!!!!”ผมไม่ยอมแล้ว หันหน้าหนี จู่ ๆ ก็มาทำบ้าอะไรตรงนี้!? ท่าจะประสาท!!
            “ขึ้นบ้านเถอะ”อาเสือว่า แต่ผมไม่ลุก
            “ตรงนี้ยุงมันเยอะ เข้าบ้านกันเถอะ...อาสั่งข้าวมาให้แล้ว”
            “...................................”เห็นผมไม่ตอบอีกคนก็เอานิ้วเกลี่ยแก้ม
            “ทานข้าวกันนะ...”
            “กาวเจ็บท้อง!!! ถ้าอามีกะใจจะถามกาวสักคำนะ!!! ตอนนี้กาวลุกไม่ไหว!!!!!”ผมพูดกระแทกใส่ อาเสือจับท้อง
            “เจ็บยังไงตอนนี้ก็เจ็บเหรอ!?”น้ำเสียงร้อนรนขึ้นทันที
            “เค้าถีบ”อาเสือมองแล้วลูบพุงกลมไปมา
            “กาวเดินลงมามองทะเลแล้วเค้าก็ถีบ”ผมบอกอีกไม่มองหน้า อาเสือดึงผมเข้าไปกอด
            “อาขอโทษที่ไม่ถามก่อน กาวเจ็บมากใช่ไหม”
            “อือ”ผมตอบอย่างงอน ๆ อยู่
            “แล้วไอ้สองคนนั่นละ?
            “กาวอยากนั่งแต่นั่งไม่ไหว สองคนนั่นวิ่งมาจากฟากโน้นมาช่วย”
            “อ่อ อย่างนี้นี่เอง”
            “แล้วอาเสือก็ยังจะมาทำโมโหอะไรก็ไม่รู้ใส่กาว ไหนบอกจะให้ใจเย็น ๆ ไง!”ได้ที่ต่อว่าอาเสือ
            “จุ๊บบบบบบ อาขอโทษ...อ่ะให้ตีก็ได้”อาเสือยื่นมือออกมาแบตรงหน้า ผมมองมือแล้วมองหน้าอาเสือ อีกคนทำหน้าเชิงว่าอนุญาตให้ตีได้ แต่ผมไม่ได้ตีจับมือนั่นไว้แล้วกัดไม่แรง (แค่ขึ้นรอยฟัน) คนตัวโตอดกลั้นได้ดีทีเดียวไม่มีเสียงร้องให้ได้ยินสักแอะ
            “อาเจ็บจังเลย”อาเสือสลัดมือตัวเอง
            “สมน้ำหน้า...”ผมยิ้มออกมาได้ อาเสือนี่ก็เวอร์นะไม่ได้กัดแรงขนาดนั้นสักหน่อย อาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ผมอยากนั่งมองอยู่ก่อนอาเสือถอยไปนั่งซ้อนไว้ข้างหลังแล้วให้ผมเอนได้เต็มที่ มือหน้ายื่นมาจับท้องแค่จับก็อบอุ่นไปทั้งตัว เด็กแฝดสงบลงได้ไม่เตะไม่ถีบให้เจ็บตัวอีก
            “กาวอยากดูทุกวัน”
            “หึหึหึ งั้นอาก็จะนั่งเป็นเพื่อนทุกวันดีไหม”
            “อื้อ”
            คืนแรกหลังจากทานอาหารเสร็จ ผมอาบน้ำแล้วอาเสือก็อาสาทั้งทาครีมและนวดให้ เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ไม่น้อย มันทั้งเขินและไม่ชินด้วย มือหนากำลังสาละวนอยู่ตรงเอว ปากก็ถามว่าเจ็บไหมหายไหมตลอดเวลา ผมนอนสบายจนกระทั่งหลับไปเอง
            “เด็กดีของอา...ฝันดีนะครับ”

