ตอนที่ 32 อยู่ใครอยู่มัน
เสียงก๊อกแก๊กทำเอาผมตื่น แสงจากผ้าม่านที่เปิดไว้แยงเข้าตา จนต้องหรี่ตาเล็กน้อย ลอบมองซ้ายขวา เห็นหลังของคนคุ้นเคยกำลังทำงานกันอย่างขมักเขม่น
“ตื่นแล้วเหรอคะ”
“อืม อาเสือละ?”คำแรกที่ผมถาม เพราะไม่เห็นอยู่ในห้อง
“ลงไปสั่งงานค่ะ เช้านี้คุณท่านให้จัดอาหารขึ้นมาข้างบน คุณกาวลุกไหวไหมคะ?”
“อือ”ผมตอบไปส่ง ๆ ลุกขึ้นสั่งอย่างช้า ก่อนจะมองบนโต๊ะที่มีอาหารวางอยู่จริง ๆ
โอ้ มาย ก็อดดดดด!!!!!!!! เบิ่งตาโตขึ้นกว้าง แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น อาหารจริง ๆ อาหารเช้าแบบที่ตั้งโต๊ะข้างล่าง แต่ที่แปลกใจสุดที่สุดคือ...อาเสือให้คนยกมากินข้างบนได้เนี่ยนะ!?!?!?! ช่างเป็นเรื่องประหลาดที่สุดในสามโลก แค่ผมซ่อนขนมยังโดนตรวจเจอเอาไปเก็บทิ้งหมด
“เดี๋ยวมดขึ้น อาไม่ชอบ!”อาเสือเคยว่าอย่างนั้นนะ กินลูกอมนี่ถึงกับโดนพาไปตรวจฟันอย่างละเอียด อาเสือไม่ชอบให้ฟันผุ ไม่ชอบให้กินขนม บอกว่าไม่มีประโยชน์ แต่ผมก็แอบกินอยู่หลายครั้งทีเดียวเวลาที่อาไม่อยู่บ้าน
“อย่ามัวแต่ประหลาดใจเลยค่ะ ลุกขึ้นอาบน้ำแปรงฟัน จะได้มาทานของอร่อย”พี่อูก็พลอยบอกสีหน้าแช่มชื่น
“นี่เรื่องจริงเหรอ???”ผมพูดคล้ายละเมอ ทำเอาพี่แม่บ้านทั้งหลายหัวเราะขบขันกัน
“จริงสิคะ ดูทำหน้าเข้า...”
“อะไรเข้าสิงเค้าแต่เช้าละสุดา....นี่ทำกาวขนลุกตั้งไปหมดแล้ว”
“คิคิคิ อย่ามัวแต่พูดเล่นสิคะ ลุกแล้วก็ทำธุระให้เสร็จเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณท่านขึ้นมาจะโดนเอ็ดเอาอีก”สุดาพูดพลางจัดของบนโต๊ะไปด้วย เห็นมีสองชุด แสดงว่าอาเสือต้องมานั่งทานด้วยกันแน่นอน
ไม่รู้ว่าถ้าเดินขึ้นมาแล้วพบว่าห้องแสนหรูอาจมีกลิ่นอาหารติดม่านบ้าง อาเสือจะเอ็ดตะโรเหวี่ยงใส่แม่บ้านรึเปล่า? คิดแล้วก็สนุกชะมัด!
“ว่าแต่อาเสือให้ยกมาเหรอ”
“ค่ะ....”
“ทำไมกันนะ?”
“ไว้รอถามเองดีกว่าค่ะ”สุดาทำหน้ายิ้ม ผมตอบกลับด้วยสีหน้าเหนือกว่าประมาณว่า ถามแน่...ไม่ต้องห่วง
แม่บ้านพากันออกไปแล้ว ผมจึงพยายามลุกขึ้นอย่างยากเย็น เพราะอาเสือวางระเบิดเอาไว้เมื่อคืน ผมยืนแทบไม่ไหว แถมยังต้องประคองท้องของตัวเองเข้าห้องน้ำ ที่ไม่อยากเรียกคนอื่นเพราะอาย และกลัวว่าจะรู้ว่าเมื่อคืนผมโดนทำอะไรมา
ยืนแปรงฟันขาสั่นพั่บ ๆ
“ก๊อก ๆ กาว.....”เสียงอาเสือเรียก
“หืม”
“อาบได้ไหม...เปิดประตูให้อาหน่อย”
“มะ ไม่เอา”
“อาช่วย...”
