วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตอนที่ 50



ตอนที่ 50
            เป็นเช้าที่สายกว่าทุกวัน ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาโดยลืมไปว่าตัวเองไม่ได้นอนกับลูก ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาด้านล่างทันที เดินผ่านห้องอาหารอาโชติก็รั้งไว้บอกว่าให้ทานอาหารซะก่อน จะขัดขืนคงไม่เป็นผลเมื่อกลิ่นอาหารมันโชยแตะจมูก จะรีบกินก่อนก็ได้...
            “แฝดตื่นแล้วเหรอสุดา?”ถามสุดา
            “ค่ะ คุณท่านพาตื่นแต่เช้า”คำว่าพาตื่นแต่เช้านี่หมายถึงอาเสือปลุกลูกรึเปล่า!??! แล้วไม่ร้องกันหรือไง??
            “แล้วไม่ร้องไห้กันหรือไง”
            “ร้องค่ะ”
            “เห็นไหม!!!”ผมรีบพูด
            “แต่...นิดเดียว แค่ตอนตื่นค่ะตอนนี้อาบน้ำแต่งตัวกันอยู่”
            “อาเสือทำให้เหรอ”ถามอย่างไม่น่าเชื่อ
            “ก็จะใครซะอีกละคะ รีบทานอาหารเข้าเถอะค่ะ...ได้ยินว่าวันนี้คุณท่านจะพาเด็ก ๆ ไปข้างนอกกันด้วย”
            “อาเสือไม่เห็นบอก!”ผมพูดอย่างน้อยใจเล็ก ๆ แต่ยอมนั่งทานอาหารโดยไม่กล้าอาละวาดอีก แค่เมื่อวานที่ไม่ได้นอนกับแฝดก็ยังเสียใจไม่หาย วันนี้ป้านิดทำผัดผักใส่หมูหมัก น้ำข้นจนอยากจะให้ผัดเส้นใหญ่กินเป็นราดหน้าเหลือเกิน บอกป้าแกที่เดินผ่านมาป้าแกเลยขอยกเป็นมื้อกลางวันแทน ส่วนผลไม้ที่ปลอกวางไว้เป็นแก้วมังกร ผมทานไปแค่สองชิ้น เพราะอยากกินบัตเตอร์เค้กที่วางอยู่ในถาดตรงหน้ามากกว่า
            “ทำไมมีชิ้นเดียวละ”ผมถาม สุดามองแล้วทำท่าเข้าใจทันที
            “เมื่อเช้าคุณท่านแกะทานไปชิ้นนึงค่ะ”
            “จึ้กวันนี้อาเสือเป็นอะไรนะ จะแย่งงานกาวทุกอย่างเลย!”หงุดหงิดเล็ก ๆ มื้ออาหารนี้กระซิบถามสุดาถึงนมที่แช่ช่องฟรีสเอาไว้ ดูเหมือนมันลงน้อยลงมากและน้ำนมผมเริ่มจะหมดปั๊มยังไงก็ปั๊มไม่ออก
            “คงต้องกินนมผงแล้ว”ผมพูดเบา ๆ
            “มีนมผงของ xxx ที่จัดมาเป็นของขวัญให้ จะลองให้น้องแฝดทานไหมคะ”
            “อืม จริงด้วย งั้นสุดาช่วยเอามาให้กาวดูหน่อยละกัน”เอาไว้ค่อยโทรไปถามทามว่าจะเปลี่ยนนมนี่ยังไง เปลี่ยนได้เลยหรือต้องผสมอะไรก่อน
            เดินหลบมุมเข้ามาแอบมองแฝดที่กำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจได้เล่นกับปะป๊าเค้า แปบเดียวก็คุ้นกันเหมือนเดิมแล้ว
            “จ๊ะเอ๋!!!”ผมเล่นบ้าง โผล่หัวเข้าไประหว่างที่ทั้งสามคนเล่นกันอยู่แล้วหลบตรงมุม เอามือป้องหน้าตัวเองไว้เพื่อดูว่าแฝดจะจำตัวเองได้รึเปล่า วันนี้กลิ่นสีผมจางลงมากแล้ว เมื่อเช้าก็ยังสระผมไปตั้งสามครั้ง
            “อุ๊ย เสียงใครนะ?”อาเสือมองหน้าลูกแล้วยิ้ม เด็ก ๆ ก็ยิ้มให้
            “คิคิคิ”สกายเริ่มหัวเราะออกมา
            “จ๊ะเอ๋!!!!”เล่นอีกที คราวนี้เด็ก ๆ หันมามองอย่างสนใจ
            “เสียงใครกันนะ ใช่มะม๊าของแฝดรึเปล่า”อาเสือหยอก ผมเดินปิดหน้าเข้ามาทำเอาแฝดหัวเราะดิ้นกันใหญ่ เสียงหัวเราะของเราดังลั่นไปจนถึงห้องข้างนอก
            “จ๊ะเอ๋”ผมเปิดหน้าตัวเองออก แฝดก็หัวเราะยื่นมือจะให้อุ้มกันใหญ่ เลยอุ้มมาฟัดด้วยความคิดถึงทีละคน
            “โอ๊ยย ซบกันด้วย”เจ้าเกลเหมือนจะรู้ว่าผมหายไปหนึ่งคืน กอดนิ่งทำตัวอ้อนแบบนี้จะไปไหนได้ละ ผมยิ้มให้อาเสือเหมือนได้รับชัยชนะที่เหนือกว่า ทำเอาอาเสือหัวเราะออกมา ส่วนสกายอยากให้อุ้มบ้างเลยต้องประคองกันไว้ เด็กสองคนทำคะแนนผลัดกันซบผมไม่ยอมให้ปล่อยวาง
            “มีกลิ่นสีผมอยู่ไหม”ถามอาเสือระหว่างที่เด็ก ๆ กอดแบบนี้ อาเสือลุกขึ้นมาดมฟุดฟิดแล้วเลยมาจุ๊บแก้มเย็น ๆ ของผม
            “มีกลิ่นยาสระผม”
