วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตอนที่ 34 ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น





ตอนที่ 34 ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
            ตื่นมาไม่เห็นกาวอยู่บนเตียงดังเช่นทุกครั้ง ผมจึงรีบลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันแล้วลงมาข้างล่างทันที อูกำลังเก็บโต๊ะอาหาร เมื่อเห็นผมเดินเข้าไปก็เตรียมเสิร์ฟกาแฟเหมือนเคย
            “กาวไปไหน?
            “คุณกาวทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ออกไปเดินเล่นค่ะ”
            “เดินเล่นงั้นเหรอ!!!!”ผมทำตาโต แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน การตื่นเช้านับว่าเป็นเรื่องยากสำหรับกาวแล้ว ผมแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ว่ากาวกำลังออกไปเดินเล่น จิตใจสุนทรีย์แบบที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก
            “ค่ะ ตื่นมาก็เอารูปมาอวดด้วยเลยคงอารมณ์ดีใหญ่ ชวนพี่สุดาออกไปเดินเล่นในสวนค่ะ”
            “แล้วช่วงโชติละ”
            “ไปด้วยค่ะ กลัวคุณกาวเข้าใกล้กรงงู”
            “อืม”ได้ยินแบบนี้ค่อยเบาใจได้ อย่างน้อยก็มีคนอยู่กับกาวตลอดเวลา หายห่วงไปได้ประมาณหนึ่งว่าจะไม่ซนกว่าที่ควรจะเป็นแน่นอน ผมนั่งจิบกาแฟและอ่านข่าวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะมาจากข้างนอกดังขึ้น ๆ ทนไม่ไหวต้องวางไอแพดแล้วเดินออกไปดู
            “คริคริคริ....ฮ่าฮ่าฮ่า”เสียงกาวแน่นอน รีบเดินเข้าไปหาอีกนิด เห็นกาวกำลังให้ฟาโรห์ แมวเปอร์เซียที่เลี้ยงไว้เลียมือ
            “จั๊กจี๋ โอ๊ย ๆ คริคริคริ”เสียงหัวเราะที่สดใสทำเอาผมยิ้มตามไปด้วย สุดาหันมาเห็นก่อนรีบก้มหัวลงแล้วถอยให้ผมเดินเข้าไปหากาว
            “ฟาโรห์อาบน้ำหรือยังสุดา”
            “อาบแล้วค่ะ”ผมพยักหน้า ห่วงว่ากาวที่กำลังสัมผัสจะได้รับเชื้อโรค เพราะเราเลี้ยงแบบปล่อยไม่ค่อยให้เข้าในบ้านสักเท่าไหร่ เนื่องจากขนที่หลุดร่วงของมัน
            “แต่ยังไงก็ต้องล้างมือให้สะอาดอยู่ดีนะ”พูดลอย ๆ กาวคงได้ยินอยู่แล้ว ถึงไม่ทำตามคนอื่น ๆ ก็ต้องบังคับให้ทำความสะอาดมือตัวเองแน่นอน
            “คริคริคริ”
            “อ๊ะ....คริคริคริ”ได้เล่นกับแมวดูท่าจะไม่สนใจอะไรแล้ว สีหน้าสดใสไร้ความกังวลทำให้อยากจะจูบ อยากจะหอมแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะคนอยู่ตรงนี้เยอะแยะ
            “อีกสองสามวัน ทางโรงพยาบาลจะส่งคนมาทำโยคะให้นะครับ เป็นผู้หญิงกับผู้ชายอย่างละคน”ช่วงโชติหันมาคุยกับผม
            “อืม...เช็คตารางงานให้ฉันด้วย ไม่แน่ใจว่าประชุมที่ภูเก็ตยกเลิกไปรึยัง ถ้ายัง...ก็ให้เลื่อนออกไปก่อน”
            “ครับ”
            “อาจะอยู่ด้วยเหรอ?”กาวหันมาถาม ผมพยักหน้า...ไม่อยู่ได้ยังไง เดี๋ยวจะงอนอีก
            “คริคริคริ”แมวเลียมือแค่นี้ก็หัวเราะออกมา
            “วันนี้อารมณ์ดีจัง....”ผมแซว
            “ก็กาวมีความสุข”ถ้อยคำเรียบง่าย แต่มีความหมายต่อหัวใจของผมมาก กาวมีความสุข...อาก็มีความสุข
            “เดี๋ยวอาต้องไปทำงาน ตอนเย็นอยากได้อะไรไหม”
            “อ้าว...”กาวทำหน้าหงอยลงจากเมื่อกี้ 80%
            “สี่โมงเย็นอาก็กลับแล้ว วันนี้ไม่มีประชุม”
            “เข้าบริษัทหรือเข้าโรงแรม”
            “บริษัท”ผมตอบ กาวพยักหน้าเหมือนว่าจะเข้าใจมากขึ้น (รึเปล่า) จากยิ้ม ๆ เลยทำหน้าเศร้าเลย เอาไงดีว่ะวันนี้งานก็สำคัญ แต่กาวก็สำคัญ
            “อยากให้อาโทรตามบอลหรือโรลมาไหม?
            “ไม่”
            “งั้นอยากได้อะไร อาจะซื้อมาให้”
            “ทุกอย่างที่ขวางหน้า”ตอบอย่างไม่ลังเล ทำเอาผมและทุกคนหัวเราะ
            “เอางั้นเลยนะ อาจะไปแล้วรีบกลับมาแน่นอน”
            “อืม”
            “วันนี้จะให้วินัยขับรถให้แล้วกัน อยู่เป็นเพื่อนกาวนี่แหละ”หันไปสั่งช่วงโชติ
            “ครับ”