“กาวทำได้...”ผมพยายามยืนอาบมือหนึ่งก็จับท้อง มือหนึ่งก็จับฝาผนัง ปล่อยให้น้ำชโลมความสดชื่นของร่างกาย เสียงอาเสือเงียบไปแล้ว แต่คิดว่ายังอยู่ในห้อง ใช้เวลาไม่นาน...ถึงได้แต่งตัว เหมือนว่าตัวเองทำอะไรก็ดูจะเชื่องช้ากว่าเดิมไปหนึ่งถึงสองสเต็ป บางทีก็หงุดหงิดที่ทำไม่ได้เร็วอย่างใจเหมือนเคย
“โอ๊ะ....”รู้สึกเหมือนโดนถีบออกมาจากท้อง เค้ากำลังดิ้นใช่ไหมเหมือนปลาตอดเลย
“คิดว่าอยู่ในนั้นแล้วจะซ่าได้หรือไง!!!!”ผมพูดออกมายิ้ม ๆ ก้มมองท้องตัวเอง
“กาว...คุยกับใคร?”อาเสือถาม พร้อม ๆ กับที่ผมเปิดประตูออกมา
“คุยกับคนพิเศษของกาว”ผมบอกสีหน้ายั่วยวน อาเสือเข้ามาประคองและจับหน้าท้องไปด้วย
“ของอาด้วยได้ไหม”
“ตอนนี้ยังไม่....”ผมรีบแก้ อาเสือมีสีหน้าสลดลงเล็กน้อยถึงปานกลาง
“แต่อนาคตอาจจะ....”คำพูดต่อมาของผมทำให้อาเสือยิ้มกว้าง
“พิเศษสำหรับอาสุด ๆ แล้วละ....ทั้งคนนี้แล้วก็คนนี้”มือหนาที่แปะอยู่บนท้อง มันอบอุ่นไปจนถึงหัวใจผมจริง ๆ นะ เหมือนหัวใจพองโตแล้วก็เต็มตื่นมาก
“พูดอะไรก็ไม่รู้ กาวหิวข้าว”
“เอ้า...หิวแล้วก็มากินสิครับ เต็มที่เลย”
“ทำไมวันนี้ให้ยกขึ้นมาข้างบนละ?”ปากถาม แต่ตาสำรวจอาหารบนโต๊ะไปแล้ว
“กลัวคุณแม่เหนื่อย”สีหน้าอาเสือทำให้ต้องหน้าแดง
“คิดว่ากาวจะหมดพลังง่าย ๆ หรือไง?”
“หึหึ เอาไว้ออกกำลังกายอาจะใส่ไม่ยั้งเลยแล้วกัน พอ ๆ เวลาทานไม่ต้องพูดแล้ว”
“อืออออออ”ทำหน้างอ โดนขัดใจอ่ะ!!!!
“อันนี้ของชอบกาว”อาเสือรีบเอาใจ
“..................................”หน้างอแต่ตักข้าวกินเข้าปากงึมงำ ๆ เพราะต้องคอยตัก และหั่นไส้กรอกให้ผม อาเสือเลยไม่ได้กินสักที ไม่รู้ละ...ไม่กินกาวก็ฟาดเรียบ คิคิคิ
“เปื้อนหมดแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตเวลากาวกินของที่ชอบ....ปากเลอะแบบนี้ก็ไม่เคยสนใจเลย”นั่งมองผมกินแล้วบ่นไปด้วย
“ก็มันอร่อยนี่!”ผมเคี้ยวพลาง โยกหัวพลาง...
“หึหึหึ....”
“วันนี้กาวจะไปข้างนอกกับไอ้บอล”
“ไปไหน?”
“ไปดูหนังตอนเที่ยง แล้วสักเย็น ๆ ก็ไปดูพวกมันเล่นบอลที่สนามด้วย”
“จะอันตรายไหม”อาเสือถามจริงจัง
“ไม่...เพราะกาวไม่ได้ลงไปเล่น แค่นั่งดูบนอัศจรรย์”ผมบอก
“อาจะบอกอาโชติขับรถให้....”
“ไม่ต้อง ๆ ไอ้บอลมันขับรถมันมา อาโชติขับตามก็พอ”
“อย่าดีกว่า อาไม่....”
“อืออออออออ”คว้ามืออาเสือแล้วคายอาหารใส่มือ ที่ทำเพราะโดนขัดใจและอยากให้อาเสือรู้ว่าไม่ชอบ อีกคนหนึ่งส่ายหน้ายิ้ม ก่อนจะทิ้งเศษอาหารลงในจานเปล่าแล้วเอาทิชชู่มาเช็ดมือ
“จะไปให้ได้เลยใช่ไหม”
“ก็ขัดใจทำไม!!?!?”
