ตอนที่ 40 ปรับตัวรอบที่ล้านแปดดดด!
ตื่นแล้วแต่ยังไม่ลืมตา รู้สึกตัวทุกขณะแม้กระทั่งตอนนี้ที่มีใครบางคนกำลังถอดถุงเท้าผมออก! นั่นทำให้เกิดความหงุดหงิดขึ้นเล็กน้อย ผมลืมตาขึ้นมาและชักเท้ากลับ เหมือนโดนก่อกวนยามที่กำลังนอนขี้เกียจสบาย
“อากาศร้อนแล้ว...อาเพิ่งปิดแอร์”
“ปิดทำไมกาวยังนอนอยู่ไม่เห็นเหรอ”
“เช้านี้กาวมีตารางลงสระ ถ้าไม่ตื่นตอนนี้จะไปสายได้”อาเสือบอกน้ำเสียงนิ่ม
“ก็ตั้งสิบโมง”
“นี่แปดโมงกว่าแล้วครับ เลยอาหารเช้ามาเป็นชั่วโมงแล้ว”
“กาวยังอยากนอนอยู่เลย”อาเสือลูบผมอย่างเอ็นดู จุ๊บปากและลงไปจุ๊บพุงที่นูนขึ้นมาก ยอมให้ง่าย ๆ แบบนี้เพราะว่าเห็นแก่คนในท้องนี่แหละนะ จะยอมเชื่ออีกสักครั้งก็ได้...แต่ถ้าหลังจากนี้มีเหตุการณ์ประมาณนี้เกิดขึ้นอีก รับรองเลยว่าไม่ผมก็อาเสือต้องตายกันไปข้าง
“ลุกเถอะ อาจะลงสระด้วย”พูดอย่างเอาใจ
“จริงเหรอ?”ตาลุกวาวทั้งตื่นเต้นและแปลกใจ
“อืม อาขอโทษที่ก่อนหน้านี้ดูแลไม่ดี...ต่อไปนี้อาจะทำทุกอย่างให้กาวเองนะ”
“ก็แล้วแต่”น้ำเสียงไม่สนใจแต่อดยิ้มออกมาไม่ได้ ถ้าอาเสือต้องปรับตัวหรือทำอะไรเพื่อผมขนาดนี้ บางทีก็อยากจะทำให้อะไรให้เขาสบายใจบ้างเหมือนกัน
ผมดึงแก้มอาเสือแก้เขิน แก้มที่ไม่มีหนวดอีกต่อไป
“ชอบแบบนี้ใช่ไหม?”อาเสือถาม ผมเม้มปากกลั้นยิ้มน้อย ๆ พยักหน้าอาเสือเลยยิ้มตามไปด้วย ไม่ถูกล้อเลียนหรือทำท่าให้เขินเข้าไปใหญ่ นั่นไม่ใช่วิสัยของอาเสือและยิ่งจะทำให้ผมอายจนต้องกลบเกลื่อนด้วยการเหวี่ยงเอาได้
ผมบอกตัวเองทุกก้าวที่เดิน ทุกอย่างต้องช้าลง 2 สเต็ป ไม่ว่าจะเดิน นั่ง หรือทำอะไร เท้าของตัวเองค่อย ๆ ย่องแต่มั่นคง แค่คิดว่าจะลื่นล้มลงไปก็เป็นเรื่องสยองขวัญมากพอดู ตอนนี้เดินทีหลังจะหักอยู่แล้วต้องแอ่นตัวไปข้างหน้า เด็กสองคนในท้องต้องตัวใหญ่มากแน่ ๆ เพราะพุงเริ่มขยายใหญ่ขึ้น รอยแตกก็เยอะขึ้นน่าเกลียดสุด ๆ ผมไม่ยอมให้อาเสืออยู่ด้วยตอนใส่เสื้อผ้าเลยสักครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เอาเสื้อผ้าเข้าไปแต่งในห้องน้ำ ด้วยเหตุผลว่ากลัวลื่นล้มหัวฟาดพื้นไปซะก่อน ไม่รู้ว่ารอยแบบนี้จะเป็นปกติหรือเปล่า แล้วหลังคลอดจะกลับมาเป็นแบบเดิมไหม? ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวลสุด ๆ
อาเสือแต่งตัวเสร็จแล้วก็ยืนรอในห้องแต่ผมก็ต้องให้เขาออกไปแล้วล็อคประตู เพื่อที่จะมายืนดูสารรูปตัวเองในกระจก แล้วต้องตกใจมากกับคนที่กระจกสะท้อนออกมาเพราะทั้งอ้วนและที่หน้าท้องก็แตกลาย น่าเกลียดที่สุด! เอาแป้งทากลบ ๆ ไว้ แต่ก็ไม่มิด สิ่งนี้มันรบกวนจิตใจจนทำให้ต้องขมวดคิ้ว รีบแต่งตัวแล้วออกมา
“แค่แต่งตัวทำไมต้องให้อาออกมาข้างนอก”ผมส่ายหน้าสีหน้าเหนื่อย ๆ ไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรแล้ว อาเสือยกมือลูบหน้า
“จุ๊บ...”อาเสือหอมแก้มก่อนประคองเดินลงมาข้างล่าง นั่งทานอาหารและหลังจากนั้นก็เดินทางไปโรงพยาบาล
“อาเสือไม่ไปทำงานหรือไง?”ถามเพราะอาเสือไม่ได้แต่งชุดทำงาน นั่งรถมาครึ่งทางแล้วเพิ่งสังเกต
“วันนี้ไม่ทำ”
“ทำไม?”