            “กาวกลัวว่าเด็ก ๆ จะได้กลิ่นไม่หอมเลยสระไปตั้งหลายครั้ง ขอโทษน้า...จะไม่ทำอีกแล้ว”ผมบอกสองคนในอ้อมกอด รู้สึกผิดต่อแฝดมาก ๆ
            “ดีนะมันไม่ออกสีมาก ไม่งั้นอาคงไม่ยอมด้วยอีกคน”อาเสือเอามือปัดผมให้เข้าที่
            “เอาไว้แฝดโตเรามาทำด้วยกันนะ”พูดกระซิบให้ลูกฟังแต่อาเสือได้ยิน ถึงกับตีปากผม
            “เจ็บนะ!”ผมตะคอกแต่ก็เกือบเท่ากระซิบ สายตานี่จิกอาเสือเต็มที่
            “ไม่ต้องหาเรื่องอีกถ้าทำนิสัยไม่ดีอาจะจับจัดการทั้งสามคนเลย!
            “จะตีกาวอีกเหรอ”
            “ตีแน่ถ้าทำไม่ดี อาไม่ตามใจกาวแบบผิด ๆ อีกต่อไปแล้วนะ เรื่องไหนอายอมก็อาก็ยอมให้สุด ๆ แต่เรื่องไหนอาขอ กาวต้องฟังอาบ้าง”อาเสือบ่นยาว
            “กาวพูดเล่นเฉย ๆ”ยิ้มหวานให้อาเสือ
            “เหรออออ”คนตรงหน้าทำหน้าไม่เชื่อ ก่อนจะยื่นหน้ามาจูบ
            “แล้วนี่เป็นอะไรกันเนี่ย เมื่อกี้ยังหัวเราะกันอยู่พอมะม๊ามากลายเป็นออเซาะกันซะงั้นนะครับ”อาพยายามจะดึงแฝดไปอุ้ม แต่เด็กสองคนมือเหนียวกำเสื้อผมเฉยเลย ปฏิกิริยาทีเกิดขึ้นมันทำให้เกิดความรู้สึกแปลก ๆ ในหัวใจ เหมือนว่าความรู้สึกของผมได้รับการใส่ใจจากเด็กทั้งสอง รู้สึกตื้นตันจนหุบยิ้มไม่ได้
            “ไปทานข้าวกันได้แล้วครับ”อาเสือบอก
            “อาทานหรือยัง”ผมรีบถาม เพราะนึกขึ้นได้ว่าถ้าอาเสือตื่นมาทำคนเดียวคงจะยังไม่ได้ทาน
            “อาดื่มกาแฟไปแล้วครับ”
            “อ่อ มิน่าถึงกินบัตเตอร์เค้กกาวไป”อดทวงไม่ได้ ก็คนมันขี้หวงนี่ อาเสือบิดจมูกผมไปมาหยอกล้อ
            “อากินแค่ชิ้นเดียวเอง...คนขี้หวง ถ้าลูกโตแล้วขอกินจะให้กินไหมเนี่ย”
            “ก็ต้องให้สิ อาเสือนี่พูดตลก”สายตาอบอุ่นส่งผ่านจากคนตรงหน้า ผมตบหลังคนตัวเล็กสองคนเบา ๆ พร้อมโยกตัวไปด้วยเล็กน้อย สร้างความอบอุ่น
            “ลูกให้ไม่บ่นสินะ”แววตากลั่นแกล้งทำให้ผมต้องอมยิ้มและพยักหน้าอย่างขี้เล่น
            “ถ้าไม่อยากให้กาวหวง อาก็ต้องซื้อมาเก็บไว้ให้กาวเยอะ ๆ”ผมบอก
            “หึหึหึ อาก็ให้คนซื้อมาใส่ตู้ไว้ไม่เคยขาดไม่ใช่หรือไง”
            “ก็ใช่ แต่เวลาไอ้บอลมามันชอบหยิบไปกินแถมเอากลับบ้านด้วย”
            “กาวก็ห้ามสิครับ”
            “ห้ามได้ที่ไหน มันหน้าด้านจะตาย”อาเสือหัวเราะ
            “วันนี้อาหยุดกาวอยากให้อาทำอะไรรึเปล่า”มือหนาลูบหัวลูก ๆ ความอบอุ่นมันแผ่มาถึงผมจนรู้สึกได้ ผมใช้เวลาคิดไม่นานอาจเพราะรอวันหยุดอาเสืออยู่ก่อนแล้ว
            “อยากไปเที่ยวข้างนอก”ผมรีบบอกหน้าตาชื่นบาน อาเสือหัวเราะ
            “เอาสิ อยากจะไปไหนทำอะไรวันนี้อาจะตามใจทุกอย่าง”
            “เย้ ๆ ๆ”ผมร้องดีใจ แฝดคิดว่าเล่นด้วยหัวเราะก๊ากกันออกมา คนตัวเล็กดีดดิ้นเมื่อถูกหยอกล้อ อาเสือรับเกลไปอุ้มต่อ และอาโชติก็ยกของขวัญเข้ามาวางไว้ในห้อง
            “นี่ของลูกเหรอ”ผมร้องด้วยความตื่นเต้นสุด ๆ เป็นกล่องขนาดใหญ่สองใบ โดยมีอาโชติ สุดา พี่อู ช่วยกันยกเข้ามา อาเสือหันมายิ้มและยักคิ้วให้เท่ห์ชะมัด
            “กาวแกะได้เลยไหม”
            “เอาสิ”สิ้นคำผมอุ้มกายขึ้นเพื่อไปนั่งตักปะป๊าอีกคน แล้วเดินมาแกะของขวัญ
            “เกล ดู ๆ ๆๆ”เรียกร้องความสนใจจากลูก ผมแกะกระดาษห่อมันออก พอเด็กสองคนได้ยินเสียงก๊อบแก๊บของกระดาษ ก็เกิดความสนใจจ้องตาไม่กระพริบ
            “โอ๊ะ!?”พอจะรู้แล้วเป็นอะไร ผมรีบแกะมันออกแล้วอาโชติก็ช่วยดึงออกมา
            “ระวังมันมีแม็กคมนะครับ”อาโชติร้องบอกแต่ไม่ทัน โดนข่วนเข้าที่แขนเกือบถึงศอกไม่ยาวแต่ก็มีเลือดไหลซึมออกมา
            “เจ็บ”ผมทำหน้านิ่ว