            ณ บริษัทกลางที่ใหญ่โตโอ่อ่า เมื่อรถจอดด้านหน้า...ก็มีพนักงานยืนรออยู่แล้วสองคน เป็นเลขาฯ สำหรับกรองงานต่าง ๆ ผมเดินนำเข้าไปยังตัวตึก ยังไม่พ้นเขตประชาสัมพันธ์ดี มีใครสักคนมาดักขวางทางเอาไว้
            “อะ เอ่อ ท่านคะ คุณคนนี้บอกว่าจะมารอสัมภาษณ์ท่านค่ะ”ผมชายตามองตามที่พนักงานตัวเองรีบพูดออกตัว
            “ดิฉันเขมนิฐ จากหนังสือพิมพ์ธุรกิจวันนี้ค่ะ”
            “ได้ทำการขอสัมภาษณ์รึเปล่า?”ผมถามเลขาฯ ตัวเอง
            “เอ่อ...ปฏิเสธไปแล้วค่ะ”กรองทิพย์หน้าเสียไปทันที
            “ทุกอย่างต้องทำการขั้นตอน...ไปทำเรื่องมาใหม่นะ”
            “ได้ข่าวว่าท่านจะทำการเปลี่ยนผู้บริหารจริงรึเปล่าคะ???”นักข่าวยื่นไมค์มาทันที ผมปัดออกอย่างหัวเสีย
            “เสียมารยาท!!!”ตะโกนว่าออกไปแล้วเดินหนี คนอื่น ๆ ก็มากันออกทันที
            “ทำไมปล่อยให้เข้ามาก่อกวนในนี้ได้!!!!!!!”หันไปดุยามที่หน้าเสีย เฮ้อ...เสียเงินจ้างมาแท้ ๆ แต่ความปลอดภัยทำให้หละหลวมขนาดนี้ นี่ถ้ากาวมาอยู่บริษัทจะวางใจอะไรได้บ้างสั่งงานให้ลูกน้องจัดการอีกสองสามอย่าง ก่อนจะขึ้นไปยังออฟฟิศตัวเองที่อยู่ชั้นบน
            “ประพตไม่เข้ามาเหรอวันนี้”
            “ครับ”
            “ไปซุกหัวอยู่ที่ไหนอีกละ!?”ต่อว่าอย่างหัวเสีย สงสัยต้องส่งไปอยู่กับพ่อตัวเองซะละมั้ง จะได้ไม่มีเวลาว่างลอยไปลอยมา งานการไม่ทำแบบนี้
            “มีงานอะไรให้ผมเซ็นรีบเอามาเลย!”วางเสียงมีอำนาจสั่งการไป พนักงานวิ่งกันวุ่น แต่ผมก็ไม่มมีเวลาว่างมากเท่าไหร่นัก อันนี้ทุกคนรู้ดี
            ผมเคลียร์งานต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน รวมทั้งเตรียมการย้ายเอกสารบางส่วนกลับบ้าน ย้ายที่ทำงานชั่วคราว ก่อนจะได้กลับมาตอนกาวฝึกงานประมาณเดือนหน้า
            “ขาดเหลืออะไรให้คนเอาเข้าไปให้ผมที่บ้านด้วยนะ”
            “ได้ค่ะ”ระหว่างนี้ต้องทำงานแบบนี้ไปก่อน ถ้ามีเอกสารจะทำการสแกนส่งไปส่งมา เดี๋ยวนี้อุปกรณ์เทคโนโลยีมันง่าย ถ้าไม่มีประชุมผมก็ไม่มีปัญหา
            “แล้วเรื่องที่ทีมงานนิวซีแลนด์จะขนเครื่องเล่นมาลงที่สวนสนุก อีกห้าชิ้นนี้ละคะ?
            “ให้เขาส่งเอกสารมาให้ผมก่อน วันที่เอาเครื่องมาผมอาจจะมาดูด้วย”
            “ค่ะ”
            “ทรงพลช่วยขนของลงไปข้างล่างหน่อยนะ”
            “ได้ครับ”กำลังเดินลงมาข้างล่าง เดินสวนกับรามผู้ซึ่งเป็นหุ้นส่วนและเพื่อนรักของผมอีกคน
            “ไงราม”
            “อ้าว...เสือจะไปไหนว่ะ?
            “เอาเอกสารกลับบ้าน”
            “มีปัญหาอะไรรึเปล่า?
            “ไม่มีหรอก พอดีหลานไม่ค่อยสบาย...เลยต้องดูแลใกล้ชิด”ผมบอก
            “เหอ ๆ ฉันไปเยี่ยมได้ไหมว่ะ ไม่เคยเห็นสักทีว่าโตแค่ไหนแล้ว”