“เดี๋ยวมีเด็กขี้งอนน้อยใจอีก...”
“ไม่ได้งอนสักหน่อยเหอะ!!”
“หึหึหึ ไม่งอนเล้ยยยย ทำหน้างออีกแล้ว”ผมแยกเขี้ยวใส่ไม่โต้ตอบอะไร และกดโทรศัพท์หาไอ้บอลมันก็บอกถึงเอกสารการเข้าฝึกงาน เดือนหน้านี่แล้วผมคงต้องเตรียมตัวมาก อีกสามเดือนใกล้จะคลอดแล้ว...ไม่รู้ว่าการฝึกงานหรือคลอดจะเสร็จสิ้นก่อนกัน ไอ้บอลมันฝึกกับที่บ้าน ส่วนโรลมันคงมาฝึกกับผม ยังไงอาเสือก็ต้องเซ็นรับไว้ทั้งสองคนอยู่แล้ว ผมยังไม่บอกเรื่องนี้จนกว่าจะได้เอกสารมา เอาจริง ๆ คือ...เรียนวิศวะ ท้องก็โตแบบนี้อาเสือจะจับผมกับไอ้โรลลงตรงแผนกไหนของบริษัท?
นั่งรอตรวจครรภ์ในห้องพิเศษ อาเสือจับมือไว้ตลอดเวลา เพราะหมอมาช้ากว่าปกติแต่ผมก็ยังไม่อารมณ์เสีย ในห้องมีหนังสือเด็กวางไว้ก็เลยหยิบขึ้นมาอ่าน
“ถ้าเขาออกมาจะรักเขาหรือรักกาวมากกว่ากัน?”จู่ ๆ ผมก็ถามขึ้นตอนถามไม่คิด แต่ถามไปแล้วกลับคาดหวังในคำตอบอยู่ปานกลางถึงมากที่สุด อาเสือหัวเราะ
“หาเรื่องอาอีกแล้วใช่ไหม? คำตอบแบบไหนที่จะไม่ทำให้กาวหงุดหงิด?”โดนแซวกลับ ทำเอาผมเบะปาก
“คำตอบที่มาจากใจจริง ๆ ไง มีไหม?”อาเสือยกมือผมขึ้นจูบแผ่วเบา
“ก็รักทั้งหมดนี่แหละ อย่าหาเรื่องให้อานักเลย...อาเหนื่อยแล้วสู้กับกาวไม่ไหวหรอก”
“ไม่ได้หาเรื่องสู้ด้วยสักหน่อย”แกล้งเปิดหนังสือดูไปเรื่อย
“เชื่อใจอาบ้างไม่ได้เลยหรือไง?”
“ไม่รู้ ดูพฤติกรรมก่อน”พูดเสียงอ้อมแอ้ม อาเสือจ้องหน้านิ่งแต่ริมฝีปากติดอมยิ้มอยู่เล็กน้อย
“ตั้งแต่ท้องดูท่าดีกรีความเอาแต่ใจจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเลยนะ...รู้ตัวรึเปล่าว่ากาวดื้อขึ้นมาก”
“แล้วรับได้รึเปล่า?”ผมถามออกไปทันที รู้สึกแย่ในหัวใจอยู่หน่อย ๆ ก็รู้แหละว่าตัวเองเป็นคนงี่เง่าและเอาแต่ใจมากขนาดไหน ตลอดเวลาเคยเรียกร้องถามหาความอบอุ่นแต่ก็แสดงวิธีผิด ๆ มาตลอด อาเสือก็ไม่เคยเลยที่จะตอบสนองด้วยดี ๆ ตอนนี้มีเค้าในท้องก็เหมือนจะถูกปฏิบัติดีขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ เลยทำให้ผมได้ใจเข้าไปใหญ่ จะดื้อยังไงแค่ไหนก็ได้...อากัปกริยาก้าวร้าวที่แสดงออกไป เพียงเพราะต้องการดึงความสนใจจากคนตรงหน้านี้เท่านั้น
“ทำไมถึงเงียบไป...”ถามเสียงแห้ง อาเสือยกมือลูบแก้ม
“รับได้...ไม่ต้องกังวลนะ อาบอกแล้วไง...ว่าจะดูแลกาวกับลูกให้ดีที่สุด”
“แต่กาวงี่เง่า เอาแต่ใจ...ชอบทำนิสัยไม่ดี”
“ต่อไปนี้สัญญากับอาว่าเราจะค่อย ๆ ปรับกันไป อาไม่หวังให้กาวเปลี่ยนทุกอย่าง แต่แค่ลดอารมณ์ร้อนและนิสัยชอบอาละวาดกาวจะเป็นคนที่น่ารักขึ้น ได้ไหม”
“นี่สอนหรือหลอกด่า?”อาเสือหัวเราะลั่นห้อง
“พูดไม่ทันไรก็โมโหอีกแล้ว”
“ไม่ได้โมโหสักหน่อย! กาวแค่ถาม...”