            “ไม่ระวังเลย!!!!!”อาเสือดุ
            “กาวไม่ทันเห็นนี่นา”
            “มันก็ควรต้องระวังไว้ก่อน อาเคยบอกหลายครั้งแล้วของแบบนี้เวลาแกะแพ็คต้องดูดี ๆ”บ่นอีกแล้ว สุดาวิ่งออกไปเอากล่องยาสามัญมาทำแผลให้
            “ก็กาวไม่เห็นนี่!”แก้ตัวอีก อาเสือถอนหายใจแล้วก้มมองเด็กแฝด
            “ให้สุดาทำแผลให้ไวเลยครับ”ผมไม่เถียงอะไรต่อ วางของให้อาโชติดึงมันออกมาวางและเดินออกมานอกห้องเพื่อให้สุดาก็ช่วยทำแผล
            “เจ็บไหมคะ น่าจะระวังตัวหน่อย”
            “กาวมองไม่เห็นตรงนั้น ซี้ดดดดด โอ๊ยยยย”
            “เจ็บเหรอคะ”
            “มันแสบ ๆ”ระหว่างนั้นอาเสือเดินออกมาดู
            “เข้าลึกไหม”ถามเสียงนิ่งจนน่ากลัว สุดาตัวลีบไปเรียบร้อยแล้ว
            “ไม่ลึกค่ะ”
            “ซี้ดดดด”ผมร้องเสียงเบา พับข้อแขนเพื่อมองแผลตัวเอง อาเสือเดินเข้ามาจับและมองอย่างพิจารณา
            “สุดาเอากล่องไปเก็บก่อนนะคะ”รีบชิ่งเลย!
            “เจ็บไหม”อาเสือถามหน้ายังนิ่ง
            “นิดหน่อย”
            “อาห่วงกาวมากรู้ไหม ไม่ชอบใจเลยที่เห็นกาวเป็นแผลอีก”
            “กาวเจ็บตัวมาเยอะแค่นี้ไม่เป็นหรอกน่า”จะปลอบกลายเป็นสร้างความไม่พอใจให้อาเสือเข้าไปอีก
            “เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน แต่ตอนนี้กาวเป็นแม่คนแล้ว...ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น”
            “................................”กัดปากตัวเอง เมื่ออธิบายไปแล้วอาเสือยังบ่นก็เริ่มทำให้ผมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง
            “อธิบายไปแล้วทำไมไม่ฟัง?”ทำเสียงนิ่งใส่ ทำเอาอาเสือนิ่งและจ้องหน้าบ้าง
            “อาเป็นห่วงกาวนะ”
            “กาวก็รู้ กาวก็บอกไปแล้วไงว่ามันเป็นอุบัติเหตุทำไมอาเสือถึงต่อว่ากาวซ้ำซาก”สิ่งเล็ก ๆ ที่ก่อให้เกิดความหงุดหงิดใส่กัน พูดออกไปแล้วผมก็เสียใจด้วยตั้งใจมาตลอดตั้งแต่ท้องแฝดกว่าจะใจเย็นขึ้น อาเสือมากวนอารมณ์แท้ ๆ ทำให้แสดงนิสัยเดิมออกมา ผมกัดปากน้ำตาคลอ
            “ชู่ววววว”
            “ฮึก กาวก็บอกว่ากาวไม่ได้ตั้งใจ ฟังไม่เข้าใจเหรอทำไมต้องมาบีบคั้นให้กาวรู้สึกแย่ด้วย ไอ้อาเสือบ้า!!!”แขนหนารัดกึงรวบกอดผมไว้ ผมดิ้นแต่ไม่หลุดกลายเป็นซบบ่าอาร้องไห้
            “สัญญากับอานะว่าจะระวังตัวมากกว่านี้”
            “อืม”
            “ครับสิพูดไม่เพราะเลยนะ...”
            “ครับ!”ผมหันไปกัดแก้มอาเสือ จนคนตัวโตสะดุ้ง
            “เป็นคุณแม่แล้ว...ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ไม่งั้นอาจะวางใจให้กาวดูลูกได้ยังไง”
            “กาวดูแลเค้าดีที่สุดอยู่แล้ว”อาเสือยิ้มอบอุ่นคอยเช็ดน้ำตาที่เปื้อนออกให้ เราสองคนเดินกลับเข้ามาให้ห้องเด็กแฝดก็นั่งอยู่เก้าอี้โยกเรียบร้อย
            “ขำกันใหญ่”เข้าไปกอดเด็ก ๆ เอาไว้ ท่าทางจะชอบเพราะมีของเล่นติดมาด้วยเสียงกรุ๊งกริ๊ง วันนี้ดีหน่อยไม่งอแงผมเลยมีเวลาจัดเตรียมของใช้ลงตะกร้า อยากพาแฝดไปน้องจีนที่ระยอง เพราะไม่ได้เตรียมตัวตั้งแต่เมื่อวานวันนี้เลยฉุกละหุกอยู่เล็กน้อย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
            อาเสือเป็นคนขับรถและผมก็นั่งข้างหลังกับแฝด
            “โทรศัพท์อยู่ไหน กาวจะโทรถามว่าทามอยากได้อะไรรึเปล่า”
            “นี่ครับ”อาเสือยื่นมาให้ ผมได้ทีเลื่อนหาดูสิ่งผิดปกติทันที อาเสือมองกระจกหลังมาก็ไม่สนใจยังคงกดดูที่ตัวเองอยากดู มีรูปแฝดกับผมเยอะแยะเลยไปถ่ายตอนไหนเนี่ยผมยิ้มออกมา