            “ฝันไปเถอะครับอย่าหวังว่าจะได้เข้าใกล้หลานกูเด็ดขาด”ผมบอกยิ้ม ๆ
            “คุณอาหวงหลานจังนะครับ”ไอ้รามแซว
            “รีบไปทำงานเลย วันนี้เข้าสายนะมึง!
            “ฮ่าฮ่าฮ่า เอาไว้จะไปเยี่ยม”
             “ไม่ต้อง!!!!!!
            “หึหึ.....”แยกจากมันแล้ว ผมไม่ได้ตรงกลับบ้านทันที แต่ให้วินัยแวะห้างสรรพสินค้าของตัวเอง เพื่อตรวจงาน การมาครั้งนี้แบบไม่ได้เตรียมตัวจึงทำให้พนักงานที่ทำงานแบบเอาหน้า มีปัญหาพอสมควร
            “ทางเดินทำไมมีของทำความสะอาดวาง...ใครรับผิดชอบเรื่องนี้”ผมหันไปถามสมร
            “ขอโทษค่ะ แม่บ้านเข้าห้องน้ำกะทันหัน”
            “ก็ต้องหยิบไปด้วย หักเงินเดือนเดือนนี้ครึ่งนึง ไม่ใช่ของแม่บ้านนะ...ของคุณนั่นแหล่ะ!!! ทีหลังจะได้ตรวจงานและกำชับลูกน้องให้ดีกว่านี้”
            เดินผ่านแผนกต่าง ๆ ระหว่างที่ตรวจงานไปด้วย ผมมีแผนจะขยายความกว้างเพิ่มเลยต้องการจะมาดูพื้นที่จริง บางทีอาจจะทำเป็นโซนไอทีเต็มรูปแบบ และมีสวนสนุกของเด็กเล็กเพิ่มที่ชั้นบน อาจเพิ่มโรงเรียนพิเศษที่หลากหลายสำหรับเด็ก ๆ เพิ่มขึ้นอีก
            “ตุ๊กตาตัวนี้น่ารักดี”ผมจับ ๆ ก่อนจะเลือกมันทั้งหมด ยืนอยู่ท่ามกลางแผนกขายตุ๊กตา และมีผู้ติดตามอีกหลายคนมองดูอย่างสงสัยว่าผมซื้อไปให้ใคร ทุกคนไม่เคยเห็นกาว และไม่รู้ว่าผมมีหลาน บางคนรู้แต่ก็ไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่ นอกจากพนักงานที่สนิทเพียงเท่านั้น เรื่องนี้ไม่ได้ปิดแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องป่าวประกาศ
            “ห่อให้ผมทุกตัว...แล้วให้คนขนขึ้นรถที”
            ไม่เพียงแต่ตุ๊กตาหลากยี่ห้อเท่านั้น กระเป๋าที่คิดว่ากาวจะชอบ แถมด้วยซองหนังใส่ปากกาเห็นบ่น ๆ ว่า อันเก่าซิปมันแตก เลยซื้อให้สองอันเลยสีน้ำตาลกับสีดำ หมวกไหมพรมรูปดาว และอีกมากมายทั้งหมดอยู่ในกล่องของขวัญหลายสิบกล่อง ต้องเรียกช่วงโชติเอารถตู้มารับอีกคัน
            กลับมาถึงเจ้าตัวดีหลับนอนกอดหมอนในห้องข้างล่าง ทีวียังเปิดไว้อยู่ ทีหลังต้องบอกสุดาว่าถ้ากาวนอนให้รีบมาปิด บนหัวตัวเองมีหูฟังเปิดเพลงคาเอาไว้ ไม่ต้องใส่ก็รู้ว่าร็อคขนาดไหน ผมรีบปิดมันทันที
            “วันนี้กาวกินข้าวกับอะไร”หันไปถามสุดา
            “ต้มจืดเต้าหู้ ไข่ตุ๋น ผัดผักกวางตุ้ง แล้วก็ส้มตำไทยค่ะ”
            “หืม อย่างหลังนี่มายังไง”ถามยิ้ม ๆ
            “เห็นบ่นว่าอยากกินค่ะ แต่ไม่เผ็ดนะคะ...”
            “อืม....”
            “วันหลังกาวนอนแล้วให้รีบปิดทีวีเลยนะสุดา ปิดม่านแล้วก็ดูด้วยว่าเปิดเพลงจากโทรศัพท์ทิ้งไว้ไหม คราวหลังอย่าให้เปิดทิ้งไว้อีก”
            “ค่ะ”
            “ต่อไปนี้ไม่ต้องให้เดินขึ้นลงบันไดแล้ว เขาอยากได้อะไรบนห้องก็ให้คนขึ้นไปหยิบ”
