วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตอนที่ 40 ปรับตัวรอบที่ล้านแปดดดดดดดด








ตอนที่ 40 ปรับตัวรอบที่ล้านแปดดดด 
            ตื่นแล้วแต่ยังไม่ลืมตา รู้สึกตัวทุกขณะแม้กระทั่งตอนนี้ที่มีใครบางคนกำลังถอดถุงเท้าผมออกนั่นทำให้เกิดความหงุดหงิดขึ้นเล็กน้อย ผมลืมตาขึ้นมาและชักเท้ากลับ เหมือนโดนก่อกวนยามที่กำลังนอนขี้เกียจสบาย
            “อากาศร้อนแล้ว...อาเพิ่งปิดแอร์”
            “ปิดทำไมกาวยังนอนอยู่ไม่เห็นเหรอ”
            “เช้านี้กาวมีตารางลงสระ ถ้าไม่ตื่นตอนนี้จะไปสายได้”อาเสือบอกน้ำเสียงนิ่ม
            “ก็ตั้งสิบโมง”
            “นี่แปดโมงกว่าแล้วครับ เลยอาหารเช้ามาเป็นชั่วโมงแล้ว”
            “กาวยังอยากนอนอยู่เลย”อาเสือลูบผมอย่างเอ็นดู จุ๊บปากและลงไปจุ๊บพุงที่นูนขึ้นมาก ยอมให้ง่าย ๆ แบบนี้เพราะว่าเห็นแก่คนในท้องนี่แหละนะ จะยอมเชื่ออีกสักครั้งก็ได้...แต่ถ้าหลังจากนี้มีเหตุการณ์ประมาณนี้เกิดขึ้นอีก รับรองเลยว่าไม่ผมก็อาเสือต้องตายกันไปข้าง
            “ลุกเถอะ อาจะลงสระด้วย”พูดอย่างเอาใจ
            “จริงเหรอ?”ตาลุกวาวทั้งตื่นเต้นและแปลกใจ
            “อืม อาขอโทษที่ก่อนหน้านี้ดูแลไม่ดี...ต่อไปนี้อาจะทำทุกอย่างให้กาวเองนะ”
            “ก็แล้วแต่”น้ำเสียงไม่สนใจแต่อดยิ้มออกมาไม่ได้ ถ้าอาเสือต้องปรับตัวหรือทำอะไรเพื่อผมขนาดนี้ บางทีก็อยากจะทำให้อะไรให้เขาสบายใจบ้างเหมือนกัน
            ผมดึงแก้มอาเสือแก้เขิน แก้มที่ไม่มีหนวดอีกต่อไป
            “ชอบแบบนี้ใช่ไหม?”อาเสือถาม ผมเม้มปากกลั้นยิ้มน้อย ๆ พยักหน้าอาเสือเลยยิ้มตามไปด้วย ไม่ถูกล้อเลียนหรือทำท่าให้เขินเข้าไปใหญ่ นั่นไม่ใช่วิสัยของอาเสือและยิ่งจะทำให้ผมอายจนต้องกลบเกลื่อนด้วยการเหวี่ยงเอาได้
            ผมบอกตัวเองทุกก้าวที่เดิน ทุกอย่างต้องช้าลง สเต็ป ไม่ว่าจะเดิน นั่ง หรือทำอะไร เท้าของตัวเองค่อย ๆ ย่องแต่มั่นคง แค่คิดว่าจะลื่นล้มลงไปก็เป็นเรื่องสยองขวัญมากพอดู ตอนนี้เดินทีหลังจะหักอยู่แล้วต้องแอ่นตัวไปข้างหน้า เด็กสองคนในท้องต้องตัวใหญ่มากแน่ ๆ เพราะพุงเริ่มขยายใหญ่ขึ้น รอยแตกก็เยอะขึ้นน่าเกลียดสุด ๆ ผมไม่ยอมให้อาเสืออยู่ด้วยตอนใส่เสื้อผ้าเลยสักครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เอาเสื้อผ้าเข้าไปแต่งในห้องน้ำ ด้วยเหตุผลว่ากลัวลื่นล้มหัวฟาดพื้นไปซะก่อน ไม่รู้ว่ารอยแบบนี้จะเป็นปกติหรือเปล่า แล้วหลังคลอดจะกลับมาเป็นแบบเดิมไหมยิ่งคิดก็ยิ่งกังวลสุด ๆ
            อาเสือแต่งตัวเสร็จแล้วก็ยืนรอในห้องแต่ผมก็ต้องให้เขาออกไปแล้วล็อคประตู เพื่อที่จะมายืนดูสารรูปตัวเองในกระจก แล้วต้องตกใจมากกับคนที่กระจกสะท้อนออกมาเพราะทั้งอ้วนและที่หน้าท้องก็แตกลาย น่าเกลียดที่สุดเอาแป้งทากลบ ๆ ไว้ แต่ก็ไม่มิด สิ่งนี้มันรบกวนจิตใจจนทำให้ต้องขมวดคิ้ว รีบแต่งตัวแล้วออกมา
            “แค่แต่งตัวทำไมต้องให้อาออกมาข้างนอก”ผมส่ายหน้าสีหน้าเหนื่อย ๆ ไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรแล้ว อาเสือยกมือลูบหน้า
            “จุ๊บ...”อาเสือหอมแก้มก่อนประคองเดินลงมาข้างล่าง นั่งทานอาหารและหลังจากนั้นก็เดินทางไปโรงพยาบาล
            “อาเสือไม่ไปทำงานหรือไง?”ถามเพราะอาเสือไม่ได้แต่งชุดทำงาน นั่งรถมาครึ่งทางแล้วเพิ่งสังเกต
            “วันนี้ไม่ทำ”
            “ทำไม?