            “คนนี้หล่อจัง”ผมพูดขึ้นเมื่อเลื่อนไปเจอชายหนุ่มสุดเท่ห์อย่างกับนายแบบ เครื่องแต่งตัวที่เขาใส่บอกให้รู้ว่ามีรสนิยมดีไม่เบา อาเสือผมกระจกหลังอีกครั้งหลังจากที่ผมหันโทรศัพท์ให้ดู
            “อาราม คนที่ซื้อของฝากกาวบ่อย ๆ”
            “อ๋อ คนนี้เหรอ...”อาเสือเคยพูดถึงอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เคยเจอกันสักครั้งอาบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทที่ทำงานมาด้วยกันตั้งแต่เริ่มธุรกิจใหม่ ๆ น่าแปลกที่เขาไม่เคยมาบ้านมาเยี่ยมแม้กระทั่งตอนมีน้อง
            “จะโทรก็โทรสิครับ”
            “กาวสงสัย...ทำไมอารามไม่เคยมาหาอาเสือที่บ้านละ”
            “แล้วทำไมมันต้องมา”อาเสือหัวเราะคล้ายไม่ใส่ใจ
            “ก็ไม่รู้สิ เป็นเพื่อนกันก็ควรต้องมาเยี่ยมกันบ้างไม่ใช่หรือไง”
            “กาวคิดว่ายังงั้นเหรอ”
            “อืม”รอคำตอบอย่างใจจดจ่อ
            “เพราะอาหวงกาวละมั้ง”อาเสือพูดเป็นเล่น!
            “ชิส์!”ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ แม้ไม่ได้คำตอบจริง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ขุ่นข้องหมองใจแต่อย่างใด กดโทรศัพท์โทรหาทามเพื่อถามว่าอยากให้ซื้ออะไรเข้าไปให้บ้าง ทามเป็นเด็กขี้เกรงใจสุด ๆ บอกแต่เพียงว่าตามใจผมและแนะนำตลาดที่มีของถูกขาย ทำเอาผมหัวเราะก่อนวางสาย
            “ทามบอกให้ไปที่ตลาดด้วยละ”
            “งั้นเราตรงไปซื้อของก่อนแล้วกันนะ”อาเสือบอกและผมก็เห็นด้วย วันนี้เด็กแฝดจะได้เดินตลาดกันแล้ว มองเด็กสองคนที่หลับตาพริ้ม โดนจับแต่งตัวเป็นชุดเอี๊ยมกระต่ายสีชมพูกับสีส้มแถมผ้าห่มก็ยังเป็นสีฟ้าซะอีก วัยแบบนี้จะทำอะไรก็น่ารัก
            ผมนั่งดูโทรศัพท์อาเสือไม่ได้ตั้งใจจับผิดแต่ก็ไปสะดุดเอาผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างดีตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ่ายคู่กันกับอาเสือเหมือนจะออกงานอะไรสักอย่าง ซึ่งผมไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน
            “ผู้หญิงคนนี้ใครกัน?”ชะโงกหน้าไปถาม
            “อ่อ”
            “ใครเหรอ”
            “อาไม่บอกหรอกเพราะว่าหม่าม๊าของแฝดพูดไม่เพราะ”เล่นตัว!!
            “ใครกันเหรอฮะ”
            “หึหึหึ เป็นภรรยาของผู้ชายที่ใส่สูทอีกรูปนึงน่ะ”ผมรีบเลื่อนไปดู เห็นมีรูปถ่ายอีก
            “แล้วไป”เอนหลังตามเดิม
            “หึหึหึ ถ้าอาไม่มีคำตอบกาวคงจะไม่ยอมง่าย ๆ แบบนี้ใช่ไหม”
            “แน่นอนสิ กาวเป็นแบบนี้เพราะกาวใส่ใจ อาเสือจะไม่ชอบก็ได้...แต่ถ้ากาวไม่สนใจอาเสือเมื่อไหร่ อานั่นละจะหนาว”ผมพูดยาวแกมขู่ไปด้วยนิดนึง คึคึคึ
            “ฮ่าฮ่าฮ่า อาควรจะชอบใจใช่ไหม”
            “อืม”ผมหัวเราะออกมาอีกครั้ง เหมือนว่าเสียงของเราสองคนจะทำให้สกายร้องแง ๆ ออกมา แต่อีกฝั่งยังหลับเงียบ ผมค่อยปลอบให้หยุดร้องแต่ก็ยังไม่หยุดเลยต้องจับยกออกมาอุ้มบนตัก
            “แงงงงงง แงงงงงงง แงงงงงงง”
            “น้องกายร้องไห้ทำไมครับ ชู่ววววว”สงสัยจะหิวนม ผมแกะกระดุมเสื้อตัวเองออกแล้วให้สกายดูดน้ำนม ทันทีที่ปากเล็กแตะโดนก็ดูดกินใหญ่ ไม่นานเกลก็ตื่นและบอกให้รู้ว่ากำลังหิวอีกคน 
            “แปบนึงนะครับเกล กินพร้อมกันไม่ได้นะรอก่อน ๆ”ผมร้องบอก กายยังไม่หยุดแต่ก็ต้องเอาไปวางบนเบาะนอน เปลี่ยนสลับกันให้เกลมากินนมบ้าง ผมเอาผ้าชุบน้ำอุ่นและซับทำความสะอาดก่อนจะให้เกลดูด
            “ชู่ววววววว”การเลี้ยงลูกน้อยพร้อมกันสองคนบนรถ สร้างความวุ่นวายให้ผมมากทีเดียว ถึงตลาดอาเสือลงไปซื้อของคนเดียวแล้วรีบไปบ้านอาฐาทันที แฝดเริ่มงอแงมากขึ้นกว่าเดิม
           