“เวลาเรากระตุกอารมณ์ขึ้นมาใส่อา สังเกตไหมว่ากาวชอบขึ้นเสียง”
“ก็มันเป็นไปเองนี่...อาเสือยังเคยตวาดใส่”ทำหน้างอเล็กน้อย
“แต่พอมีลูกแล้วอาเคยสักครั้งไหม?”ผมเงียบ
“เค้ารับรู้ทั้งหมดนะ สิ่งที่กาวทำ...เค้ารู้มันทั้งหมด อาถึงอยากให้กาวสุขภาพจิตดีไง ก่อนหน้าที่จะมีเรื่องกาวก็ทำได้ดีแล้วนี่นา”อาเสือปลอบลูบที่ท้อง
“กาวไม่รู้...พอโมโหมันก็ลืมทุกอย่าง ยิ่งนึกก็เริ่มจะโมโหขึ้นอีกแล้ว!”ผมบอก อาเสือลูบหลังมือ
“ถ้าอาบอกว่าไม่มีใครก็คือไม่มีใคร กาวต้องฟังอา...ไม่อย่างนั้นต่อไปใครมายุอะไรอามิแย่เหรอ”
“ก็อาเสือไม่น่าไว้ใจ”
“แต่กาวต้องไว้ใจอา...”น้ำเสียงหนักแน่นและสีหน้าคมเข้มดูจริงจังขึ้นมาทันที
“อาเสือไม่รู้ตัวหรือไงว่าตัวเองไม่น่าไว้ใจ”
“แต่อาน่าไว้ใจกว่าอีกหลายคน”
“ใคร?”
“ไอ้พตของกาวไง”
“พี่พตเกี่ยวอะไรด้วย? เออ พูดถึงพี่พต...วันนั้นที่แถลงข่าวกาวเห็นเขามาด้วย แต่สีหน้าเขาไม่ดีต้องโกรธกาวแน่ ๆ เขาบอกเสมอว่าอย่าเสียท่าให้คนเลว ๆ”อาเสือแสยะยิ้ม
“หึหึหึ อาเป็นคนเลว ๆ เลยเหรอ! หึหึหึ แต่ก็เสียมาทุกท่าแล้วนี่นะ”
“ทุเรศ”อุบอิบเบา ไม่เงียบลงทันที...เอาไว้จะโทรไปหาพี่พตดีกว่า เหมือนว่าเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“รู้ไว้นะกาว...ว่ามันเป็นคนที่ล่ารายชื่อเพื่อขับไล่อาออกจากบริษัท”
“ก็สมควรแล้วนี่”พูดแบบไม่แยแส แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยดีในใจ
“ไม่มีบริษัทก็ไม่มีเงิน ไม่มีเงินอาจะเอาอะไรเลี้ยงลูกเมียดีละ?”
“ชิส์!”
“ปากเชิด ๆ นี่ทำไมไม่เถียงต่อ?”อาเสือเอานิ้วเกลี่ยปาก นั่งคุยอีกสักแปบหมอที่ดูแลผมประจำก็เดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี
“สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่...เป็นยังไงบ้างครับ”
“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ”อาเสือบอก แต่คุณหมอก็ยิ้มอย่างเข้าใจ
“ผมได้รับข่าวเยอะแยะเลย หวังว่าคุณแม่จะอารมณ์ดีไม่มีภาวะเครียดนะครับ”
“มีเยอะเลยครับ”อาเสือบอกพร้อมหัวเราะ คุณหมอเปิดรายงานที่ผมไปตรวจร่างกายข้างนอกมาอ่านดูแล้วสอบถามอาการอื่น ๆ
“ตอนนี้หายแพ้ท้องแล้วใช่ไหมครับ”
“ฮะ”ผมบอก
“เริ่มรู้สึกว่าเด็กดิ้นบ้างหรือยังครับ”
“ประจำเลยครับ...เหมือนว่าจะแรงขึ้นด้วย”ผมบอก เอามือประคองท้องตัวเองเอาไว้
“นั่นเป็นเพราะเด็กเริ่มจะโตขึ้นครับ ครรภ์แฝดแบบนี้ต้องดูแลระมัดระวังเป็นพิเศษเลย คุณแม่อาจจะปวดเนื้อตามตัวขึ้น ก็ต้องนวดทุกวันนะครับ หมออ่านรายงานที่เจ้าหน้าที่พิเศษไปทำโยคะที่บ้าน ก็ทำได้ดี...แต่คุณแม่มีอารมณ์ไม่คงที่ เหล่านี้มีอาจมีผลต่ออารมณ์ของเด็กในครรภ์ด้วยนะครับ”
อาเสือมองหน้าประมาณว่า เห็นไหมละ..อาบอกแล้ว
“วันนี้จะลงสระใช่ไหมครับ”
“ครับ”
“โอเคตรวจร่างกายแล้วดีไม่มีปัญหานะครับ น้ำหนักขึ้นดีนะครับ หมอขอตรวจชีพจรและอัลตร้าซาวน์กันเลยนะครับ”
“ครับ”ผมบีบมืออาเสือ อยากรู้จะแย่ว่าเพศไหน ผลการตรวจวัดชีพจรดีไม่มีปัญหา นอกจากภาวะทางอารมณ์ส่วนอื่นไม่มีข้อบกพร่องอะไร ก็ถึงเวลาไปนอนเตียงหมอก็เอาครีมเจลมาทา ๆ ที่ท้อง แล้วเอาเครื่องมือมาเกลี่ยหมุนวนไปมา หน้าจอก็ปรากฏภาพที่ผมยังมองไม่ออกในตอนแรกพอเข้าที่แล้วก็เห็นภาพชัดเลย หลับตาพริ้มในนี้ อาเสือตั้งใจดูนิ่งไม่พูดอะไรสักคำ
“ไหนขอดูหน่อยสิ....”หมอหมุนไปหมุนมา แล้วเอามือแตะท้อง
“โอ้ว...ผู้ชายนะครับคนหนึ่ง ตา หู จมูก ชัดเจนนะครับ ส่วนอีกคน...”