            “เดี๋ยวมีเด็กขี้งอนน้อยใจอีก...”
            “ไม่ได้งอนสักหน่อยเหอะ!!
            “หึหึหึ ไม่งอนเล้ยยยย ทำหน้างออีกแล้ว”ผมแยกเขี้ยวใส่ไม่โต้ตอบอะไร และกดโทรศัพท์หาไอ้บอลมันก็บอกถึงเอกสารการเข้าฝึกงาน เดือนหน้านี่แล้วผมคงต้องเตรียมตัวมาก อีกสามเดือนใกล้จะคลอดแล้ว...ไม่รู้ว่าการฝึกงานหรือคลอดจะเสร็จสิ้นก่อนกัน ไอ้บอลมันฝึกกับที่บ้าน ส่วนโรลมันคงมาฝึกกับผม ยังไงอาเสือก็ต้องเซ็นรับไว้ทั้งสองคนอยู่แล้ว ผมยังไม่บอกเรื่องนี้จนกว่าจะได้เอกสารมา เอาจริง ๆ คือ...เรียนวิศวะ ท้องก็โตแบบนี้อาเสือจะจับผมกับไอ้โรลลงตรงแผนกไหนของบริษัท?
            นั่งรอตรวจครรภ์ในห้องพิเศษ อาเสือจับมือไว้ตลอดเวลา เพราะหมอมาช้ากว่าปกติแต่ผมก็ยังไม่อารมณ์เสีย ในห้องมีหนังสือเด็กวางไว้ก็เลยหยิบขึ้นมาอ่าน
            “ถ้าเขาออกมาจะรักเขาหรือรักกาวมากกว่ากัน?”จู่ ๆ ผมก็ถามขึ้นตอนถามไม่คิด แต่ถามไปแล้วกลับคาดหวังในคำตอบอยู่ปานกลางถึงมากที่สุด อาเสือหัวเราะ
            “หาเรื่องอาอีกแล้วใช่ไหมคำตอบแบบไหนที่จะไม่ทำให้กาวหงุดหงิด?”โดนแซวกลับ ทำเอาผมเบะปาก
            “คำตอบที่มาจากใจจริง ๆ ไง มีไหม?”อาเสือยกมือผมขึ้นจูบแผ่วเบา
            “ก็รักทั้งหมดนี่แหละ อย่าหาเรื่องให้อานักเลย...อาเหนื่อยแล้วสู้กับกาวไม่ไหวหรอก”
            “ไม่ได้หาเรื่องสู้ด้วยสักหน่อย”แกล้งเปิดหนังสือดูไปเรื่อย
            “เชื่อใจอาบ้างไม่ได้เลยหรือไง?
            “ไม่รู้ ดูพฤติกรรมก่อน”พูดเสียงอ้อมแอ้ม อาเสือจ้องหน้านิ่งแต่ริมฝีปากติดอมยิ้มอยู่เล็กน้อย
            “ตั้งแต่ท้องดูท่าดีกรีความเอาแต่ใจจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเลยนะ...รู้ตัวรึเปล่าว่ากาวดื้อขึ้นมาก”
            “แล้วรับได้รึเปล่า?”ผมถามออกไปทันที รู้สึกแย่ในหัวใจอยู่หน่อย ๆ ก็รู้แหละว่าตัวเองเป็นคนงี่เง่าและเอาแต่ใจมากขนาดไหน ตลอดเวลาเคยเรียกร้องถามหาความอบอุ่นแต่ก็แสดงวิธีผิด ๆ มาตลอด อาเสือก็ไม่เคยเลยที่จะตอบสนองด้วยดี ๆ ตอนนี้มีเค้าในท้องก็เหมือนจะถูกปฏิบัติดีขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ เลยทำให้ผมได้ใจเข้าไปใหญ่ จะดื้อยังไงแค่ไหนก็ได้...อากัปกริยาก้าวร้าวที่แสดงออกไป เพียงเพราะต้องการดึงความสนใจจากคนตรงหน้านี้เท่านั้น
            “ทำไมถึงเงียบไป...”ถามเสียงแห้ง อาเสือยกมือลูบแก้ม
            “รับได้...ไม่ต้องกังวลนะ อาบอกแล้วไง...ว่าจะดูแลกาวกับลูกให้ดีที่สุด”
            “แต่กาวงี่เง่า เอาแต่ใจ...ชอบทำนิสัยไม่ดี”
            “ต่อไปนี้สัญญากับอาว่าเราจะค่อย ๆ ปรับกันไป อาไม่หวังให้กาวเปลี่ยนทุกอย่าง แต่แค่ลดอารมณ์ร้อนและนิสัยชอบอาละวาดกาวจะเป็นคนที่น่ารักขึ้น ได้ไหม”
            “นี่สอนหรือหลอกด่า?”อาเสือหัวเราะลั่นห้อง
            “พูดไม่ทันไรก็โมโหอีกแล้ว”
            “ไม่ได้โมโหสักหน่อยกาวแค่ถาม...”