            “ได้ค่ะ”
            “เดี๋ยวเรียกสมหมายมาคุยกับฉันหน่อยนะ ว่าจะย้ายคอกหมาไปไว้ข้างหลังโน่น...กั้นที่ใหญ่ ๆ แล้วทำรั้วหนาแน่นไปเลย ไม่ต้องให้กาวเดินผ่าน”
            “ตอนนี้เลยไหมคะ?
            “ก่อนอาหารเย็นก็ได้”ผมบอก
            “ค่ะได้ค่ะ สุดาจะบอกพี่หมายไว้”
            “มีอะไรก็ไปทำเถอะ”ผมบอก ทำให้อีกฝ่ายถอยร่นออกไปจากห้อง
            จุ๊บ.....หลับตาพริ้มเชียว สงสัยวันนี้คงกำลังฝันดีอยู่แน่ ๆ เวลานอนแบบนี้เหมือนเด็กตัวน้อยที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร คนตัวเล็กเอาแก้มแนบกับหมอน จนปากเผยอขึ้นเล็กน้อย ชวนให้มีความน่าเอ็นดูเพิ่มขึ้น ผมเอานิ้วเกลี่ยที่ข้างแก้มนั้นแผ่วเบา แก้มสีซีดไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
            “กาว...”กระซิบเสียงเบา
            “กาวครับ”
            “หืม”ตอบกลับมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ผมก้มลงไปใกล้ติ่งหูหลานตัวเองมากขึ้น
            “อารักกาวนะ”
            “อืม”
            “รักอาไหม”
            “หืม รักรึเปล่า?”ถามย้ำ
            “อือ”
            “หึหึ จุ๊บ ๆๆๆๆๆๆๆๆ”หอมแก้มติดกันหลายที จนเด็กดื้อเริ่มขยับตัว
            “อืออออออออ”ผลักหน้าผมหนีทันที เหมือนว่าจะตกใจเล็กน้อย ก่อนจะลืมตามองผมให้ชัดขึ้นอีกนิด
            “อาเสือ!!! กลับมาแล้วเหรอ?”ครางเสียงงัวเงีย
            “จุ๊บ กลับมาแล้วครับ”ผมร้องตอบ ก่อนจะตบหลังให้นอนหลับไปอีกงีบ แค่เห็นหน้าก็ผ่อนคลายหมดแล้วทุกอย่าง  กาวเพิ่งจะตื่นในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา
            “อยากนอนอย่างเดียวเลย ไม่รู้เป็นอะไร”เด็กดื้อหน้ามุ่ย
            “คนท้องก็แบบนี้ ต่อไปนี้นอนกลางวันเลย...ไม่ต้องออกไปเล่นซนที่ไหน”ผมบอก
            “พรุ่งนี้มีเรียนด้วย”
            “ให้อาไปด้วยไหม?”ผมรีบถาม ถ้ากาวอยากให้หยุดก็จะหยุดแล้วไปที่มหาลัยฯ เป็นเพื่อน หลานชายสุดที่รักส่ายหน้า
            “ไม่ต้องหรอก เพราะคงเรียนแค่ครึ่งวันละมั้ง?”ผมหัวเราะออกมา คนเรียนยังไม่แน่ใจตัวเองเลย
            “อาขนงานกลับมาทำที่บ้าน คงจะมีพนักงานเข้าออกบ่อย ๆ กาวอยู่แต่ห้องปีกนี้ไม่ต้องไปไหนนะ”
            “จริงเหรอ?”กาวร้องดีใจ ผมเลยจับยกขึ้นมานั่งที่ตักซะเลย ประคองไว้แน่น...กลัวกาวตก
            “อืม”
            “ขอบคุณ”
            “ขอบคุณครับสิ...”ผมแก้
            “จุ๊บ....ขอบคุณครับ”วันนี้กาวมีอะไรให้ประหลาดใจเสมอ ไม่งอแงร้องไห้โวยวาย พูดอะไรก็เหมือนจะเชื่อฟัง หวังว่าจะเป็นอย่างนี้ไปตลอด ถ้าแม่สุขภาพจิตดี...มันก็จะส่งผลไปที่ลูกด้วย