ผมหันไปจ้องหน้าอาเสือ อาเสือยิ้มกว้างเอานิ้วเกลี่ยแก้มผมเบา ๆ
“ผู้ชายทั้งคู่ครับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า.....”อาเสือหัวเราะถูกใจใหญ่
“นี่ครับ ดูตรงนี้กับตรงนี้...จะเห็นได้อย่างชัดเจน” ผมพยายามมองดูเห็นเป็นปากจมูกชัดเจนและมีสองคนจริง ๆ ตัวเองอยากได้ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่ารักจะตาย จับแต่งตัวก็ได้
“แน่ใจใช่ไหมครับ”
“ครับ อ้า...นี่ฝั่งนี้จะเห็นเพศค่อนข้างชัดนะครับแน่นอนทีเดียว ถูกใจคุณแม่ไหมครับ”
“อยากได้ผู้หญิงอ่า”หันไปอ้อนอาเสือ จนหมอหัวเราะ
“ครั้งนี้เอาผู้ชายก่อน ครั้งหน้าค่อยมีใหม่”อีกคนหัวเราะอารมณ์ดีขึ้นมาก ลึก ๆ แล้วผมก็ดีใจจะแบบไหนก็รักหมดละ...แต่คิดดูนะ ผมก็น่ารักขนาดนี้ (โหมดชมตัวเอง) ถ้าลูกเป็นผู้หญิงแล้วหน้าเหมือนผมจะน่ารักขนาดไหน ขนาดเดินออกมาแล้วยังคิดไม่ตกว่าทำไมไม่เป็นผู้หญิงสักคนนะ!?!?!
ออกมาห้องรองรับด้านนอกเพื่อรอยาบำรุงและรูปถ่ายอัลตร้าซาวน์ อาโชติก็ยิ้มแก้มแทบปริหลังจากที่อาเสือบอกว่าได้ผู้ชายคู่ สุดาก็ร้องดีใจ
“ทำไมทุกคนถึงอยากได้ผู้ชายกันนัก”ผมถามหน้างอเล็กน้อย
“แหม แบบไหนสุดาก็ว่าน่ารักหมดแหละค่ะ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นละคะ?”
“กาวอยากได้ผู้หญิงนี่”
“อาบอกแล้วไง...ไว้ครั้งหน้า”พูดต่อหน้าทุกคนแบบนี้ทำเอาผมอายไม่น้อย อาโชติกับสุดาอมยิ้ม
“ท้องเองแล้วกัน”พูดออกไปแก้เขิน
ระหว่างนั้นได้พักทานของว่างข้างล่าง รอคลาสออกกำลังกายในน้ำพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่อีกสองคู่ ส่วนอาเสือโทรศัพท์คุยงานตลอดเวลา ในมือก็ถือไอแพดไปด้วยตรวจงาน
“เปลี่ยนชุดเถอะค่ะ...”สุดาบอก ผมพยักหน้าหันไปหาอาเสือแล้วทำปากบอก อาเสือบอกกับคนในสายว่าให้รอก่อนแล้วพูดกับผม
“รออาไปด้วย...”
“อาเสือคุยงานไปเถอะ กาวจะไปกับสุดา”บอกเสียงเรียบ อาเสือพยักหน้า
“สุดาจะเข้าไปช่วยได้ไง โชติไปกับกาวหน่อย”
“ครับ”อาโชติถือกระเป๋าออกเดินนำ สุดาคอยจูงมือและประคองกอดที่เอว
“เดินระวังด้วยนะ”
“ครับ”ออกมาอีกทีเห็นอาเสือนั่งทีเดิม แต่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว พอเห็นผมเดินไปก็ปรี่เข้ามารับช่วงต่อจากสุดา ผมประหม่าเล็กน้อยอาจเพราะเป็นครั้งแรกที่อาเสือจะมาร่วมทำกิจกรรมนี้ด้วย ครูสอนรอให้ผมลงสระอย่างใจเย็น และอาโชติก็ถ่ายวิดีโอเก็บไว้ตลอดการทำเลยทีเดียว
มีคู่อื่นอีกสองคู่ เป็นคู่ชายหญิงปกติ พอเห็นเราสองคนก็ทำให้ผมเขอะเขินไม่น้อย แต่พวกเขาก็ดีมากเข้ามาพูดคุยว่าท้องกี่เดือนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันโดยไม่รังเกียจ ทั้งคู่เพิ่งท้องแรกเช่นเดียวกับผม
พอเทรนเนอร์มาถึงก็ให้ผมลงน้ำทันที อาเสือประคองเดินลงไปยืนใต้น้ำ