            น่าแปลกที่ผมตื่นเช้ากว่าอาเสือ หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็ออกมาเดินเล่นนอกบ้าน ดูเวลาเพิ่งจะหกโมงเช้า เอาอีกแล้วพอจะใกล้ทะเลเข้าหน่อยเด็กแฝดออกอาการอีกแล้ว ผมจับท้องตัวเอง
            “เป็นอะไรนะทำไมถีบอีกแล้วละมันเจ็บนะรู้ไหม”บอกเค้าไม่รู้ว่าจะเข้าใจไหม ลองจับท้องตัวเองถีบกันสนุกสนาน ผมต้องนั่งลงแบบเดิม...ไม่นานอาเสือก็ลงมาหา
            “ทำไมออกมาคนเดียวอีกแล้วละกาว”
            “อาเสือ กาวเจ็บ!”ผมร้องบอก อาเสือวิ่งเข้ามาหา
            “ทำไมเจ็บบ่อยจัง มันผิดปกติรึเปล่า”
            “เค้าถีบทุกครั้งที่กาวเดินใกล้ทะเล”
            “หึหึหึ อยากออกแล้วเหรอ...ไม่ได้ ๆ อย่าถีบสิครับ คุณแม่เค้าเจ็บนะ”ผมจ้องหน้าอาเสือขวับทันทีที่ได้ยินอาเสือพูดแบบนั้น ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด มันเหมือนมีความรู้สึกนึงอิ่มเอิบขึ้นมา...รู้สึกอยากปกป้อง อยากดูแล อยากทำให้เค้าดีที่สุด สบายที่สุด ผมไม่รู้จะประมวลความรู้สึกทั้งหลายออกมาได้ยังไง พลังบางอย่างมันพุ่งมาจากปลายเท้าแล้วเหมือนตอนที่โงกุนกำลังชาร์จพลังยังไงอย่างนั้น
            “เป็นอะไรไปอีกแล้วกาว”
            “เปล่า ๆ”แค่อาเสือจับก็หยุดไปอีกแล้ว
            “อาเสือพาไปหน่อยสิ กาวอยากเอาเท้าจุ่มทะเล”
            “ไม่เด็ดขาด”
            “นะ ๆ แค่เท้า”ผมอ้อน อาเสือพยักหน้าพาลุกขึ้นประคองไปเหยียบน้ำทะเลที่ตื้น ๆ เด็กในท้องเริ่มอาละวาดอีกครั้งด้วยการถีบท้อง
            “อาเสือจับ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”ผมร้องบอกอย่างรวดเร็ว มือหนาก็ยื่นมาหน้าตาตื่น
            “เห็นไหม ๆ ๆ ๆ ๆ เค้าถีบอีกแล้ว”
            “อือ”
            “อาเห็นไหม ๆ ๆ เค้าถีบแรงมาก”ผมบอกอย่างตื่นเต้น
            “จริงด้วย”มองหน้ากันสองคนแล้วก็หัวเราะออกมา
            “แสบตั้งแต่อยู่ในท้องเลย ลูกใครว่ะเนี่ย”
            “คริคริคริคริ”ผมหัวเราะ
            “เตรียมตัวเหนื่อยกันได้เลย อาว่าจะจ้างพี่เลี้ยงอีกสองคนดีไหม...”
            “สุดาไง”
            “จะให้สุดาเลี้ยงทั้งสองคนเลยหรือไง แล้วไหนจะกาวอีก”
            “กาวไม่ใช่เด็ก ๆ นะ!”ผมชะงักเท้าจากที่ออกเดินเลียบชายหาด
            “แล้วกาวก็ไม่ให้ใครแตะเค้าเด็ดขาด!
            “ทำเสียงขู่อีกละ นี่ยังไม่ออกมายังหวงขนาดนี้...อาชักหวั่น ๆ ซะแล้วละ”
            “หวั่นอะไร?
            “หวั่นว่าอาคงจะตกกระป๋องแน่เร็ว ๆ นี้”
            “คิคิคิ ฮ่าฮ่าฮ่า ของมันแน่นอนอยู่แล้ว”ผมบอกทีเล่นทีจริง
            “อาเสือต้องเข้าใจนะ”ถึงจะบอกแบบนั้นแต่คนพูดก็ยังยิ้ม ผมหัวเราะอีกครั้งและออกเดินนำหน้า แต่เท้ายังก้าวไปไม่เท่าไหร่ มือหนาดึงรั้งไว้เสียก่อนทำให้ต้องกลับหันหลังไปมอง คนตัวโตอมยิ้มและไม่ยอมออกเดิน
            “กาวอยากไปตรงโน้น!”บอกความต้องการของตัวเองออกไป อาเสือกระชับมือแน่น...และล้วงอะไรในกระเป๋าออกมา ผมอ้าปาก...ยืนนิ่งค้าง มีเพียงอีกฝ่ายที่เคลื่อนไหวและค่อยสวมมันเข้าที่นิ้วผมอย่างเบามือ
            “อารักกาวมากนะครับ ต่อไปนี้เป็นของอาทั้งตัวแล้วก็หัวใจแล้วนะ”ยืนนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเรื่อย ๆ
            “บอกหน่อยว่ารักอาเหมือนกัน”
            “เกลียดที่สุดต่างหาก”ผมแก้ อาเสือหัวเราะ
            “เกลียดมากไหม”
            “เข้ากระดูกดำ”ผมตอบน้ำตายังไหลพราก อาเสืออ้าแขนออกผมก็เข้าสวมกอด