            “เวลาเรากระตุกอารมณ์ขึ้นมาใส่อา สังเกตไหมว่ากาวชอบขึ้นเสียง”
            “ก็มันเป็นไปเองนี่...อาเสือยังเคยตวาดใส่”ทำหน้างอเล็กน้อย
            “แต่พอมีลูกแล้วอาเคยสักครั้งไหม?”ผมเงียบ
            “เค้ารับรู้ทั้งหมดนะ สิ่งที่กาวทำ...เค้ารู้มันทั้งหมด อาถึงอยากให้กาวสุขภาพจิตดีไง ก่อนหน้าที่จะมีเรื่องกาวก็ทำได้ดีแล้วนี่นา”อาเสือปลอบลูบที่ท้อง
            “กาวไม่รู้...พอโมโหมันก็ลืมทุกอย่าง ยิ่งนึกก็เริ่มจะโมโหขึ้นอีกแล้ว!”ผมบอก อาเสือลูบหลังมือ
            “ถ้าอาบอกว่าไม่มีใครก็คือไม่มีใคร กาวต้องฟังอา...ไม่อย่างนั้นต่อไปใครมายุอะไรอามิแย่เหรอ”
            “ก็อาเสือไม่น่าไว้ใจ”
            “แต่กาวต้องไว้ใจอา...”น้ำเสียงหนักแน่นและสีหน้าคมเข้มดูจริงจังขึ้นมาทันที
            “อาเสือไม่รู้ตัวหรือไงว่าตัวเองไม่น่าไว้ใจ”
            “แต่อาน่าไว้ใจกว่าอีกหลายคน”
            “ใคร?
            “ไอ้พตของกาวไง”
            “พี่พตเกี่ยวอะไรด้วยเออ พูดถึงพี่พต...วันนั้นที่แถลงข่าวกาวเห็นเขามาด้วย แต่สีหน้าเขาไม่ดีต้องโกรธกาวแน่ ๆ เขาบอกเสมอว่าอย่าเสียท่าให้คนเลว ๆ”อาเสือแสยะยิ้ม
            “หึหึหึ อาเป็นคนเลว ๆ เลยเหรอหึหึหึ แต่ก็เสียมาทุกท่าแล้วนี่นะ”
            “ทุเรศ”อุบอิบเบา ไม่เงียบลงทันที...เอาไว้จะโทรไปหาพี่พตดีกว่า เหมือนว่าเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
            “รู้ไว้นะกาว...ว่ามันเป็นคนที่ล่ารายชื่อเพื่อขับไล่อาออกจากบริษัท”
            “ก็สมควรแล้วนี่”พูดแบบไม่แยแส แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยดีในใจ
            “ไม่มีบริษัทก็ไม่มีเงิน ไม่มีเงินอาจะเอาอะไรเลี้ยงลูกเมียดีละ?
            “ชิส์!
            “ปากเชิด ๆ นี่ทำไมไม่เถียงต่อ?”อาเสือเอานิ้วเกลี่ยปาก นั่งคุยอีกสักแปบหมอที่ดูแลผมประจำก็เดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี
            “สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่...เป็นยังไงบ้างครับ”
            “ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ”อาเสือบอก แต่คุณหมอก็ยิ้มอย่างเข้าใจ
            “ผมได้รับข่าวเยอะแยะเลย หวังว่าคุณแม่จะอารมณ์ดีไม่มีภาวะเครียดนะครับ”
            “มีเยอะเลยครับ”อาเสือบอกพร้อมหัวเราะ คุณหมอเปิดรายงานที่ผมไปตรวจร่างกายข้างนอกมาอ่านดูแล้วสอบถามอาการอื่น ๆ
            “ตอนนี้หายแพ้ท้องแล้วใช่ไหมครับ”
            “ฮะ”ผมบอก
            “เริ่มรู้สึกว่าเด็กดิ้นบ้างหรือยังครับ”
            “ประจำเลยครับ...เหมือนว่าจะแรงขึ้นด้วย”ผมบอก เอามือประคองท้องตัวเองเอาไว้
            “นั่นเป็นเพราะเด็กเริ่มจะโตขึ้นครับ ครรภ์แฝดแบบนี้ต้องดูแลระมัดระวังเป็นพิเศษเลย คุณแม่อาจจะปวดเนื้อตามตัวขึ้น ก็ต้องนวดทุกวันนะครับ หมออ่านรายงานที่เจ้าหน้าที่พิเศษไปทำโยคะที่บ้าน ก็ทำได้ดี...แต่คุณแม่มีอารมณ์ไม่คงที่ เหล่านี้มีอาจมีผลต่ออารมณ์ของเด็กในครรภ์ด้วยนะครับ”
            อาเสือมองหน้าประมาณว่า เห็นไหมละ..อาบอกแล้ว
            “วันนี้จะลงสระใช่ไหมครับ”
            “ครับ”
            “โอเคตรวจร่างกายแล้วดีไม่มีปัญหานะครับ น้ำหนักขึ้นดีนะครับ หมอขอตรวจชีพจรและอัลตร้าซาวน์กันเลยนะครับ”
            “ครับ”ผมบีบมืออาเสือ อยากรู้จะแย่ว่าเพศไหน ผลการตรวจวัดชีพจรดีไม่มีปัญหา นอกจากภาวะทางอารมณ์ส่วนอื่นไม่มีข้อบกพร่องอะไร ก็ถึงเวลาไปนอนเตียงหมอก็เอาครีมเจลมาทา ๆ ที่ท้อง แล้วเอาเครื่องมือมาเกลี่ยหมุนวนไปมา หน้าจอก็ปรากฏภาพที่ผมยังมองไม่ออกในตอนแรกพอเข้าที่แล้วก็เห็นภาพชัดเลย หลับตาพริ้มในนี้ อาเสือตั้งใจดูนิ่งไม่พูดอะไรสักคำ
            “ไหนขอดูหน่อยสิ....”หมอหมุนไปหมุนมา แล้วเอามือแตะท้อง
            “โอ้ว...ผู้ชายนะครับคนหนึ่ง ตา หู จมูก ชัดเจนนะครับ ส่วนอีกคน...”