            “ว่าแต่...รูปกาวอยู่ไหน”คิ้วขมวดอีกแล้ว เจ้าตัวลงจากตักแล้วค้นหารูปบนที่นอน ไปเจอเอาใต้หมอน
            “ลูกกาว”โชว์อวดแม้กระทั่งผม
            “ลูกอาด้วย”ผมจับคางเชิดขึ้นมาจูบ
            “น่ารักไหม”
            “พ่อหล่อขนาดนี้....ลูกจะขนาดไหนนะ?”ผมอมยิ้ม ทำเอากาวเบะปาก
            “ลูกกาวก็ต้องเหมือนกาวสิ!
            “กาวก็น่ารักขนาดนี้...ลูกจะเพิ่มความน่ารักขนาดไหน”ต้องชิงชมก่อน ทำเอากาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
            “อาเสืออยากได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย?”เอียงคอถามแววตากระตือรือร้นเหมือนจะอยากได้คำตอบมาก
            “เพศไหนก็ได้...รักหมด”
            “อือ กาวก็เพศไหนก็ได้ แต่ไอ้บอลมันปากหมาบอกว่า...ตอนคลอดเป็นเพศหนึ่ง โตมาเป็นเพศหนึ่ง”
            “หึหึหึ...”
            “อาเสือคิดว่าอย่างนั้นรึเปล่า?”คำถามยาก...อาขอผ่านได้ไหม
            “ว่าไงละ คิดนานจัง?
            “ก็คงเป็นแบบนั้น!
            “ไม่เอา!!!! เกิดเป็นผู้หญิงก็ต้องเป็นผู้หญิงสิ!!!!!”ตบปากผมเบา ๆ
            “เป็นอะไรก็ได้...แค่เป็นคนที่ดูแลตัวเองได้ก็พอ”ผมบอก ทำเอากาวเงียบ....คงจะเห็นด้วย
            “กาวอยากได้ลูกผู้หญิง เอาทั้งสองคนเลยนะ...”
            “หึหึ กาวโคตรไม่เหมาะกับเด็กผู้หญิงเลย เล่นกับลูกแรง ๆ ไม่ได้นะ พาลูกไปเตะบอลก็ไม่ได้”
            “งั้นเอาผู้ชายก็ได้...”รีบเปลี่ยนทันที
            “หันมาให้อาจุ๊บหน่อย...จุ๊บ เอาไว้ค่อยลุ้นเดือนหน้า สำหรับอา...เพศไหนยังไงก็ได้ รับได้หมด”คนตรงหน้าหน้าแดงระเรื่อขึ้น ผมกระชับกอดคลอเคลียแก้มใส ตัวกาวหอมแป้งเด็กมาก เพราะท้องแบบนี้เลยไม่ได้ใช้น้ำหอม กลิ่นกายเด็ก ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย
            “ไอ้บอลบอกว่าจะส่งของมาให้ด้วย เมื่อไหร่จะมาถึงซักที...กาวอยากลุ้นเร็ว ๆ”
            “หืม?
            “ของขวัญน่ะสิ มันบอกว่าจะส่งมาให้วันนี้ แต่ของไอ้โรลมันบอกว่าติดไว้ตอนคลอด มันบอกต้องทำงานเก็บเงินก่อน”
            “ถ้าเพื่อนไม่มีเงินก็ไม่ต้องเอาหรอก อยากได้อะไร...อาจะซื้อให้เอง”
            “ของอาเสือได้เยอะแล้ว ถ้าได้ของไอ้โรลมานะ...ฟ้าถล่มทลายแน่ มันงกจะตาย”
            “พูดอย่างนี้แสดงว่าไม่อยากได้ของขวัญจากอา”
            “ไม่ใช่สักหน่อย”กาวพูดเสียงอ้อมแอ้ม
            “งั้น...ดื่มน้ำให้หมดแล้ว ของขวัญรอกาวเปิดอยู่นะครับ”
            “ห๋า!!! จริงเหรอ!?!?!”กาวทำเสียงตื่นเต้น ผมพยักหน้า...ยื่นแก้วน้ำให้ เจ้าตัวรีบกระดกดื่มโดยเร็ว เตรียมจะกระโดดจากเตียง
            “กาว!!! อย่าวิ่ง!!!!!
            “อุ้ย ลืม!”หันมาหัวเราะแก้เขิน
            “น่าตี!!!!”ผมส่งเสียงดุ ๆ ไป กาวแล่บลิ้นแล้วเดินเร็วคล้ายย่องเบา ออกไปหาของขวัญชิ้นที่ว่า