“สวัสดีค่ะ ดิฉันอ้อนะคะ...จะมาเป็นเทรนเนอร์ออกกำลังกายใต้น้ำให้วันนี้ เริ่มแรกอยากให้คุณแม่ลองขยับตัวไปมาให้ชินกับน้ำก่อนนะคะ”ผมทำตาม
“เราจะเริ่มกับไปช้า ๆ ทีละท่านะคะ สบาย ๆ”เพลงโมสาร์ตถูกเปิดคลอไปด้วยเบา ๆ มันยิ่งกว่าผ่อนคลายซะอีก ผมทำท่าเดินบ้างแกว่งแขนบ้าง อาเสือก็ช่วยจับและประคอง เทรนเนอร์คนนี้พูดอะไรหลายอย่างที่ตลกและทำให้ต้องหัวเราะออกมาหลายต่อหลายครั้ง ผมสบายใจและสนุกไปกับคลาสนี้ที่สุด
“ชอบไหม”อาเสือกระซิบถาม
“อือ”
“กาวยิ้มแล้วน่ารักจะตาย”หันไปยิ้มให้อาเสือ ออกกำลังแบบนี้ใช้เวลา 45 นาที ผมต้องมาทำอาทิตย์ละ 2 – 3 ครั้ง เพราะใกล้จะแปดเดือนแล้ว หลังจากนี้จะทำไม่ได้ เทรนเนอร์บอกว่ามันอันตรายเกินไป อาเสือรับปากว่าจะมาด้วยทุกครั้ง
“รับปากเดี๋ยวก็ทำไม่ได้อีก!”ผมบอก
“รอดูไปแล้วกัน ที่กาวรับปากอะไรไว้กับอาก็ทำได้ด้วยรู้ไหมครับ”
“ด้ายยยย”กัดฟันพูดแกล้ง ๆ
อาเสือถามว่าอยากไปไหนไหม ผมก็บอกว่าอยากไปซื้อของเตรียมไว้เลย อยากเดินเลือกซื้อทุกชิ้นก่อนจะเดินไม่ไหว อาเสือเห็นด้วยเลยพามาที่ห้างสรรพสินค้าของตัวเอง ที่เดิมที่เกิดเรื่อง! คราวนี้มาแบบส่วนตัวไม่ได้ใส่สูทมาทำงาน พนักงานก็ไม่ได้เตรียมตัวอาเสือเดินผ่านแต่ละแผนกก็มีคนยกมือไหว้ใหญ่เลย
บางคนอาเสือก็แนะนำผมให้รู้จัก
“น่ารักมากเลยค่ะ”ผู้จัดการฝ่ายคนหนึ่งเอ่ยกับผม แล้วก็มีคนมาดูผมเรื่อย ๆ ทั้งพนักงานและคนที่เดินไปมา เขาคงอ่านข่าวละมั้ง บางคนก็ถือกล้องมาถ่ายรูปด้วย
“น่าเสียดายจัง...น่ารักทั้งคู่เลย”
“ท้องกี่เดือนแล้วคะ”อันนี้คำถามยอดฮิต ผมจับมืออาเสือไว้ตลอดเวลา ไม่ได้ประหม่ากับฝูงชนแต่พอเยอะมากเข้า ก็มีการ์ดมากันออกสักหน่อย บางคนก็ซุบซิบกันอยู่ไกล ๆ อย่างกับดารา!!
“เป็นครั้งแรกเลยที่หลังจากแถลงข่าวแล้วเราก็ออกมาปรากฏตัวแบบนี้”อาเสือว่า
“อือ”
“อึดอัดไหม?”
“ไม่ กาวเฉย ๆ”ผมบอก ดี! เอาให้รู้กันไปทั่วประเทศเลยยิ่งดี!!!
เราเดินซื้อของใช้เด็กอ่อนที่จำเป็นทั้งชุด ถุงมือ ถุงเท้า หมวก ผ้าอ้อม ไปจนถึงเครื่องอาบน้ำ กะละมัง แต่รู้สึกว่าอาเสือจะเลือกแต่ลายเสือของตัวเองอย่างเดียวเลยนะ!!! ผมชำเลืองมองในรถเข็น มีแต่ลายเสือจริง ๆ ด้วย!!!
“อาเสือ!”
“ครับ?”อาเสือหันมาแล้ว ผมชี้ไปที่ของ
“ทำไมมีแต่ลายเสือ!”
“เอ้า! ก็มันน่ารักดีนี่”
“ลายอื่นก็มี ยีราฟก็น่ารัก”
“แต่สีมันไม่สวย”
“นี่ก็ลายเสืออีก!” เหอะ!!!!! อาเสือเดินมากอดไหล่
“ก็พ่อเป็นเสือนี่!!!”
“อาทำแบบนี้เหมือนกาวเป็นส่วนเกินเลย ของใช้มีแต่ลายเดียวแบบนี้”พูดอย่างน้อยใจ อาเสือเบิ่งตาโตไม่คิดว่าผมจะคิดถึงประเด็นนี้ได้
“อาไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้นนะ”
“แต่ก็ทำอยู่ใช่ไหม”
“โอเค ๆ งั้นเปลี่ยนเอาลายอื่นบ้าง”ผมพยักหน้าเลือกเปลี่ยนของอย่างสบายใจ อาเสือหันมามองรถเข็นอีกทีแล้วหันมามองหน้าผม
“โห! ลูกเป็นผู้ชายนะ...ลืมไปรึเปล่า”
“แล้วทำไมละ?”