“อาพูดรึยังว่าไม่ให้ไป!”อาเสือพูดเสียงนิ่ง ทำเอาเถียงไม่ออก แต่อยากจะเถียงต่อ....
“กะ ก็...ไม่บอกเล่า!!! ยึกยักอยู่ได้...”
“เฮ้อ...เรานี่นะ เคยคิดจะฟังความคิดเห็นคนอื่นก่อนบ้างไหมเนี่ย”
“คนอื่นกาวก็ฟัง แต่อาเสือกาวไม่ฟัง!”
“หึหึ...ดื้อกับอาตลอดเลย”
“ก็ดื้ออยู่คนเดียวแหละน่า”ก้มหน้ามอง ทำเอาอาเสืออมยิ้ม ฟัดแก้มผมใหญ่
“ดื้อกับอาคนเดียวจริง ๆ นะ”
“ไม่รู้ ๆ อยากกินขนมปังปิ้งอีก!!!!”ผมบอก เรียกหาขนมปังราดน้ำผึ้ง ไม่นานก็ถูกยกเสิร์ฟ วันนี้กินอาหารไปเยอะทีเดียว
ผมลงมาให้ทันก่อนอาเสือไปทำงาน เพราะต้องการบัตรเครดิตสำหรับซื้อของขวัญให้เพื่อน เงินที่อาเสือให้ใช้มีติดบัญชีอยู่นิดหน่อย ตั้งแต่ท้องอาเสือก็ไม่ได้ฝากเข้าให้อีก เพราะไม่อยากให้ออกไปไหน เลยเอาเข้าบัญชีของอาโชติแทน
“อย่าให้พลาด...ไม่งั้นฉันไม่เอาแกไว้แน่!!!”เสียงคำรามไม่ค่อยดังมาก แต่ได้ยินชัดเจนทีเดียว ผมยืนตรงขอบประตู ก็รู้ทันทีว่าเป็นอาเสือ
“คืนนี้ตีสอง ฉันจะเข้าไปเอาที่ท่าเรือ....ถ้าไปแล้วยังไม่มีข้อมูลให้ละก็ มึงเตรียมตัวตายได้เลย!”ตัวชาวาบตั้งแต่ได้ยิน ผมยืนตัวแข็งค่อย ๆ สอดตัวเองเข้ากับหลังม่าน แล้วยืนนิ่งอยู่ในนั้น
“ฮัลโหลว่ายังไงครับ?”น้ำเสียงอาเสือเปลี่ยนไปจากเมื่อกี้มาก เดาเอาว่าเป็นคนละคน
“ได้สิครับ ผมว่าง....สักบ่ายโมงเป็นไง คุณอรไปรอที่ร้าน xxx ก่อนก็ได้ครับ ผมเสร็จธุระแล้วจะรีบตามไป”
อีนี่ไม่จบ!!!!!! อาเสือก็ไม่จบนะ!!!!!!! หึหึ...นัดเจอกันงั้นเหรอ ได้....เดี๋ยวเจอกูแน่ทั้งสองคน!!!!!!!!!!!!!
หลังจากอาเสือไปทำงาน ผมนั่งรอไอ้บอลอยู่สักพักมันถึงขับรถมาจอดเทียบ ตัวเองเดินสะบัดหน้าขึ้นรถ ไม่อยากจะคุยหรือบอกอะไรอาโชติ จนคนอื่น ๆ ก็แปลกใจเพราะว่าอารมณ์เปลี่ยนไปจากเมื่อเช้าโดยสิ้นเชิง
“เป็นอะไรของมึง หน้าเชิดคอแข็งเข้าไป ไม่ปวดคอเหรอว่ะ”ไอ้บอลทักแล้วออกรถ ผมถอนหายใจอย่างลืมตัว ว่าเดินขึ้นรถมาแล้ว
“เออว่ะ เฮ้อออ...กูลืม”
“อะไรของมึง...วันนี้เอาไง จะไปไหนก่อน”
“ไปไหนก็ไปเถอะ กูเซ็ง ๆ”
“อะไรของมึงอีก ได้ออกนอกบ้านบ้างไม่ดีเหรอว่ะ”
“ก็ดี...”ตอบอย่างขอไปที ผมมองกระจกข้าง เห็นรถอาโชติตามมาติด ๆ
“แล้วทำหน้าเบื่อขนาดนั้นทำไม หรือว่าไม่สบายตัว???”