            ในห้องรับแขกมีกองของขวัญมากมายรอให้คนตรงหน้าแกะ กาวยืนหมุนตัวไปมาด้วยความตื่นเต้นดีใจสุดขีด!
            “นี่มันอะไรกันอาเสือ!?!?!?!?!!
            “หึหึ ของกาว...”
            “หมดนี่เลยเหรอ?
            “อืม”
            “อร๊ากกกกกกกกกก ชอบที่สุด!!!!”กาวกระโดดโผเข้ากอดผม แล้วจุ๊บปากสองสามที รีบรับกาวไว้ทั้งตัวเพราะกลัวจะได้รับอุบัติเหตุ ในความประมาทบ่อยครั้งของเจ้าตัว ปกติเวลากอดกันตัวเราสองคนจะแนบกันไปทั้งตัว แต่กาวกำลังมีน้อง ส่วนที่ยื่น ๆ ออกมาทำให้รู้สึกเก้ ๆ กัง ๆ อยู่มากทีเดียว
            “จะแกะก่อนกินข้าวหรือกินข้าวก่อนค่อยแกะ”เปิดโอกาสให้เลือก  
            “แกะเลยยยยยยยย!!!!”หึหึ ว่าละ...ผมเรียกหาอูกับสุดา ที่เพิ่งจะยกของว่างมาให้ ให้ช่วยกาวแกะของขวัญทีละชิ้น แต่เจ้าของขวัญตอนนี้เกิดอยากนับกล่องทั้งหมดเสียก่อน แล้วถ่ายรูปอัพโหลดลงเน็ตของตัวเอง
            “ยี่สิบเก้า สามสิบ สามสิบเอ็ด สามสิบสอง!!!!!!!
            “เยอะมากค่ะ”อูทำเสียงตื่นเต้นไปด้วย
            “โหหหหห สามสิบสองแน่ะ”กาวยิ้มกว้าง
            “แกะเลยสิ....อาจะได้รู้ว่าถูกใจไหม?
            “อยากแกะแค่กับอาเสือสองคน”คนท้องเอ่ยปากขึ้น
            “อ้าว!!!!!”สุดากับอูร้องออกมาพร้อมกัน ทำเอาผมและช่วงโชติที่เพิ่งเดินเข้ามาหัวเราะร่วน
            “คนท้องเขาไม่ให้กรรไกร ให้สุดาช่วยน่ะดีแล้ว”สุดาหลอกล่อ
            “จริงเหรอ?”หันมาถามผม ผมพยักหน้า
            “ก็ได้...”เป็นแบบนี้กาวน่ารักกว่าเดิมเยอะเลย ผมลูบผมของกาวเล่น สีหน้าใจจดใจจ่อกับของขวัญที่กำลังแกะ กล่องแล้วกล่องเล่า....เป็นตุ๊กตาและของที่กาวชอบทั้งนั้น
            “อันนี้น่ารักอ่ะ!!!!!”กาวอุ้มตุ๊กตาไว้ตรงท้อง
            “อะ โอ๊ย!!!!!”จู่ ๆ ก็ร้องออกมา ทำเอาผมตกใจ
            “เป็นอะไรกาว!”คนตัวเล็กทรุดตัวนั่งลง แล้วจับท้องตัวเอง สีหน้านิ่วมาก...ดูก็รู้ว่ากลั้นเจ็บอยู่
            “เค้าถีบ”
            “หึหึ...เขาไม่อยากให้อุ้มตุ๊กตามั้ง รออุ้มลูกดีกว่า”ผมบอกกาวก็รีบวางตุ๊กตาลง
            “โอ๊ยยย ยังไม่หยุดเลย กาวจะ จะ เจ็บ!!!”ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นวดให้อย่างเดียว
            “นั่งพักก่อนค่ะ หน้าท้องคุณกาวบางนิดเดียว เด็กดิ้นเลยรู้สึกได้กว่าคนหน้าท้องหนา ๆ ลองคุยกับเขาดูสิคะ”
            “คุยอะไร!?!?! กาวเจ็บไปหมดแล้ว!!!!!”กาวโวยวาย
            “จุ๊บ”ผมก้มลงไปจุ๊บหน้าท้อง ทำเอาเจ้าของร่างหน้าแดง...เพราะทำต่อหน้าสายตาหลายคู่
            “หายรึยัง?
            “อะ อืม”