            บ้านหลังนี้ของอาฐาไม่ได้อยู่บนเกาะเพราะฉะนั้นเราจึงไม่ต้องข้ามฝั่งไป ถึงอยากไปก็คงไปไม่ได้เพราะแฝดเล็กเกินกว่าจะให้นั่งเรือ น้องจีนวิ่งมาหาทันทีที่เห็นรถคงจะรออยู่ก่อนแล้วแน่ ๆ ทามกับอาฐาเดินตามออกมาติด ๆ
            “สวัสดีคร๊าบบบบบ”น้องจีนยิ้มร่า เพิ่งเห็นว่าตัดผมหน้าม้าเพิ่งความหวานของใบหน้าตุ๊กตามากเข้าไปอีก อาเสือลงจากรถแล้วอุ้มน้องจีน
            “สวัสดีครับ”
            “เหนื่อยไหมฮะ”ทามร้องถาม
            “งอแงมาระหว่างทางเกือบต้องแวะพักแน่ะ”ผมยิ้มให้ ทามชะโงกหน้าเข้าไปดูแฝด
            “โอ๊ยยยย ตัวโตกว่าเดิมเยอะเลยนะฮะ”
            “กินเก่งอย่างกับอะไรดี”ผมเอ่ยยิ้ม ๆ
            “เข้าบ้านเถอะฮะ น้องจะได้นอนกลิ้งสบาย”
            “น้องจีนอยากอุ้มน้อง”
            “หืม ไม่ได้นะครับน้องตัวเล็กอยู่”ช่วยกันขนของเข้าบ้าน น้องจีนเกาะติดหนึบไม่ยอมห่างน้องทั้งสองคนเลย เป็นภาพที่น่ารักมาก ๆ สงสัยจะอยากมีน้องละมั้ง
            “น้องจีนอย่าไปใกล้น้องมากสิครับ น้องยังนอนอยู่เลยนะ”ทามเตือนด้วยนุ่ม น้องจีนยิ้มหวานและขยับถอยห่างออกมาเพียงเล็กน้อย เด็กแฝดนอนไม่นานก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เจอหน้าพี่จีนก็ยิ้มทั้งคู่ผมเลยสบายเพราะมีคนช่วยดูเด็กสองคนอย่างขยันขันแข็ง
            “ท่าทางจะเหงามาก”อาเสือพูดขึ้น มองดูน้องจีนกำลังเล่นกับน้องสองคน มันน่ารักตอนที่น้องแทนตัวเองว่าพี่ แล้วแฝดก็มองดูพี่จีนอย่างสนใจไม่ละสายตากันเลย
            “อ้อนขอมีน้องทุกวัน”อาฐาบอก
            “ก็มีสิฮะ”
            “หึหึหึ ง่ายแบบอาเสือของกาวก็ดีสิ อาจะได้ไม่ต้องคิดมาก”
            ผมเดินมาช่วยทามล้างผลไม้ใส่ตะกร้า ยิ่งเห็นยิ่งชอบที่เห็นทามทำโน่นทำนี่เพราะมันเพลินดี แอบสังเกตไว้ไปบริการเด็กแฝดด้วย ผมเลื่อนตะกร้าให้ทามใส่
            “ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ไหมฐา จะได้อยู่ใกล้ ๆ กัน”
            “คิดอยู่นะ บางทีอาจจะให้เข้าเรียนที่โน่น”
            “อืม ไปอยู่นั่นถ้านึกเบื่อยังไปมาหากันได้ง่าย น้องจีนจะได้มีเพื่อนด้วย”
            “ไอ้พุทมันจะบินกลับมาสิ้นเดือนแล้ว คงจะมีอะไรให้คุยกันเยอะแยะ”
            “จริงเหรอว่ะ”
            “อืม มันติดต่อติณฑ์มา...เดี๋ยวให้น้องจีนไปอ้อนขอบ้านมันดีกว่า ไม่รู้มันจะเปลี่ยนใจไปแล้วหรือยัง”
            “เอาดิว่ะ นัดเจอกันไหมนาน ๆ เจอกันที”
            “คงได้เจอแหละ เห็นว่าจะบินกลับมาเตรียมงานแล้วก็เรื่องบ้านใหม่มัน”
            “จะกลับมาแต่งงานที่นี่ว่างั้นเถอะ”อาเสือถาม
            “ใช่ ถ้ามันคิดจะขายให้ก็คงดีติดบ้านเลม่อนด้วย ยังไงก็ข้ามรั้วไปเล่นกับเลม่อนได้อยู่แล้ว”
            “บอกน้องจีนไปหรือยัง”อาเสือหันไปมอง น้องจีนกำลังเล่นของเล่นให้แฝดดู
            “ยังเลย กลัวถ้ามันเกิดไม่ขายมาแล้วน้องจีนจะเสียใจ”คำตอบนั้นทำให้ผมหันไปมองหน้าน้องจีน เด็กน้อยเหมือนไม่ค่อยมีเพื่อนจริง ๆ อย่างว่า ถึงได้ดี๊ด๊าเวลาเห็นแฝดขนาดนี้ ทามกับอาฐาคงเป็นกังวลถึงขนาดหาทางออกเตรียมไว้ ผมเริ่มซึมซับความทุ่มเทอะไรบางอย่างที่สองคนนี้มีเข้าทีละน้อย
            คนเป็นพ่อเป็นแม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก แม้จะเป็นเรื่องไม่สำคัญสำหรับคนอื่นเลยก็ตาม
           