“เปล่า....”ขี้เกียจเล่า ไอ้บอลเลยไม่ถามเซ้าซี้อีก มันเปิดเพลงอะไรของมันไม่รู้ แต่สามารถกล่อมให้ผมนอนหลับได้ตลอดทาง
“ดูหนังก่อนแล้วกัน....ค่อยเดินซื้อของให้ไอ้สอง”
“อือ”บิดขี้เกียจ อาโชติจอดรถไม่ห่างกัน เดินมาหาผม
“จะไปไหนกันก่อนครับ”อาโชติถาม ผมหันหน้าหนี...ไอ้บอลเองก็อึดอัด จนมันบอกอาโชติเองว่าจะไปดูหนัง อาโชติถือเสื้อแขนยาวของผม เดินตามมากับลูกน้อง
เรายืนดูตารางหนังไม่นาน ซื้อตั๋วที่นั่งคู่ ส่วนอาโชติกับลูกน้องไม่ได้เข้าไปด้วย นั่งรออยู่หน้าโรงหนัง ผมจึงมีเวลาคิดจะทำอะไร ๆ แล้วค่อยบอกไอ้บอล
“มึง....ออกเถอะ”
“ไม่สนุกเหรอว่ะ...กูกำลังมันส์”
“มันส์เชี่ยไรละ จะไปไม่ไป...”ผมบอก
“ไปไหนหรือว่ามึงหิว อ๋อ...เสียงดังแบบนี้ลูกมึงเลยรำคาญสินะ?”มันเดาไปเรื่อย
“ไอ้เชี่ยบอล กูจริงจัง! มึงจะทำยังไงก็ได้...ให้กูสามารถหลบอาโชติออกไปโดยเขาตามไม่ทัน ตอนนี้เวลานี้กูมีเรื่องต้องไปจัดการ”
“เอาจริง?”
“เออ”เสียงหนังเซอราวด์รอบทิศทาง แต่ผมกับไอ้บอลนั่งใกล้กันแค่นี้ แล้วโซนที่เรานั่งก็ไม่มีคนอื่นด้วย ถัดไปก็อีกสี่ห้าแถวถึงจะมีคน เลยคุยจอแจกันได้
“มึงนี่ขยันหาเรื่องเนอะ คราวนี้อะไรอีกละ”มืดแต่ยังเห็นสีหน้าเหนื่อยใจของมัน
“อาเสือมีคนอื่น”บอกเสียงเรียบ
“เชรดดดดดด”
“กูจะไปดูให้เห็นกับตา แตกเป็นแตกวันนี้!!!”บอกเสียงมุ่งมั่น คือกูเกลียดอินี่มาก...หลายครั้งหลายหน บอกกูว่าไม่มีอะไร แต่ก็อีกหลาย ๆ ครั้งที่ออกไปทานข้าวกับมัน ถึงกูจะเป็นผู้ชาย...ไม่คิดละเอียดอ่อนเท่าผู้หญิง แต่กูก็เจ็บเป็นนะเห้ย!!!! ฮึก....
“มึงใจเย็น ๆ อาจไม่ใช่แบบที่มึงคิดก็ได้”
“แล้วเป็นแบบไหน กูคิดแบบไหน? ไม่คิดแบบไหน?”ผมเสียงดังขึ้น จนคนอื่นหันมองด้วยสายตาตำหนิ ไอ้บอลดึงแขน
“เบา ๆ ดิ เดี๋ยวโดนขว้างรองเท้าหรอก”
“กูไม่ทนแล้ว ฮึก ๆ มึงจะไปไม่ไป...”จะว่าบังคับก็ได้ ผมรอมันตัดสินใจช้า ๆ เพราะรู้ว่ายังไงมันก็ต้องพาผมไปอยู่ดี ไอ้บอลหลับตาพยักหน้า...ก่อนจะจับมือผมไว้แล้วบีบให้กำลังใจ
“ใจเย็น ๆ ดิ”
“ฮึก ๆ มึงรู้ไหม...เขาโทรนัดอีนั่นตอนอยู่ในบ้าน ทั้ง ๆ ที่มีกูท้องโตยืนอยู่ตรงนั้น”
“ใจเย็น ๆ เดี๋ยวมึงหายใจไม่ทันอีก”
“ฮึก ๆ กูเกลียดแม่ง! ชอบโกหก!”