            ผมหันไปจ้องหน้าอาเสือ อาเสือยิ้มกว้างเอานิ้วเกลี่ยแก้มผมเบา ๆ
            “ผู้ชายทั้งคู่ครับ”
            “ฮ่าฮ่าฮ่า.....”อาเสือหัวเราะถูกใจใหญ่
            “นี่ครับ ดูตรงนี้กับตรงนี้...จะเห็นได้อย่างชัดเจน” ผมพยายามมองดูเห็นเป็นปากจมูกชัดเจนและมีสองคนจริง ๆ ตัวเองอยากได้ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่ารักจะตาย จับแต่งตัวก็ได้
            “แน่ใจใช่ไหมครับ”
            “ครับ อ้า...นี่ฝั่งนี้จะเห็นเพศค่อนข้างชัดนะครับแน่นอนทีเดียว ถูกใจคุณแม่ไหมครับ”
            “อยากได้ผู้หญิงอ่า”หันไปอ้อนอาเสือ จนหมอหัวเราะ
            “ครั้งนี้เอาผู้ชายก่อน ครั้งหน้าค่อยมีใหม่”อีกคนหัวเราะอารมณ์ดีขึ้นมาก ลึก ๆ แล้วผมก็ดีใจจะแบบไหนก็รักหมดละ...แต่คิดดูนะ ผมก็น่ารักขนาดนี้ (โหมดชมตัวเอง) ถ้าลูกเป็นผู้หญิงแล้วหน้าเหมือนผมจะน่ารักขนาดไหน ขนาดเดินออกมาแล้วยังคิดไม่ตกว่าทำไมไม่เป็นผู้หญิงสักคนนะ!?!?!
            ออกมาห้องรองรับด้านนอกเพื่อรอยาบำรุงและรูปถ่ายอัลตร้าซาวน์ อาโชติก็ยิ้มแก้มแทบปริหลังจากที่อาเสือบอกว่าได้ผู้ชายคู่ สุดาก็ร้องดีใจ
            “ทำไมทุกคนถึงอยากได้ผู้ชายกันนัก”ผมถามหน้างอเล็กน้อย
            “แหม แบบไหนสุดาก็ว่าน่ารักหมดแหละค่ะ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นละคะ?
            “กาวอยากได้ผู้หญิงนี่”
            “อาบอกแล้วไง...ไว้ครั้งหน้า”พูดต่อหน้าทุกคนแบบนี้ทำเอาผมอายไม่น้อย อาโชติกับสุดาอมยิ้ม
            “ท้องเองแล้วกัน”พูดออกไปแก้เขิน
            ระหว่างนั้นได้พักทานของว่างข้างล่าง รอคลาสออกกำลังกายในน้ำพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่อีกสองคู่ ส่วนอาเสือโทรศัพท์คุยงานตลอดเวลา ในมือก็ถือไอแพดไปด้วยตรวจงาน
            “เปลี่ยนชุดเถอะค่ะ...”สุดาบอก ผมพยักหน้าหันไปหาอาเสือแล้วทำปากบอก อาเสือบอกกับคนในสายว่าให้รอก่อนแล้วพูดกับผม
            “รออาไปด้วย...”