“ก็ดูกาวเลือกของสิ มีแต่สีชมพูทั้งนั้น”
“โอ๊ย เด็กเล็ก ๆ น่ะใช้สีไหนก็น่ารักทั้งนั้นแหละ เนอะสุดา”
“เอ่อ ค่ะ”ผมบอกไม่สนใจ เดินไปเลือกอย่างอื่นต่อ คริคริคริ....จะยืนเถียงต่อให้พ่ายแพ้หรือไง!!! อาเสือไม่กล้าหยิบของออกอยู่แล้ว ถ้าผมไม่ยินยอม!
เดินมาเรื่อย ๆ จนถึงเตียงนอนเด็ก โหยน่ารักที่สุด!!!! ผมยืนลังเล เพราะเป็นเด็กแฝดแต่ขนาดเตียงมีแต่เตียงเดี่ยวทั้งนั้น
“เอาไงดีสุดา”
“ถามคุณท่านก่อนเถอะค่ะ เตียงแบบนี้ก็ดีมีช่องลมระบายอากาศด้วย”
“แต่ดูมันน่าจะนอนได้คนเดียวนะ ถ้าสองคนก็ต้องเบียด ๆ”
“นั่นสิคะ เอาไว้ค่อยไปดูที่อื่นก็ได้...ร้านขายของเด็กตรงแถว xx นั่นก็ดีนะคะ”
“อ่อ ร้านใหญ่ ๆ ใช่ไหม”ผมนึกขึ้นได้เพราะเคยนั่งรถผ่านประจำ
“ค่ะ จะไปดูไหมคะ...”
“ถ้าเผื่อไม่มีละ?”ระหว่างที่ยืนตัดสินใจอาเสือก็เดินเข้ามา
“อะไรกัน?”
“คุณกาวอยากได้เตียงค่ะ”
“โห! อันนี้ค่อยมาซื้อทีหลังเถอะ”
“ทำไมละ! กาวอยากได้ไปไว้เลย!”
“ห้องก็ยังทำไม่เสร็จเลย...จะเอาไว้ตรงไหน”
“ก็ห้องที่นอนข้างล่าง”ดื้อใส่เพราะอยากได้ อาเสือเงียบแต่ก็ยอมเดินมาสำรวจดู
“อาว่ามันเล็กไป”
“กาวก็ว่าเล็ก...”คนที่บอกไม่อยากได้ถามหาพนักงานและสอบถาม ได้ความว่าไม่มีไซส์อื่นเลย ผมทำหน้าเสียใจ
“เดี๋ยวอาพาไปดูที่อื่น”ห้างตัวเองแท้ ๆ ยังได้ของไม่ครบ เหอะ!!!!!
“ทำไมที่นี่ไม่มีของอ่า?”ว่าจะงอแงกับอาเสือคนเดียวนะ แต่พนักงานทำหน้าไม่สู้ดีและเป็นคนตอบแทน
“ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีเด็กแฝดค่ะ เราเคยเอาของมาแต่ก็วางไว้จนสินค้าเก่าต้องคืนโรงงานไป”
“เสียดาย”ทำหน้าเซ็ง
“เอาน่า เดี๋ยวอาพาไปดูที่อื่น”อาเสือจูงมือเดินออกมา ดูว่าของได้ครบที่ต้องการแล้ว พาผมไปนั่งทานข้าวให้อาโชติกับสุดาจ่ายของแล้วตามไปสมทบทีหลัง ผมทานไปเยอะทีเดียวเพราะอร่อยถูกปากดี อาเสือนั่งฝั่งตรงข้ามสุดาเดินมานั่งข้าง ๆ ผมกระซิบใส่หูสุดา
“มีเรื่องจะบอก”
“อะไรคะ”สุดาถามเสียงเบา
“พูดตรงนี้ไม่ได้...”สายตาสุดานี่แบบว่าจะเจอเรื่องเดือดร้อนอีกแล้วใช่ไหม น่าขำจนอยากหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย อาเสือลอบสังเกตแล้วถามขึ้น
“อะไรกัน?”
“ไม่บอก!”ผมบอก อีกคนก็ไม่ถามต่อผมรอจนทุกคนทานเสร็จแล้ว เดินออกมาหน้าร้านแล้วกระซิบกับสุดา ตอนแรกว่าจะไม่บอกก็ไม่ได้ สุดท้ายคิดว่าถ้าบอกสุดาคนเดียวคงไม่เป็นอะไร
“สุดา”
“คะ?”
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นได้ไหมเล่า! กาวไม่ได้ตัวสร้างปัญหานะ”สีหน้าสุดาเตรียมรับมือเต็มที่
“โธ่ ก็ดูแต่ละเรื่องที่ผ่านมาสิคะ สุดาแทบจะกลั้นหายใจรอฟังเลยทีเดียว”ผมหัวเราะ
“ตรงท้องเป็นอะไรไม่รู้ แตกลายเต็มเลย”ผมเอามือป้องปากด้วย อาเสือก็ยืนมอง
“อ๋อ”
“อะไรเหรอสุดา”อาเสือถาม
“อย่าบอกนะ!!!!!”ปิดปากคนสนิท “ถ้าพูดออกไปโกรธจริง ๆ ด้วย”ขู่ออกไปแล้ว สุดาเลยได้แต่ยิ้มขื่น ๆ ให้อาเสือ
“จะซนอะไรอีกนะ...”
“เปล่าซะหน่อย!”