“เออ ๆ ใจเย็น ๆ หายใจเข้าลึก ๆ เดี๋ยวกูพาไป...มึงไม่ต้องห่วง อย่าร้องดิ...คนมอง”ไอ้บอลพูดปลอบก่อนจะดึงผมออกมา พนักงานผู้ชายก็เดินมาถามว่ามีอะไรกันรึเปล่า
“เพื่อนพี่ไม่ค่อยสบายว่ะ....พี่ออกเลยแล้วกัน”มันบอก
“งั้นเชิญทางนี้ครับพี่”น้องเดินนำไปยังทางออก ซึ่งจะทะลุขึ้นตัวห้างด้านใน ไอ้บอลมันกระตุกมือก่อนจะเรียกน้องมาบอก
“พี่จอดรถไว้ข้างหลังนี้เอง เดี๋ยวออกประตูหลังดีกว่า”
“แต่ยังไม่เปิดเลยนะครับพี่”
“น้องช่วยเปิดให้หน่อยแล้วกัน จะเดินเข้าห้างต้องไปหาประตูอีกไกล เพื่อนพี่จะไม่ไหวเอา...”
“เออ ขอลงข้างหลังเถอะ”ผมพูดย้ำอีกที คราบน้ำตายังมีอยู่เปื้อนของข้างแก้ม น้องพยักหน้าก่อนจะบอกว่า
“เดี๋ยวผมเรียกผู้จัดการมาเปิดให้นะครับ”แล้วเขาก็วิ่งหายไป ก่อนจะได้กุญแจมาเปิด แถมยังช่วยหิ้วปีกผมจนถึงรถอีกด้วย
“ขอบใจมากนะน้อง”ไอ้บอลยื่นแบงค์ให้หนึ่งใบ น้องรีบโบกมือ
“ไม่เป็นไรครับพี่ ไปโรงพยาบาลไว ๆ เถอะครับ”
“ขอบใจมาก ๆ นี่ขนม...ของกิน พี่ให้”ไอ้บอลยื่นให้น้องพนักงาน เขาก็รับแต่โดยดี มันเพิ่งไปญี่ปุ่นกลับมา มีของกินเต็มหลังรถเลย คงจะของน้องมัน...
“ขอบคุณครับพี่”อยู่บนรถสองคนแล้ว มันถึงหันมาหาผม
“เอ้า...จะให้ไปไหนบอกมา!!!!”
อยู่กลางโรงแรมหรู ผมกับไอ้บอลใส่กางเกงยีนส์ขาด ๆ แว่นอีกอันปกปิดใบหน้า
“ทำเป็นมากินข้าวดีกว่า....”
“เออ”ผมเห็นด้วย พอพนักงานเดินเข้ามาถาม เราสองคนเลยถามหาห้องอาหาร แล้วเดินตามเขาไป ผมกับมันมาครั้งแรก แทบจะไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ ไม่เคยรู้ว่าที่นี่ใหญ่โตโอ่อ่าเพียงใด อาณาจักรของอาเสือ แค่คิดถึงตัวก็สั่นขึ้นมา เหมือนตัวเองกำลังเหยียบถ้ำเสือยังไงอย่างนั้น
“ที่นี่มีห้องอาหารหลายอย่างนะครับ ไทย จีน ฝรั่ง ไม่ทราบว่าจะเลือกทานห้องอาหารไหนดีครับ”โดนถาม แล้วผมกับไอ้บอลก็มองหน้ากัน
“อาหารไทย”ผมตอบ อาเสือไม่ทานอาหารฝรั่ง...ส่วนอาหารจีน
“เชิญทางนี้ครับ”ในห้องอาหารไทย ถูกต้องแต่งด้วยทุกอย่างที่เป็นบรรยากาศไทย ๆ ถึงขนาดมีต้นกล้วยด้วยนะ เข้าท่าดี...แต่ห้องอาหารมันมืด ๆ ไปหน่อย มีโซนนั่งโต๊ะกับทานขันโตก (นั่งพื้น) ซึ่งอย่างหลังผมคงนั่งไม่ไหว เลยเลือกนั่งโต๊ะสบาย ๆ ดีกว่า
“โอ๊ย....”
“เป็นอะไร!?!?!”