            “อาเสือคุยงานไปเถอะ กาวจะไปกับสุดา”บอกเสียงเรียบ อาเสือพยักหน้า
            “สุดาจะเข้าไปช่วยได้ไง โชติไปกับกาวหน่อย”
            “ครับ”อาโชติถือกระเป๋าออกเดินนำ สุดาคอยจูงมือและประคองกอดที่เอว
            “เดินระวังด้วยนะ”
            “ครับ”ออกมาอีกทีเห็นอาเสือนั่งทีเดิม แต่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว พอเห็นผมเดินไปก็ปรี่เข้ามารับช่วงต่อจากสุดา ผมประหม่าเล็กน้อยอาจเพราะเป็นครั้งแรกที่อาเสือจะมาร่วมทำกิจกรรมนี้ด้วย ครูสอนรอให้ผมลงสระอย่างใจเย็น และอาโชติก็ถ่ายวิดีโอเก็บไว้ตลอดการทำเลยทีเดียว
            มีคู่อื่นอีกสองคู่ เป็นคู่ชายหญิงปกติ พอเห็นเราสองคนก็ทำให้ผมเขอะเขินไม่น้อย แต่พวกเขาก็ดีมากเข้ามาพูดคุยว่าท้องกี่เดือนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันโดยไม่รังเกียจ ทั้งคู่เพิ่งท้องแรกเช่นเดียวกับผม
            พอเทรนเนอร์มาถึงก็ให้ผมลงน้ำทันที อาเสือประคองเดินลงไปยืนใต้น้ำ
            “สวัสดีค่ะ ดิฉันอ้อนะคะ...จะมาเป็นเทรนเนอร์ออกกำลังกายใต้น้ำให้วันนี้ เริ่มแรกอยากให้คุณแม่ลองขยับตัวไปมาให้ชินกับน้ำก่อนนะคะ”ผมทำตาม
            “เราจะเริ่มกับไปช้า ๆ ทีละท่านะคะ สบาย ๆ”เพลงโมสาร์ตถูกเปิดคลอไปด้วยเบา ๆ มันยิ่งกว่าผ่อนคลายซะอีก ผมทำท่าเดินบ้างแกว่งแขนบ้าง อาเสือก็ช่วยจับและประคอง เทรนเนอร์คนนี้พูดอะไรหลายอย่างที่ตลกและทำให้ต้องหัวเราะออกมาหลายต่อหลายครั้ง ผมสบายใจและสนุกไปกับคลาสนี้ที่สุด
            “ชอบไหม”อาเสือกระซิบถาม
            “อือ”
            “กาวยิ้มแล้วน่ารักจะตาย”หันไปยิ้มให้อาเสือ ออกกำลังแบบนี้ใช้เวลา 45 นาที ผมต้องมาทำอาทิตย์ละ 2 – 3 ครั้ง เพราะใกล้จะแปดเดือนแล้ว หลังจากนี้จะทำไม่ได้ เทรนเนอร์บอกว่ามันอันตรายเกินไป อาเสือรับปากว่าจะมาด้วยทุกครั้ง
            “รับปากเดี๋ยวก็ทำไม่ได้อีก!”ผมบอก
            “รอดูไปแล้วกัน ที่กาวรับปากอะไรไว้กับอาก็ทำได้ด้วยรู้ไหมครับ”
            “ด้ายยยย”กัดฟันพูดแกล้ง ๆ
            อาเสือถามว่าอยากไปไหนไหม ผมก็บอกว่าอยากไปซื้อของเตรียมไว้เลย อยากเดินเลือกซื้อทุกชิ้นก่อนจะเดินไม่ไหว อาเสือเห็นด้วยเลยพามาที่ห้างสรรพสินค้าของตัวเอง ที่เดิมที่เกิดเรื่องคราวนี้มาแบบส่วนตัวไม่ได้ใส่สูทมาทำงาน พนักงานก็ไม่ได้เตรียมตัวอาเสือเดินผ่านแต่ละแผนกก็มีคนยกมือไหว้ใหญ่เลย
            บางคนอาเสือก็แนะนำผมให้รู้จัก
            “น่ารักมากเลยค่ะ”ผู้จัดการฝ่ายคนหนึ่งเอ่ยกับผม แล้วก็มีคนมาดูผมเรื่อย ๆ ทั้งพนักงานและคนที่เดินไปมา เขาคงอ่านข่าวละมั้ง บางคนก็ถือกล้องมาถ่ายรูปด้วย
            “น่าเสียดายจัง...น่ารักทั้งคู่เลย”
            “ท้องกี่เดือนแล้วคะ”อันนี้คำถามยอดฮิต ผมจับมืออาเสือไว้ตลอดเวลา ไม่ได้ประหม่ากับฝูงชนแต่พอเยอะมากเข้า ก็มีการ์ดมากันออกสักหน่อย บางคนก็ซุบซิบกันอยู่ไกล ๆ อย่างกับดารา!!
            “เป็นครั้งแรกเลยที่หลังจากแถลงข่าวแล้วเราก็ออกมาปรากฏตัวแบบนี้”อาเสือว่า
            “อือ”
            “อึดอัดไหม?
            “ไม่ กาวเฉย ๆ”ผมบอก ดีเอาให้รู้กันไปทั่วประเทศเลยยิ่งดี!!!
            เราเดินซื้อของใช้เด็กอ่อนที่จำเป็นทั้งชุด ถุงมือ ถุงเท้า หมวก ผ้าอ้อม ไปจนถึงเครื่องอาบน้ำ กะละมัง แต่รู้สึกว่าอาเสือจะเลือกแต่ลายเสือของตัวเองอย่างเดียวเลยนะ!!! ผมชำเลืองมองในรถเข็น มีแต่ลายเสือจริง ๆ ด้วย!!!
            “อาเสือ!
            “ครับ?”อาเสือหันมาแล้ว ผมชี้ไปที่ของ
            “ทำไมมีแต่ลายเสือ!
            “เอ้าก็มันน่ารักดีนี่”
            “ลายอื่นก็มี ยีราฟก็น่ารัก”
            “แต่สีมันไม่สวย”
            “นี่ก็ลายเสืออีก!” เหอะ!!!!! อาเสือเดินมากอดไหล่
            “ก็พ่อเป็นเสือนี่!!!
            “อาทำแบบนี้เหมือนกาวเป็นส่วนเกินเลย ของใช้มีแต่ลายเดียวแบบนี้”พูดอย่างน้อยใจ อาเสือเบิ่งตาโตไม่คิดว่าผมจะคิดถึงประเด็นนี้ได้
            “อาไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้นนะ”
            “แต่ก็ทำอยู่ใช่ไหม”
            “โอเค ๆ งั้นเปลี่ยนเอาลายอื่นบ้าง”ผมพยักหน้าเลือกเปลี่ยนของอย่างสบายใจ อาเสือหันมามองรถเข็นอีกทีแล้วหันมามองหน้าผม
            “โหลูกเป็นผู้ชายนะ...ลืมไปรึเปล่า”
            “แล้วทำไมละ?