“งั้นกลับกันเถอะ”
“เอ่อ...เดี๋ยวสุดาขอไปซื้อของอย่างนึงก่อนแล้วกันนะคะ ไปรอที่รถเลยก็ได้”อาเสือพยักหน้า ผมใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย แต่ระหว่างรอก็ยังนั่งกัดเล็บไปนานสองนาน
“กังวลอะไรกาว? ให้สุดาไปซื้ออะไร”
“เปล่า”อาเสือไม่ได้คาดคั้นอีก รวบตัวผมเข้ามากอดให้นอนซบไหล่ ส่วนอาโชตินั่งประจำตำแหน่งคนขับรถไปเรียบร้อย หันมายื่นหนังสือให้อาเสือ
“นี่ครับ”
“อ๋อ มีกี่เล่ม”
“สามเล่มครับ”อาเสือหยิบออกมา เป็นหนังสือชื่อมงคล ตั้งชื่อลูกอะไรแนว ๆ นี้ ผมหยิบมาดูเล่มนึง มีชื่อเยอะแยะเลย
“จะตั้งเลยเหรอ”ผมถาม
“ดูไว้คร่าว ๆ คราวหน้าถามหมอว่าวันคลอดวันไหนแน่ กาวอยากผ่าหรือคลอดเอง”ผมนิ่ง
“ถ้าผ่าก็เจ็บน้อยแต่เป็นแผลนาน แต่คลอดเองก็เจ็บตอนคลอดแต่ไม่นานแผลก็หาย”
“ไม่รู้สิ”เสียงแห้งไปโดยอัตโนมัติ
“งั้นพอใกล้ ๆ เราค่อยคิดกันอีกทีนะ”
“อือ”อาเสือจ้องหนังสือไม่วางตาเลยทีเดียว
“กาวจะตั้งชื่อเค้าเอง!”
“หืม”
“กาวจะตั้งเอง ทั้งสองคนเลย!”
“ให้อาตั้งดีกว่า กาวชอบแต่ชื่ออะไรก็ไม่รู้...”
“อาเสือก็ชอบตั้งชื่อโหด ๆ กาวไม่ชอบ! อะไรพวกเสือ สิงห์ กระทิง แรด ไม่ต้องเอามาตั้งชื่อลูกกาวนะ”ดักคอไว้ก่อน เดี๋ยวก็เอาแต่ตัวอักษรที่คล้องกับตัวเองอีก!
“หึหึหึ....”สุดาขึ้นรถมาแล้วก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันที ผมไปอาบน้ำแต่ออกมาเห็นอาเสือยืนถือกระปุกรอ
“สุดาฝากอาเอามาให้”
“เอามา”
“ใช้เป็นหรือไง...มานอนลงอาทาให้”
“อะ อะ อะไร”ไม่กระชับเสื้อคลุมตัวเองแน่นมือ อาเสือหัวเราะก่อนจะพาไปนอนที่เตียงแล้วคลี่เชือกมัดหลวมนี่ออก
“อย่ามองนะ!!!!!”ตะโกนออกไปดึงเสื้อปิด
“ไม่เป็นไร ๆ ชู่ว....”คนโหดจูบตรงขมับแล้วเอาผ้าผืนเล็กยื่นให้ ผมรับมาแล้วเอาปิดหน้าอย่างรู้งาน
“มีรอยแตกลายใช่ไหม เป็นเรื่องปกติของคนท้อง...”อาเสือว่า ค่อย ๆ บีบเนื้อครีมแล้วทา ผมนอนตัวสั่นทีเดียว มือหนาไล้ไปตามร่างกาย อายสภาพตัวเองแทบมุดดินหนี!!!
“อีกไม่กี่เดือนก็จะได้เจอหน้ากันแล้วนะครับ...”อ้อยอิ่งอยู่นั่น
“เร็ว ๆ สิ หนาวนะ”อาเสือใช้มืออุ่น ๆ ทาให้ทั้งหน้าท้อง แขน และขา
“เสร็จแล้ว”
“อะ ออกไปสิ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช้เสร็จก็ไล่เลยนะ...”คนบ้าเอามัดเชือกไว้ให้ตามเดิม แต่ผมยังซ่อนใบหน้าใต้ผ้าผืนเล็กไม่ยอมเปิดออกมาเด็ดขาด!!!
“ออกไปสิ!”ไล่อีกที อาเสือก้มลงจูบผ่านผ้าแล้วเดินออกไป
“อานั่งตั้งชื่อลูกข้างนอกนี่ มีอะไรเรียกนะ!!!!”
“อะไรอ่ะ!!!!! เขาเป็นของกาว กาวไม่ให้คนอื่นตั้ง!!!!!!!”ตะโกนห้ามแต่อาเสือรีบร้อนออกไปแล้ว บ้าชะมัด!!!! รีบแต่งตัวแล้วออกมาข้างนอก!!!!!
ไหนบอกดูไว้คร่าว ๆ ไงว่ะ!?!??!?! มีจดไว้ด้วย!!!! ผมยกขึ้นมาดู
“สรสิช สรัส สรัช? ทำไมสอเสือหมดเลยอ่ะ!!!!”อาเสือชะงัก
“อันนี้อาเขียนที่ชอบไว้เฉย ๆ”ผมเริ่มหน้างอมากแล้ว!!!!