“เค้าถีบ...”กระซิบบอกมัน ไอ้บอลกลืนน้ำลายดังเอือก
“ไม่เป็นไร...นั่งสักหน่อยคงดี”ผมบอก เสื้อตัวโคร่งที่ใส่มา...หวังว่าไม่มีใครรู้ว่าผมท้อง เราสองคนสั่งอาหารมาทานเต็มโต๊ะ ไม่ต้องห่วง...บ้านไอ้บอลมันรวย คึคึคึ กินกันเพลินจนเกือบลืมว่ามาทำอะไร
“ฉันขอชามะลิร้อน ๆ นะ....คุณเสือมาแล้วเชิญมาที่โต๊ะนี้ด้วยละ”เสียงคุ้นหูจากโต๊ะข้าง ๆ ที่ถูกคั่นด้วยแผงผนังต้นไม้ ผมเงยหน้าดูเห็นเป็นสาวสวยที่ต้องการตัวอยู่พอดี ในมือกำช้อนแน่น
“สวัสดีครับ....วันนี้รับอะไรดีครับ”
“อะไรก็ได้ที่คุณเสือชอบ จัดมาให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย”
“แหม...คุณอรตามใจคุณเสือตลอดเลยนะครับ อย่างนี้สิครับ...ชีวิตคู่ถึงจะราบรื่น”
ชีวิตคู่งั้นเหรอ...เข้าใจประจบนะ เป็นอะไรกันแล้วเหรอ...ถึงใช้คำนั้น!?!?! ผมมองหน้าผู้จัดการก็พอจะเข้าใจ เป็นของแม่นี่แน่ ๆ
“มึง...เป็นอะไร”ไอ้บอลถาม ผมยกมือปิดปากมัน
“นี่ไง...คนที่กูหาตัว”
“นี่เหรอ?”ไอ้บอลยืดคอดู
“แล้วมึงจะเอายังไง”
“เสือคะ...ทางนี้ค่ะ”เสียงเรียกดังขึ้นก่อน ทำเอาผมกับไอ้บอลตัวนิ่งหลบแทบไม่ทัน แต่ถึงไม่หลบก็มองไม่เห็นอยู่แล้ว
“เป็นอะไรคะ หน้าดุเชียว”
“ผมมีธุระ...รีบทานเถอะครับ”อาเสือบอก
“อรสั่งอาหารไปแล้ว รอหน่อยนะคะ วันนี้วินัยไปไหนละคะ....ไม่ตามเจ้านายเหมือนทุกที”ผมนั่งฟัง
“ช่วงโชติโทรมาบอกว่าหลานผมหายไป”อืม...เร็วดีเหมือนกัน คงจะโทรรายงานกันแล้วแต่แปลกเนอะ ผมคิดว่าอาเสือจะออกไปหาผมเองซะอีก
“หลานคุณโตแล้ว ปล่อย ๆ แกบ้างเถอะค่ะ...”
“กาวไม่เคยไปไหน ถ้าไม่มีคนดูแล”
“หึหึ เพราะคุณไม่ปล่อยแกมากกว่าสิคะ บางทีแกอาจจะอยากไปหาแฟนบ้างอะไรบ้าง!”
“กาวไม่มีแฟน!”เสียงอาเสือตะคอกดัง จนผมกลัวว่าอีกคนจะผงะตกใจ
“เอ่อ ค่ะ ๆ ไม่มีก็ไม่มี...”
“คุณเอาข้อมูลที่ผมต้องการมารึเปล่า?”
“หึหึ มาถึงก็ถามหาเอกสารเลยเหรอคะ? เดี๋ยวสิ...ทานข้าวกับอรก่อน”
“ได้”คำตอบสั้น ๆ จากอาเสือทำให้ผมผิดหวังมาก
“วันเสาร์ที่จะถึงเราไปเที่ยวทะเลกันไหมคะ? อรได้กิ๊ฟวอเชอร์จากโรงแรมดังที่พงัน สามวันสองคืน...เราไปเที่ยวพักผ่อนกันสองคน ตอนนี้อากาศร้อน...ไปพักทะเลให้เย็น ๆ ค่อยกลับมาลุยงานต่อวันจันทร์”
ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ก่อนไอ้บอลจะคว้ามือผมได้ทัน ผมลุกขึ้นเหยียบเบาะ คว้าเหยือกน้ำเย็นที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเทลงรดหัวอิคุณอร เปียกไปทั่วทั้งตัว
“ซ่า!!!!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”เสียงกรีดร้องดังลั่น
“กาว!!!!!”อาเสือเงยหน้ามองอย่างตกใจ
“เวรละไอ้กาว!”ไอ้บอลกุมหัวตัวเอง
“เย็นดีไหมฮะ คุณอร”ยิ้มอย่างสะใจ พนักงานรีบวิ่งเข้ามา จะจับตัวผมกับไอ้บอล
“ปล่อยซีว่ะ!!!!!”ผมตะโกน ไอ้พวกนี้!!!!!
“อย่านะโว้ย”ไอ้บอลก็สู้เหมือนกัน แต่พนักงานก็จะจับเราสองคนไว้ คนนึงรวบไอ้บอลมันเลยสวนหมัดสะบัดออก อาเสือลุกจากที่เดินอ้อมโต๊ะมาหาผม
“ปล่อย!!!!!!”ผมตะโกน
“ไร้มารยาท!”ผู้หญิงหน้าด้านเดินตามมาทั้งที่ตัวเปียก ทำเอาผมหัวเราะเราะ
“เทรนใหม่ล้ำนำสงกรานต์เลยนะฮะ”
“แก!!!!!”ชี้หน้าจะด่าผม แต่ไม่กล้าออกปากเพราะอาเสือยืนขวางอยู่
“ทำอย่างนี้ทำไมกาว!!!!”