            “น้องจีนทานผลไม้ครับ”ผมถือไปให้นั่งทานตรงหน้าแฝด อุ้มสเกลขึ้นมานั่งตักเล่น
            “น้องน่ารักไหมครับ”
            “น่ารักครับ น้องจีนให้น้องกินแอปเปิ้ลได้รึเปล่า”ถามเสียงอ่อน ผมส่ายหน้า
            “น้องยังเล็กอยู่ยังกินไม่ได้นะ”
            “แอ๊ ๆ ๆ ๆ ๆ”สกายส่งเสียงร้องเหมือนต้องการอะไรสักอย่าง ผมหัวเราะ
            “อุ้มไม่ได้เลยน้องกาย หม่าม๊าอุ้มได้ทีละคน”ผมคุยกับสกาย น้องจีนวางผลไม้ในมือแล้วเกาะเข่า
            “น้องจีนอุ้มได้”
            “หืม”
            “ขอน้องจีนอุ้มได้ไหมครับ”น้องจีนอ้อน โอ๊ยน่ารักมากเถอะ...ผมเองก็ยิ้มตามไปด้วย ดีที่คนอื่น ๆ เดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ นี่แล้ว อาฐาส่งเสียงเล่นกับสกายให้คุ้นก่อนจะจับอุ้มด้วยความเอ็นดู น้องจีนรีบเข้าประกบคุณป๊าขอหอมแก้มตุ้ยนุ้ยของน้อง
            “อยากอุ้มไหม”อาฐากระซิบ
            “อยากครับ”
            “นั่งลงดี ๆ แบบคุณป๊า”อาฐาเพียงแค่บอกน้องจีนก็รีบทำตาม ผมนั่งมองด้วยความลุ้นคงไม่ปล่อยลูกผมกระแทกพื้นกันหรอกมั้ง อาฐาเอาหมอนรองข้าง ๆ แล้วให้น้องจีนทำมือยื่นออกมา
            “น้องจีนเอาแขนรองหมอนไว้สิครับ”ผมเห็นแล้วว่าหมอนมันไม่พอดี ทามเดินถือหมอนรองเวลาให้นมลูกออกมา
            “เอาใบนี้ดีกว่า”ทามจัดการวางให้อย่างลงตัว คราวนี้อาฐาก็วางสกายลงบนหมอนโดยมีแขนเล็กของน้องจีนประคองเอาไว้
            “จับดี ๆ นะ”อาเสือเองก็ลุ้นพอกัน 
            “เธอหยิบโทรศัพท์ฉันที่วางในห้องทำงานให้หน่อย”อาฐาหันไปบอกทาม
            “คริคริคริ”น้องจีนชอบใจกอดและหอมแก้ม เจ้ากายก็ดิ้น ๆ สนุกสนาน
            “เกลไปนอนตักพี่จีนไหมลูก”ผมหัวเราะอีกคน อาฐาถ่ายรูปใหญ่เป็นภาพที่สร้างรอยยิ้มได้มากจริง ๆ ผมจับเกลคล้ายยืนเกาะไหล่พี่จีนร่วมเฟรม
            “น้องจีนขอน้องได้ไหมครับ”เด็กตัวเล็กหันมาทำหน้าอ้อนกับผม
            “น้องจีนจะเลี้ยงไหวเหร้อน้องกินจุนะ”ผมบอก
            “ไหวครับ น้องจีนจะแบ่งขนมให้น้องแล้วก็ให้น้องนอนบนเตียงด้วย”
            “โห น้องแฝดอยากอยู่กับพี่จีนกันไหมนะ”ผมทำเสียงตื่นเต้น
            “น้องจีนมีของเล่นเยอะ ๆ แล้วก็มีขนมเต็มเลย”เด็กน้อยพูดโอ้อวดอย่างน่าชัง ทามลงมานั่งข้าง ๆ ผมและยื่นมือมาขอเกลไปอุ้ม
            “ลูกจะแบ่งหนังสือให้น้องอ่านไหมละ น้องชอบอ่านหนังสือนะ”อาฐาถามจริงจัง
            “แบ่งสิครับ น้องจีนมีหนังสือเยอะแยะ”
            “หน้าซีเรียสเลยนะนี่”อาเสือหัวเราะ สเกลก็ดิ้นแรงอยากคลานแย่แล้วทามต้องเอาลงนอนเบาะ
            “จุ๊บ ๆ ๆ”ท่าทางจะอยากได้มาก น้องจีนบ่นเมื่อยหลังจากน้องนอนบนตักได้สักพัก พอผมเอากายลงนอนเบาะ แกก็วิ่งขึ้นไปชั้นสองและอยู่ที่นั่นอย่างนาน
            “กินนมกันดีกว่าแฝด”ผมบอกและเข้าไปให้นมทีละคน ส่วนทามเห็นว่าน้องจีนไปนานจึงเดินขึ้นไปดู
            “น้องจีนทำอะไรเหรอทาม”ผมร้องถาม
            “ขึ้นไปจัดห้องใหญ่เลยครับ บอกจะให้น้องนอนด้วย”