            “เป็นเด็กดีนะครับ ไม่ถีบคุณแม่สิ!!!”ผมบอกกับลูก ทั้งที่คนอื่นยิ้ม...มีแต่กาวที่หันหน้าหนีไปทางอื่นแล้วหน้าแดง แดงไปจนถึงใบหูเลยทีเดียว ปล่อยให้กาวนั่งพักชั่วครู่ก็ถามต่อ
            “แกะต่อไหม?”ยื่นกล่องของขวัญให้
            “อืม”กาวก้มหน้าแกะแก้เขิน พอเปิดกล่องออกเจ้าตัวผงะนิ่ง ดวงตาเบิ่งกว้าง...แต่สีหน้าดีใจที่สุด
            “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!
            “หึหึหึ....ชอบไหม”
            “อาเสือ!!!!!!!!!!!!”กาวกระโดดกอดสุดกำลัง ของในกล่องที่แกะเป็นชุดนักบอลทีมที่กาวชอบ แบบครบฤดูกาล รวมถึงคอลเล็คชั่นใหม่ก่อนเปิดตัวด้วย รองเท้าและถุงเท้าเป็นเซ็ทอย่างดี ผ้าเชียร์ ข้อแขน ผ้าโพกหัว
            “ฮือออออ ๆ ๆ ๆ ๆ ครั้งที่แล้วขออาเสือยังไม่ให้เลย!!!! ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ”
            “ตอนนั้นกาวดื้ออาเลยยังไม่อยากซื้ออะไรให้ แต่ตอนนี้น่ารักขึ้นแล้ว”
            “ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แต่ซื้อมาตอนกาวใส่ลงสนามไม่ได้เนี่ยนะ!!!!
            “ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า เก็บไว้คลอดก่อนแล้วค่อยใส่ไปเล่นกับเพื่อน...”
            “อือ ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ”อ้าวเลยร้องซะเลย แต่ไม่นานก็เงียบและนั่งดูของในมือ
            “สุดาซักให้หน่อย เดี๋ยวกาวใส่เลย....ไม่ต้องรอไปที่สนามหรอก”
            “หึหึ...ใส่อยู่บ้านตอนกลางวันได้ แต่ห้ามใส่เชียร์บอลคืนนี้!!! อารู้นะ...ว่าสโมสรนี้จะแข่งตอนตีสอง ห้ามตื่นมาดูเด็ดขาด!!!!
            “ทำไมละ!?!
            “เพราะในนี้มีสอง ไม่ได้มีแค่หนึ่ง!!!!!”ชี้ไปที่พุง เหตุผลนี้ใช้ได้ผลแฮะ กาวพยักหน้าเข้าใจโดยทันที
            “ก็ได้...ค่อยดูคลิปตอนเช้า”
            “อืม”ผมพยักหน้ารับ
            “แกะเร็ว อาหิวข้าวแล้ว”
            “งั้นกินก่อนค่อยมาแกะต่อ”ผมยิ้มกว้าง ปกติต้องดื้อดึงจะให้เสร็จ สงสัยเพราะหิวอยู่เหมือนกัน จูงมือกาวเข้าห้องอาหาร ที่วันนี้มีอาหารเต็มโต๊ะเหมือนเคย กาวกินเก่งขึ้นมาก...และพูดมากมากว่าเดิมหลายเท่า ผมได้แต่นั่งเงียบคอยรับฟังเพียงเท่านั้น ขนาดนั่งฟังและหัวเราะตาม เจ้าตัวเหมือนจะไม่ค่อยพอใจขึ้นมาแล้ว
            “ทำไมเงียบไปละ อายังไม่รู้เลยตกลงใครชนะ”
            “ไม่เล่าแล้ว เพราะเล่าไปอาเสือก็ไม่พูดอะไรอยู่ดี”
            “อ้าว!
            “เพิ่มข้าวได้ไหม...ไม่อิ่มเลย”สุดากับคนอื่นออกไปแล้ว ผมเลยคว้าโถข้าวมาตั้งให้เอง
            “โอ๊ะ....วันนี้กินกันหมดโถเลยแฮะ”ผมแซว
            “กาวไม่อิ่ม”พูดเสียงเบา เหมือนกลัวจะโดนล้อถ้าอ้วนขึ้น ผมจับมือไว้ลูบน้อย ๆ
            “ไม่เป็นไร...กินเยอะสิดี อาชอบ”
            “อืม”