“เรื่องของกาว!”
“นิสัยไม่ดี พูดไม่รู้เรื่อง...”
“ปล่อยซิว่ะ ไม่รู้เหรอว่ากูเป็นใคร”ผมบอกไอ้พวกพนักงาน แต่ทุกคนยังลังเลจนไอ้บอลเดินมาจับแขนผม ออกจากมือไอ้พวกนั้น
“แต่ก็ไม่ต้องรู้หรอก...เพราะกูยังไม่รู้เลย ว่ากูเป็นใคร!”พูดใส่หน้าอาเสือ
“กาว....”
“อรไม่ยอมนะคะ คุณเสือต้องจัดการให้เด็ดขาดที่สุด”
“แล้วถ้าผมไม่ยอมบ้างละ? คุณสรนัฐจะจัดการอะไรให้ผมได้บ้าง”
นัดกินข้าว นัดกันไปเที่ยว ลับหลังผมงั้นเหรอ...? คิดแล้วน้ำตาจะไหล...น่าเสียใจชะมัด
"อาบอกแล้วใช่ไหม ไม่ให้ทำอะไรแบบนี้อีก"
“แบบไหนครับ? แบบที่ไม่ควรมาที่นี่ หรือแบบที่ไม่ควรแตะผู้หญิงของคุณ!”ผมผลักอกอาเสือ พนักงานทั้งหลายก็กรูกันเข้ามา แต่ไอ้บอลคอยระวังให้อยู่แล้ว
“อาไม่เคยมีอะไรกับคุณอร”อาเสือพูดแบบนั้นจะทำให้ผมดีใจเหรอไง?
“คุณเสือ!”เป็นนังผู้หญิงคนนั้นที่กรีดร้องขึ้นมาบ้าง
“และกาวก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับคนอื่นแบบนี้!!!!! อาไม่เคยสั่งสอนให้กาวนิสัยแบบนี้!!!!”อาเสือตวาดดังลั่นห้องอาหาร
"อะไร ๆ ก็เลวหมด ไม่เคยดีในสายตาอาหรอก!!!"
“เพราะกาวไม่ปรับตัวบ้างเลยต่างหาก จะอาละวาดอะไรอาก็รับได้เต็มที่ แต่ไม่ใช่มาอาละวาดใส่คนอื่น!!!!”อาเสือพูดออกมา ทำเอาผมน้ำตาคลอเต็มหน้า ทั้งเสียหน้า...และเสียใจที่สุด
“มึง....”ไอ้บอลลูบแขน
“ก็ทำไปแล้ว...สะใจสุด ๆ เลย!!! ทำไม!?!?! จะบีบคอเหรอ หรือจะตบจะตีดี? บอกไว้ก่อนเลย...จะอะไรก็ไม่กลัวทั้งนั้น"
“อรไม่ยอมนะคะ”พูดอีกแล้ว ผมก้าวเท้าจะไปหาอีก แต่ทุกคนเกร็งและขยับตัวปกป้องรวมทั้งอาเสือ
“กลับบ้าน! มีอะไรไปคุยกันที่บ้าน"
ปล่อย!!! ไม่ต้องมาจับ!!!!"
“งี่เง่าไม่เปลี่ยน ต้องให้อาทำยังไง!?!?!"อาเสือระเบิด น้ำตาเกือบไหลออกมาให้อับอาย แต่เพราะทิฐิทำให้ต้องกลืนมันเข้าไป ผมกำมือแน่น...ก่อนคลายและสะบัดลงบนหน้าอาเสือ
เพลี๊ย!!!!!! หน้าหันเลยทีเดียว วาวตาลุกโรจน์...แสดงให้เห็นว่าโมโหเต็มขั้น หน้าอาเสือเริ่มแดงไปจนถึงใบหู ถ้าจับตัวผมมาเขย่า ๆ และทำโทษได้ ผมคงยืนตายไปตั้งนานแล้ว พนักงานเองก็ตกใจ...คุณสรนัฐผู้ยิ่งใหญ่ ถูกเด็กที่ไหนไม่รู้มาตบเอาเสียหน้าหัน
"ต่อไปนี้....อยู่ใครอยู่มันแล้วกันง่ายดี!"
"ต่อไปนี้....อยู่ใครอยู่มันแล้วกันง่ายดี!"