            “โอ๊ยยย คืนนี้ไม่นอนต้องมีเด็กเสียใจแน่เลย”อาเสือยิ้มร่า เดินขึ้นไปหาน้องจีน
            “บางทีทามก็สงสารลูกนะฮะ”ทามบอกเสียงเศร้า
            “ไปอยู่กรุงเทพฯ นะ เราจะได้อยู่ใกล้ ๆ กัน”ผมบอกพร้อมยิ้มให้ คืนนี้เหนื่อยจากการเดินทางเลยไม่ได้ไปเล่นน้ำทะเล อาฐากับทามพาไปกินอาหารที่ริมชายหาด ผมกินอย่างไม่อยู่ดีเพราะแฝดร้องไห้งอแง ทั้ง ๆ ที่มีมุ้งครอบรถเข็นแต่ยุงก็ยังมากัดแฝดจนได้ตุ่มคนละสองสามตุ่ม ตอนกลับมาทามก็เอายามาให้ทา
            “กัดตรงไหนไม่กัด โดนหน้าเลย”บ่นเล็กน้อย อาเสือเป็นคนทาให้ลูก
            “กาวก็ว่ากาวดูดีแล้วนะ”ผมเองก็ไม่ค่อยชอบใจ แต่ทามบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาน้องจีนก็เคยโดนเหมือนกัน เป็นรอยแดงแบบนี้แต่ไม่กี่วันก็หาย
            “แอ๊ ๆ”ผมอุ้มกายขึ้นนอนทาบอกอาเสือ
            “นอนเล่นกับปะป๊าก่อนแล้วกัน กาวอาบน้ำนะ”
            “ครับผม”จะเปิดประตูออกไปนอกห้อง เห็นน้องจีนเดินวนอยู่
            “อ้าว ยังไม่นอนเหรอครับ”ผมร้องถาม น้องจีนมองเข้ามาในห้อง
            “น้องนอนแล้วเหรอครับ”
            “ยังเลย เข้ามาเล่นกับน้องสิ”
             “เย้ น้องจีนมีของเล่นมาให้น้องด้วย”
            “แฝดใครมาหากันเน้อ?”น้องจีนกระโดดขึ้นไปเล่นกับน้อง จนเกือบสามทุ่มแฝดงอแงอยากกินนมนอนแล้วแต่น้องจีนก็งอแงพอกัน จะนอนใกล้ ๆ น้องไม่ยอมห่าง อาเสือต้องหอบที่นอนลงไปนอนเบาะเรียงกันข้างล่างพื้น
            “น้องจีนกวนรึเปล่าครับ”ทามมาถาม
            “ไม่ ๆ ให้นอนกับน้องแหละดีแล้ว”ผมยิ้ม
            “อย่าลืมเอาหมอนข้างกั้นน้องจีนไว้ด้วยนะครับ บางทีแกก็นอนดิ้น”
            “อืม ทามไปนอนเถอะ...คืนนี้ทางสะดวกแล้ว”ผมล้อ
            “บ้าพี่กาว! สะดวกอะไรกันละ หึหึหึ”ทำเป็นอายหน้าแดง ผมนอนข้างสกาย สเกล หมอนข้าง น้องจีน แล้วก็อาเสือนอนติดริมผนังจนน่าอึดอัด แต่บอกให้นอนเตียงก็ไม่ยอม
            “เดี๋ยวบ่นปวดหลังอย่ามาพูดให้กาวได้ยินนะ”ขู่ออกมางั้นแหละ แต่อาเสือก็ยอมขึ้นมานอนบนเตียง
            “ปะป๊าขอหอมลูก ๆ ก่อนนอนนะ”
            “น้องจีนหอมด้วย”
            “แน่ะ เนียน ๆ เลยนะน้องจีน”ผมหัวเราะ อาเสือทำน้องจีนก็เลยทำตามบ้างก่อนจะนอนหันข้างยื่นมือมาโอบน้องเกล
            “ทำไมน้องใส่หมวกด้วยครับ”น้องจีนถาม
            “เดี๋ยวน้องเป็นหวัด น้องจีนก็ห่มผ้าดี ๆ อย่าถีบออกนะ”
            “คร๊าบ”ผมหันหน้ามาหาอาเสือ
            “เลี้ยงแฝดเป็นเด็กดีแบบน้องจีนได้คงดีเนอะ”กระซิบกับอาเสือ
             “อาว่ากาวก็ทำได้”อาเสือพูดให้กำลังใจ ทำให้ผมมีความมั่นใจขึ้นมาก
            “อาเสืออย่าทิ้งกาวนะ...กาวดื้อก็ห้ามทิ้ง”
            “หึหึหึ อาจะทิ้งคนรักของอาได้ยังไงละ”ผมพยักหน้ามองเด็กสามคนที่หลับไปแล้ว อาเสือนอนเล่นอีกสักพักจึงลุกไปอาบน้ำและลงมาจุ๊บแก้มผมก่อนหลับฝันดี
            เป็นเด็กดีแบบพี่จีนนะแฝด สัญญาว่าจะเลี้ยงให้ดีที่สุดและจะทุ่มเทให้แฝดสุดตัวเลย