            “ก็ดูกาวเลือกของสิ มีแต่สีชมพูทั้งนั้น”
            “โอ๊ย เด็กเล็ก ๆ น่ะใช้สีไหนก็น่ารักทั้งนั้นแหละ เนอะสุดา”
            “เอ่อ ค่ะ”ผมบอกไม่สนใจ เดินไปเลือกอย่างอื่นต่อ คริคริคริ....จะยืนเถียงต่อให้พ่ายแพ้หรือไง!!! อาเสือไม่กล้าหยิบของออกอยู่แล้ว ถ้าผมไม่ยินยอม!
            เดินมาเรื่อย ๆ จนถึงเตียงนอนเด็ก โหยน่ารักที่สุด!!!! ผมยืนลังเล เพราะเป็นเด็กแฝดแต่ขนาดเตียงมีแต่เตียงเดี่ยวทั้งนั้น
            “เอาไงดีสุดา”
            “ถามคุณท่านก่อนเถอะค่ะ เตียงแบบนี้ก็ดีมีช่องลมระบายอากาศด้วย”
            “แต่ดูมันน่าจะนอนได้คนเดียวนะ ถ้าสองคนก็ต้องเบียด ๆ”
            “นั่นสิคะ เอาไว้ค่อยไปดูที่อื่นก็ได้...ร้านขายของเด็กตรงแถว xx นั่นก็ดีนะคะ”
            “อ่อ ร้านใหญ่ ๆ ใช่ไหม”ผมนึกขึ้นได้เพราะเคยนั่งรถผ่านประจำ
            “ค่ะ จะไปดูไหมคะ...”
            “ถ้าเผื่อไม่มีละ?”ระหว่างที่ยืนตัดสินใจอาเสือก็เดินเข้ามา
            “อะไรกัน?
            “คุณกาวอยากได้เตียงค่ะ”
            “โหอันนี้ค่อยมาซื้อทีหลังเถอะ”
            “ทำไมละ! กาวอยากได้ไปไว้เลย!
            “ห้องก็ยังทำไม่เสร็จเลย...จะเอาไว้ตรงไหน”
            “ก็ห้องที่นอนข้างล่าง”ดื้อใส่เพราะอยากได้ อาเสือเงียบแต่ก็ยอมเดินมาสำรวจดู
            “อาว่ามันเล็กไป”
            “กาวก็ว่าเล็ก...”คนที่บอกไม่อยากได้ถามหาพนักงานและสอบถาม ได้ความว่าไม่มีไซส์อื่นเลย ผมทำหน้าเสียใจ
            “เดี๋ยวอาพาไปดูที่อื่น”ห้างตัวเองแท้ ๆ ยังได้ของไม่ครบ เหอะ!!!!!
            “ทำไมที่นี่ไม่มีของอ่า?”ว่าจะงอแงกับอาเสือคนเดียวนะ แต่พนักงานทำหน้าไม่สู้ดีและเป็นคนตอบแทน
            “ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีเด็กแฝดค่ะ เราเคยเอาของมาแต่ก็วางไว้จนสินค้าเก่าต้องคืนโรงงานไป”
            “เสียดาย”ทำหน้าเซ็ง
            “เอาน่า เดี๋ยวอาพาไปดูที่อื่น”อาเสือจูงมือเดินออกมา ดูว่าของได้ครบที่ต้องการแล้ว พาผมไปนั่งทานข้าวให้อาโชติกับสุดาจ่ายของแล้วตามไปสมทบทีหลัง ผมทานไปเยอะทีเดียวเพราะอร่อยถูกปากดี อาเสือนั่งฝั่งตรงข้ามสุดาเดินมานั่งข้าง ๆ ผมกระซิบใส่หูสุดา
            “มีเรื่องจะบอก”
            “อะไรคะ”สุดาถามเสียงเบา
            “พูดตรงนี้ไม่ได้...”สายตาสุดานี่แบบว่าจะเจอเรื่องเดือดร้อนอีกแล้วใช่ไหม น่าขำจนอยากหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย อาเสือลอบสังเกตแล้วถามขึ้น
            “อะไรกัน?
            “ไม่บอก!”ผมบอก อีกคนก็ไม่ถามต่อผมรอจนทุกคนทานเสร็จแล้ว เดินออกมาหน้าร้านแล้วกระซิบกับสุดา ตอนแรกว่าจะไม่บอกก็ไม่ได้ สุดท้ายคิดว่าถ้าบอกสุดาคนเดียวคงไม่เป็นอะไร
            “สุดา”
            “คะ?
            “อย่าทำหน้าอย่างนั้นได้ไหมเล่ากาวไม่ได้ตัวสร้างปัญหานะ”สีหน้าสุดาเตรียมรับมือเต็มที่
            “โธ่ ก็ดูแต่ละเรื่องที่ผ่านมาสิคะ สุดาแทบจะกลั้นหายใจรอฟังเลยทีเดียว”ผมหัวเราะ
            “ตรงท้องเป็นอะไรไม่รู้ แตกลายเต็มเลย”ผมเอามือป้องปากด้วย อาเสือก็ยืนมอง
            “อ๋อ”
            “อะไรเหรอสุดา”อาเสือถาม
            “อย่าบอกนะ!!!!!”ปิดปากคนสนิท “ถ้าพูดออกไปโกรธจริง ๆ ด้วย”ขู่ออกไปแล้ว สุดาเลยได้แต่ยิ้มขื่น ๆ ให้อาเสือ
            “จะซนอะไรอีกนะ...”