            “กาวเป็นของอาแล้วนะ เป็นของอาคนเดียว...”
            “คิดว่าให้ของแค่นี้แล้วจะยอมง่าย ๆ หรือไง”
            “หึหึหึ เด็กเจ้าเล่ห์ว่าแล้วต้องพูดแบบนี้....”อาเสือจูบขมับก่อนพูดต่อ “อยากได้บ้านสวนใช่ไหม...”ผมพยักหน้ารัว
            “อาจะยกให้”
            “จริงเหรอ!”อุทานอย่างเหลือเชื่อ
            “อืม แต่มีข้อแม้ว่าถ้าจะไปต้องมีอาเท่านั้น”
            “อือ”
            “ส่วนทะเบียนสมรสอาคิดว่า...เราไม่ควรจดกัน”
            “ทำไม?”ผมทำหน้าผิดหวัง
            “อาทำธุรกิจมันจะพลาดเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้ามันเกิดเป็นแบบนั้นขึ้นมากาวกับลูกจะได้ไม่ต้องมีข้อผูกมัด”
            “.............................................”
            “เชื่ออานะ อาไม่ได้ไม่อยากจด...”
            “อื้อ”ผมพยักหน้า พูดกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
            “เรื่องหุ้นและบริษัทอาก็จะไม่แบ่งให้กาวอยากที่กาวเคยขอ แต่อาตัดกำไรเป็นส่วนแบ่งให้กาวเลยดีไหม”
            “............................................”
            “อาไม่อยากให้กาวแบกรับการเป็นผู้บริหาร ทุกอย่างมันไม่ได้ขาวใสอย่างที่กาวคิด”
            “พูดกันอย่างกับจะลาไปตาย”ผมโพล่งออกไป อาเสือนิ่งก่อนจะหัวเราะออกมา
            “ต้องพูดให้กาวเข้าใจก่อน ไม่งั้นบอกทีหลังก็งอนอาละวาดอีก อาทำแบบนี้ถูกใจแล้วใช่ไหม”
            “มาก”ผมตอบอมยิ้ม ทำแบบนี้ถูกต้องแล้ว...บอกให้ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
            “อามีอีกวงให้อาบ้าง”อาเสือหยิบมันออกมา
            “วงนี้สวยกว่าของกาวอีก!!”ผมบอก คนตัวโตยื่นมือออกมากระดิกนิ้วน้อย ๆ ประมาณว่าให้ใส่เร็วหน่อย ผมตีหลังมือดังเพลี๊ย จนอาเสือถลึงตามอง
            “ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจกาวนะ อาโดนแน่โดยเฉพาะเรื่องที่อาก็รู้ว่าเรื่องอะไร”
            “อ่อ ห้ามทำให้หึงรวมด้วยไหม”อีกคนแซวให้ได้หน้าแดง
            “ไม่รู้!”สวมแหวนแล้วเดินฉับกลับบ้าน อาเสือเดินตามมาประคอง
            “ท้องอยู่นะมีสติบ้างสิ”ลืมอีกแล้ว!! ผมค่อย ๆ เดินอย่างเชื่องช้าขึ้น มีหลายอย่างที่มาทะเลแล้วอยากทำเช่นขับเจ็ตสกี เล่นร่มพาราเซล เตะบอล ดำน้ำ เฮ้ออออ...ดูแล้วออกจะเป็นกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการให้เด็กแฝดออกมาจากท้องก่อนกำหนดเสียเหลือเกิน
            มันยังมีอะไรที่พอจะทำได้ในช่วงนี้บ้างนะผมเดินคิดไปจนกระทั่งถึงบ้าน (คอยมองแต่มือตัวเองตลอดเวลาด้วยความเห่อเล็กน้อย ย้ำว่าเล็กน้อย!!!!!!)

เบาที่สุดในเรื่องแล้วมั้ง 55555555555555

เขียนยากเพราะไม่ได้อาละวาดเหมือนอย่างเคย แลดูโรคจิตจังเรา

ตอนนี้มีหวานเล็กน้อยคงจะเป็นอะไรดี ๆ ขึ้นมาบ้างนะ







COMMENT PLEASE
 








4 ความคิดเห็น:

  1. โอ้ทะเลแสนงามมม ฟ้าสีครามสดใส แฝดชอบทะเลล่ะสิ

    ตอบลบ
  2. สุดาเอ้ย. งานจะเข้าอีกแว้วววว

    ตอบลบ
  3. สงสัยแฝดจะชอบทะเล

    ตอบลบ
  4. 5 best ice cold winter titanium flask - Titanium Arts
    The best ice cold winter titanium flask – The best ice cold winter titanium pots and pans titanium flask ti89 titanium calculators - The best ice cold winter titanium quartz crystal titanium flask - The best ice aftershokz titanium cold winter ecm titanium tini

    ตอบลบ