 

ครบ 50 ตอนแล้ววววววววววววววววววววว
จุดพลุปุงปัง ๆ ๆ ๆ ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตอนนี้ค่ะ
ขอบคุณที่ช่วยติชมคอมเม้นต่าง ๆ นานา ชินจะพยายามมากขึ้นไปอีกนะคะ
เรื่องตอนที่แล้วที่ถามกันเข้ามาว่าไม่ลงที่นี่แล้วจะลงที่ไหน
ชินอยากจะบอกว่าชินมีหน้าเพจนะคะ แปะลิงค์ไว้แล้วที่หน้าแรก
ที่ไม่ตอบและไม่อธิบายใด ๆ ด้วยกลัวว่ามันจะซุ่มเสี่ยงก็การที่นิยายชินหายแว้บ
ชินจะไม่ลงมันซ้ำอีก เพราะฉะนั้นชินก็จะปกป้องมันให้ได้ถึงที่สุดค่ะ ^^
ขอโทษที่ทำให้ต้องลำบากกันนิดนึงนะคะ

           
           

           
            

7 ความคิดเห็น:

  1. อบอุ่นจังเลย แอบสงสารเวลาน้องจีนเหงาเหมือนกันนะ // พี่ชินคะตัวหนังสือมันเล็กไปนิดนึงอ่านไม่ค่อยสบายตาเท่าไหร่เลย ถ้าตอนหน้าตัวหนังสือใหญ่กว่านี้จะสบายมากขึ้นคะ

    ตอบลบ
  2. หลงเด็กน้อยแล้ว น่ารักกันทุกคนเลย ^^

    ตอบลบ
  3. น้องจีนเหงา ย้ายไปอยู่กรุงเทพใกล้ๆแฝดกับพี่ม่อนเลย ว่าแต่คืนนี้เข้าทาง ทางสะดวกคุณฐากับทามรีบปั๊มน้องให้น้องจีนเลย ครึครึ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณนะค่ะ อ่านแล้วสนุกมากเลยคะ ดูอบอุ่น อยากเจอผช. แบบอาเสือจัง. ใจดี ตามใจกาวาุกอย่างเลยย. วันนี้อ่านรวดเดียว 50ตอน. ขอบคุณนะคะ

    ตอบลบ
  5. สองแฝดเสร็จน้องจีนแน่ๆ

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณ นะคะไรท์ ที่แต่งเรื่องราว สนุกๆ มาให้ได้อ่านกัน.. เป็นกำลังใจ ให้ นะคะ☺️

    ตอบลบ
  7. อยากอ่านตอนน้องกรีนจังน้อ

    ตอบลบ