            “เปล่าซะหน่อย!
            “งั้นกลับกันเถอะ”
            “เอ่อ...เดี๋ยวสุดาขอไปซื้อของอย่างนึงก่อนแล้วกันนะคะ ไปรอที่รถเลยก็ได้”อาเสือพยักหน้า ผมใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย แต่ระหว่างรอก็ยังนั่งกัดเล็บไปนานสองนาน
            “กังวลอะไรกาวให้สุดาไปซื้ออะไร”
            “เปล่า”อาเสือไม่ได้คาดคั้นอีก รวบตัวผมเข้ามากอดให้นอนซบไหล่ ส่วนอาโชตินั่งประจำตำแหน่งคนขับรถไปเรียบร้อย หันมายื่นหนังสือให้อาเสือ
            “นี่ครับ”
            “อ๋อ มีกี่เล่ม”
            “สามเล่มครับ”อาเสือหยิบออกมา เป็นหนังสือชื่อมงคล ตั้งชื่อลูกอะไรแนว ๆ นี้ ผมหยิบมาดูเล่มนึง มีชื่อเยอะแยะเลย
            “จะตั้งเลยเหรอ”ผมถาม
            “ดูไว้คร่าว ๆ คราวหน้าถามหมอว่าวันคลอดวันไหนแน่ กาวอยากผ่าหรือคลอดเอง”ผมนิ่ง
            “ถ้าผ่าก็เจ็บน้อยแต่เป็นแผลนาน แต่คลอดเองก็เจ็บตอนคลอดแต่ไม่นานแผลก็หาย”
            “ไม่รู้สิ”เสียงแห้งไปโดยอัตโนมัติ
            “งั้นพอใกล้ ๆ เราค่อยคิดกันอีกทีนะ”
            “อือ”อาเสือจ้องหนังสือไม่วางตาเลยทีเดียว
            “กาวจะตั้งชื่อเค้าเอง!
            “หืม”
            “กาวจะตั้งเอง ทั้งสองคนเลย!
            “ให้อาตั้งดีกว่า กาวชอบแต่ชื่ออะไรก็ไม่รู้...”
            “อาเสือก็ชอบตั้งชื่อโหด ๆ กาวไม่ชอบอะไรพวกเสือ สิงห์ กระทิง แรด ไม่ต้องเอามาตั้งชื่อลูกกาวนะ”ดักคอไว้ก่อน เดี๋ยวก็เอาแต่ตัวอักษรที่คล้องกับตัวเองอีก!
            “หึหึหึ....”สุดาขึ้นรถมาแล้วก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันที ผมไปอาบน้ำแต่ออกมาเห็นอาเสือยืนถือกระปุกรอ
            “สุดาฝากอาเอามาให้”
            “เอามา”
            “ใช้เป็นหรือไง...มานอนลงอาทาให้”
            “อะ อะ อะไร”ไม่กระชับเสื้อคลุมตัวเองแน่นมือ อาเสือหัวเราะก่อนจะพาไปนอนที่เตียงแล้วคลี่เชือกมัดหลวมนี่ออก
            “อย่ามองนะ!!!!!”ตะโกนออกไปดึงเสื้อปิด
            “ไม่เป็นไร ๆ ชู่ว....”คนโหดจูบตรงขมับแล้วเอาผ้าผืนเล็กยื่นให้ ผมรับมาแล้วเอาปิดหน้าอย่างรู้งาน
            “มีรอยแตกลายใช่ไหม เป็นเรื่องปกติของคนท้อง...”อาเสือว่า ค่อย ๆ บีบเนื้อครีมแล้วทา ผมนอนตัวสั่นทีเดียว มือหนาไล้ไปตามร่างกาย อายสภาพตัวเองแทบมุดดินหนี!!!
            “อีกไม่กี่เดือนก็จะได้เจอหน้ากันแล้วนะครับ...”อ้อยอิ่งอยู่นั่น
            “เร็ว ๆ สิ หนาวนะ”อาเสือใช้มืออุ่น ๆ ทาให้ทั้งหน้าท้อง แขน และขา
            “เสร็จแล้ว”
            “อะ ออกไปสิ!
            “ฮ่าฮ่าฮ่า ใช้เสร็จก็ไล่เลยนะ...”คนบ้าเอามัดเชือกไว้ให้ตามเดิม แต่ผมยังซ่อนใบหน้าใต้ผ้าผืนเล็กไม่ยอมเปิดออกมาเด็ดขาด!!!
            “ออกไปสิ!”ไล่อีกที อาเสือก้มลงจูบผ่านผ้าแล้วเดินออกไป
            “อานั่งตั้งชื่อลูกข้างนอกนี่ มีอะไรเรียกนะ!!!!
            “อะไรอ่ะ!!!!! เขาเป็นของกาว กาวไม่ให้คนอื่นตั้ง!!!!!!!”ตะโกนห้ามแต่อาเสือรีบร้อนออกไปแล้ว บ้าชะมัด!!!! รีบแต่งตัวแล้วออกมาข้างนอก!!!!!