“ก็เขียนสอเสือไว้ก่อน เดี๋ยวเอาค่อยเอากอไก่ชื่อของกาวไง”
“..................................................”เงียบ
“คุณแม่หน้างออีกแล้ว คุณหมอบอกว่าไง...ให้อารมณ์ดีใช่ไหม”
“............................................”
“วัน ๆ จะงอนอากี่รอบกันเนี่ยคุณกรินทร์!?”
“............................................”
“อ่ะ อาให้เล่มนี้”
“ไม่เอา กาวบอกจะตั้งชื่อให้เค้าเอง”
“ไม่ได้ ต้องดูฤกษ์ด้วย”
“แล้วทำไมอาเขียนไว้เนี่ย!”
“อาจดไว้เฉย ๆ ยังไม่ได้เอาชื่อนี้สักหน่อย”
“กาวก็บอกว่าจะตั้งเอง ๆ”
“ลูกมีสองคนแบ่งคนละคนได้ไหม...”โดนต่อรองซะละ ถ้าไม่ออกมาใช้สิทธิ์อาเสือเนียน ๆ ตั้งทั้งสองคนชัวร์!
“ไม่ได้! ลูกกาว”
“แล้วไม่ใช่ลูกอาใช่ไหม?”
“กะ ก็ใช่...แต่กาวจะตั้งเอง”
“งั้นคิดชื่อมาก่อน แล้วเราค่อยมาเลือกด้วยกัน”
“โอเค ทั้งชื่อเล่นชื่อจริงเลยนะ”ผมบอก อาเสือพยักหน้า
“ไม่เอาเสือ สิงห์ กระทิง แรดนะ!!!!!”บอกอีกครั้ง อาเสือหัวเราะ เราใช้เวลาช่วงเย็นค้นหาชื่ออย่างเอาเป็นเอาตาย จมอยู่หน้าแผ่นกระดาษของตัวเอง จากโต๊ะที่สะอาดตอนนี้รกไปด้วยหนังสือ โน้ตบุ้คเปิดหน้าเว็บค้นหาชื่อ และกระดาษจดพร้อมคำแปล
“อาได้ชื่อเล่นแล้ว”อาเสือยิ้ม ผมมองอย่างสนใจ
“บอกมาก่อนถ้าไม่ดีกาวไม่เอา”
“โอเค! น้องหมี”
“แหวะ!!!!! ไม่เอาไม่ผ่าน!!!!!”
“ไม่ดีเหรอ อาว่าก็น่ารักดี”ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วอ่านในกระดาษตัวเองต่อ
“กระทิง”
“กาวบอกว่าไม่เอาชื่อนี้!!!!”
“งั้นก็นี่ สิงโต”
“อาเสือฝังใจอะไรทำไมเป็นชื่อสัตว์หมดเลย!!!!!”
“ก็อาเป็นเสือใช่ไหม ลูกเป็นสิงโตก็เท่ห์ดี”
“งั้นกาวก็ได้ชื่อแล้ว!”
“ว่า”
“ฉลาม”เพราะตัวใหญ่เอาไว้ข่มอาเสือ
“งั้นอาเปลี่ยนเป็นปลาวาฬ”อาเสือเลือกชื่อสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่ามาทับผม
“ไม่ได้!!!! ห้ามเปลี่ยน!!!!!”แข่งกันตั้งเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายยังไม่ลงเอยสักชื่อ แต่ผมชอบสิงโตกับฉลามนะ ดูดุดันสมเป็นลูกผมดี ส่วนชื่อจริงอาเสือว่าจะไปให้พระตั้ง แต่ต้องเอาวันคลอดไปให้ท่านดูอีกที
“อาว่าชื่อลูกเราโหดไปนะ”หัวเราะออกมาพร้อมกัน ก็ดูพ่อกับแม่สิ...เหอ ๆ โหดพอไหม? หรือว่าไงดี???
สงสัยอาเสือกลัวลูกไม่รักมั้ง ยัดเยียดข้าวของเป็นรูปเสือหมดเลย
กะจะเล่นสงครามจิตวิทยาเหรอออออ
55555555555555
อ่อ...ช่วงที่กาวเหมือนทะเลาะกับอาเสือ กาวไม่ได้งี่เง่าและชวนทะเลาะนะ
คุยกันปกติ...55555555
เข้าใจภาวะอารมณ์ของคนคู่นี้ไหม?
COMMENT PLEASE
กะจะเล่นสงครามจิตวิทยาเหรอออออ
55555555555555
อ่อ...ช่วงที่กาวเหมือนทะเลาะกับอาเสือ กาวไม่ได้งี่เง่าและชวนทะเลาะนะ
คุยกันปกติ...55555555
เข้าใจภาวะอารมณ์ของคนคู่นี้ไหม?
COMMENT PLEASE
5555. คุณพ่อคุณแม่จอมเห่อ เกี่ยงกันทำคะแนนกับลูกใหญ่ แม้แต่ชื่อยังเถียงกัน แต่ชื่อเป็นแนวน้องสัตว์ทั้งนั้นเลยนะคะ อาเสือ หุหุ อยากเห็นแฝดใส่ชุดเสือ คงน่ารักน่าเอ็นดู อุ้ย ต้องพูดว่าน่าเกลียดน่าชังใช่รึเปล่า แหะๆๆ
ตอบลบชื่อเล่นน่ารักดี
ตอบลบ