            “อย่าทำหน้ากังวลแบบนั้น กาวกินเยอะ...ลูกก็ได้กินเยอะไปด้วย ไม่ดีเหรอ...ตั้งสองคนเชียวนะ”
            “อือ”
            “พรุ่งนี้อยากกินอะไรบอกอาไว้เลย จะได้เตรียมอาหารกันแต่เช้า”
            “เอาไว้จะบอกคืนนี้”
            “โอเค”หลังจากอาหารเย็น มีของขวัญชิ้นพิเศษจากบอลมาส่ง ผมเดินยิ้มเข้ามาดูด้วย เป็นที่นอนรูปสัตว์ขนาดใหญ่ คงไม่มีปัญหาถ้ากาวจะไม่ลากขึ้นเตียงด้วย
            “ใหญ่พอ ๆ กับเตียงเลย เอาไปไว้ห้องนั่งเล่นเถอะ”
            “ทำไมต้องไว้ในห้องนั่งเล่น นี่มันของขวัญกาวนะ จะเอาไว้ตรงไหนก็เรื่องของกาว”
            “แล้วตรงไหนดีละเตียงนี่เหรอ!?! กาวดึงดันจะเอาไว้บนนี้แล้วจะนอนกันยังไงอาละจะนอนตรงส่วนไหน?”ผมว่าจะไม่พูดแบบมีอารมณ์แล้วนะ แต่มันอดไม่ได้จริง ๆ
            “ก็มันนิ่มดีนี่!
            “เอาไปไว้ในห้องรับแขกกาวจะได้นอนดูทีวีตอนกลางวัน ไม่ดีกว่าหรือไง?”ผมเสนอทางออก
            “อืม ก็ได้...”
            “สุดายกไปที”ผมรีบบอก กลัวกาวจะเปลี่ยนใจ วันนี้กาวคงเหนื่อยนอนแต่หัวค่ำ ผมพากาวเข้านอนได้ยินว่าคนท้องบ่นปวดตัว เลยนวดให้ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน จับ ๆ บีบ ๆ ไปตามเรื่องจนกระทั่งกาวหลับไป ถึงได้ออกมานั่งทำงานข้างนอก
            เสียงคนร้องไห้ผมลืมตาขึ้นในความมืด นอนฟังอยู่สองสามวินาทีถึงรู้สึกว่าเสียงคนร้องไห้ไม่ผิดแน่ ขยับตัวคว้ามือออกไป กะจะดึงกาวเข้ามากอด แต่ที่นอนว่างเปล่า
            รอชั่วครู่สายตาปรับการใช้งานในความมืดได้ เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคย นั่งหมิ่นอยู่ขอบเตียงและร้องไห้สะอื้นเสียงเบา (อย่างนั้นก็ยังได้ยิน)
            “กาว? เป็นอะไร”ผมเรียก ทำเอากาวตกใจหยุดร้อง...
            “เป็นอะไร?”ผมลุกขึ้นถามย้ำอีก...แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา



ขอบคุณที่คอมเม้นค่ะ ชินรู้ว่ายังเขียนได้ดีไม่พอ


แต่ก็จะพยายามทำให้ดีกว่าเดิม


ไม่เคยต้องการความเห็นจากคนที่ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาอ่านเลย


ชินเคารพทุกความเห็น และไม่เคยบอกใครว่าไม่มีสิทธิ์วิจารณ์นิยายที่ชินเขียน




คนทำอาหารไม่เป็นก็ยังมีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์อาหารที่แม่ครัวทำ


ชินคิดแบบนี้เสมอ


ร้ายหรือดีสุดท้ายแล้วก็ยังเลือกที่จะเขียนต่อไป



ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ






COMMENT PLEASE

3 ความคิดเห็น:

  1. กาวร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้น อ้ากกกก
    เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ

    ตอบลบ
  2. แต่ความปลอดภัย น่าจะเป็นแค่ความปลอดภัย. บรรทัดต่อมามี มม ติดกัน 2 ตัวเยิ้ลอ่ะ

    ตอบลบ