            ไหนบอกดูไว้คร่าว ๆ ไงว่ะ!?!??!?! มีจดไว้ด้วย!!!! ผมยกขึ้นมาดู
            “สรสิช สรัส สรัชทำไมสอเสือหมดเลยอ่ะ!!!!”อาเสือชะงัก
            “อันนี้อาเขียนที่ชอบไว้เฉย ๆ”ผมเริ่มหน้างอมากแล้ว!!!!
            “ก็เขียนสอเสือไว้ก่อน เดี๋ยวเอาค่อยเอากอไก่ชื่อของกาวไง”
            “..................................................”เงียบ
            “คุณแม่หน้างออีกแล้ว คุณหมอบอกว่าไง...ให้อารมณ์ดีใช่ไหม”
            “............................................”
            “วัน ๆ จะงอนอากี่รอบกันเนี่ยคุณกรินทร์!?
            “............................................”
            “อ่ะ อาให้เล่มนี้”
            “ไม่เอา กาวบอกจะตั้งชื่อให้เค้าเอง”
            “ไม่ได้ ต้องดูฤกษ์ด้วย”
            “แล้วทำไมอาเขียนไว้เนี่ย!
            “อาจดไว้เฉย ๆ ยังไม่ได้เอาชื่อนี้สักหน่อย”
            “กาวก็บอกว่าจะตั้งเอง ๆ”
            “ลูกมีสองคนแบ่งคนละคนได้ไหม...”โดนต่อรองซะละ ถ้าไม่ออกมาใช้สิทธิ์อาเสือเนียน ๆ ตั้งทั้งสองคนชัวร์!
            “ไม่ได้ลูกกาว”
            “แล้วไม่ใช่ลูกอาใช่ไหม?
            “กะ ก็ใช่...แต่กาวจะตั้งเอง”
            “งั้นคิดชื่อมาก่อน แล้วเราค่อยมาเลือกด้วยกัน”
            “โอเค ทั้งชื่อเล่นชื่อจริงเลยนะ”ผมบอก อาเสือพยักหน้า
            “ไม่เอาเสือ สิงห์ กระทิง แรดนะ!!!!!”บอกอีกครั้ง อาเสือหัวเราะ เราใช้เวลาช่วงเย็นค้นหาชื่ออย่างเอาเป็นเอาตาย จมอยู่หน้าแผ่นกระดาษของตัวเอง จากโต๊ะที่สะอาดตอนนี้รกไปด้วยหนังสือ โน้ตบุ้คเปิดหน้าเว็บค้นหาชื่อ และกระดาษจดพร้อมคำแปล
            “อาได้ชื่อเล่นแล้ว”อาเสือยิ้ม ผมมองอย่างสนใจ
            “บอกมาก่อนถ้าไม่ดีกาวไม่เอา”
            “โอเคน้องหมี”
            “แหวะ!!!!! ไม่เอาไม่ผ่าน!!!!!
            “ไม่ดีเหรอ อาว่าก็น่ารักดี”ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วอ่านในกระดาษตัวเองต่อ
            “กระทิง”
            “กาวบอกว่าไม่เอาชื่อนี้!!!!
            “งั้นก็นี่ สิงโต”
            “อาเสือฝังใจอะไรทำไมเป็นชื่อสัตว์หมดเลย!!!!!
            “ก็อาเป็นเสือใช่ไหม ลูกเป็นสิงโตก็เท่ห์ดี”
            “งั้นกาวก็ได้ชื่อแล้ว!
            “ว่า”
            “ฉลาม”เพราะตัวใหญ่เอาไว้ข่มอาเสือ
            “งั้นอาเปลี่ยนเป็นปลาวาฬ”อาเสือเลือกชื่อสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่ามาทับผม
            “ไม่ได้!!!! ห้ามเปลี่ยน!!!!!”แข่งกันตั้งเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายยังไม่ลงเอยสักชื่อ แต่ผมชอบสิงโตกับฉลามนะ ดูดุดันสมเป็นลูกผมดี ส่วนชื่อจริงอาเสือว่าจะไปให้พระตั้ง แต่ต้องเอาวันคลอดไปให้ท่านดูอีกที
            “อาว่าชื่อลูกเราโหดไปนะ”หัวเราะออกมาพร้อมกัน ก็ดูพ่อกับแม่สิ...เหอ ๆ โหดพอไหมหรือว่าไงดี???
            



สงสัยอาเสือกลัวลูกไม่รักมั้ง ยัดเยียดข้าวของเป็นรูปเสือหมดเลย 
กะจะเล่นสงครามจิตวิทยาเหรอออออ
55555555555555
อ่อ...ช่วงที่กาวเหมือนทะเลาะกับอาเสือ กาวไม่ได้งี่เง่าและชวนทะเลาะนะ
คุยกันปกติ...55555555
เข้าใจภาวะอารมณ์ของคนคู่นี้ไหม?  



COMMENT PLEASE
 











2 ความคิดเห็น:

  1. 5555. คุณพ่อคุณแม่จอมเห่อ เกี่ยงกันทำคะแนนกับลูกใหญ่ แม้แต่ชื่อยังเถียงกัน แต่ชื่อเป็นแนวน้องสัตว์ทั้งนั้นเลยนะคะ อาเสือ หุหุ อยากเห็นแฝดใส่ชุดเสือ คงน่ารักน่าเอ็นดู อุ้ย ต้องพูดว่าน่าเกลียดน่าชังใช่รึเปล่า แหะๆๆ

    ตอบลบ