ผมบอกก่อนจะเดินหนีออกมา เห็นแม่นั่นยิ้มเยาะน่าหมั่นไส้จนอยากจะจับมาตบคู่กันอีกสักทีสองที ไอ้บอลยืนอึ้งก่อนจะ...วางเงินค่าอาหารบนโต๊ะ แล้วเดินตามออกมา มันยังช้ากว่าอาเสือ
“กาว...”ผมสะบัดมือหนาออก น้ำตาไหลสองข้าง
“อยากจะไปกับคนของคุณก็เชิญ จะเอาเป็นหุ้นส่วนโรงแรม หุ้นส่วนชีวิต หรือจะเอาทำเมียห่าเหวอะไรก็เชิญ”ผมตะโกนด่า ยามสองคนเดินมาจะจับมือผม
“อย่ามาจับ!!!!”ผมตวาด
“กาว!!!!!!!”อาเสือตะโกนเหมือนจะต่อว่า แต่ผมเดินหนีออกมาก่อน
“ฮึก...”น้ำตาและเสียงสะอื้นเริ่มมา สุดท้ายก็ยังเดินถึงรถได้ละน่า ไอ้บอลรีบมาสตาร์ทรถทันที
“จะฟังอาก่อนบ้างได้ไหม”
“ฮึก....”ผมไม่ฟัง ไม่ให้แตะตัว รีบขึ้นไปนั่งรถอาเสือรีบเดินไปตรงคนขับเคาะกระจกไอ้บอลสองสามที มันหันมามองผมแต่ผมไม่มองมัน กลับหันหน้าออกไปหน้าต่างอีกทาง
“ครับ”
“พากาวไปส่งบ้านนะ...เดี๋ยวอาจะขับรถตามไป”
“เอ่อ....ครับ”มันรับคำ ก่อนจะออกรถ
“กูไม่กลับ นั่นไม่ใช่บ้านกู”
“มึงช่วยใจเย็น ๆ แล้วคุยกับเขาดิว่ะ”
“คุยแล้วจะได้อะไร มึงไม่รู้หรอก...นี่ไม่ใช่คนแรก คนอย่างอาเสือ...จะมีสักกี่สิบคนหลังจากนี้ แล้วกูต้องทำไง นั่งโง่ ๆ รอเขากลับบ้าน ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นงั้นเหรอ”
“มึงอาจคิดมากไป”
“เขานัดกันไปเที่ยวทะเลมึงไม่ได้ยินเหรอ?”
“กะ ก็ได้ยิน”
“คนไม่ไป มันต้องปฏิเสธป่ะ?”
“อืม”แต่อาเสือนั่งนิ่ง มันก็คล้ายตอบรับละว่ะ
“บอกกูว่าไปทำงาน สุดท้ายไปกับอินั่น...แล้วกูจะรู้อะไร”ผมร้องไห้ออกมาอีก ไอ้บอลปลอบตลอดทาง สุดท้ายผมร้องไห้จนหลับ มันบอกว่าไม่รู้จะพาไปไหนเลยพามานอนที่บ้านมันก่อน ได้ยินมันคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ ผมผงกหัวขึ้นจากที่นอนมัน ก็เห็นมันเดินออกจากห้องไปเลย
“ฮึก...”เริ่มร้องไห้อีกหน
“กาว....กาว”เสียงเรียกจากที่ไหน มันมืดผมมองไม่เห็น
“กาว...”คุ้น ๆ อาม่านเหรอ
“อะ อาม่าน...อยู่ไหน”ผมเรียก
“กาว...กาว กระโดดลงมา”ควันมันเยอะเกินไป ผมแสบตามองไม่เห็น อาม่าน...อยู่ไหน จะวิ่งไปตรงไหน!?!?!
“กาว...กระโดดลงมา กาว!!!!!”ผมโบกมือไล่ควัน แสบตา...มองไม่เห็นอะไรเลย ไฟกำลังโหมกระหน่ำเข้ามาทางนี้ จะวิ่งลงบันไดหรือวิ่งขึ้น ผมควรทำยังไง
“กาว!!! กาว...!!!!”เสียงเรียกของใครอีกไม่รู้หลายเสียง ผมกำมือแน่น
“กาว...อามารับแล้ว กาว”
“คะ ใคร...อะ ม่านเหรอ”ผมถามออกไป
“กาวครับ....กาว”เสียงทุ้มคุ้น ๆ แต่นึกไม่ออก ฮือ ๆ ไฟจะไหม้ทางนี้แล้ว ผมกลัว...
“กาว ๆ หายใจลึก ๆ กาว!!!!”
“อึก...”ผมเริ่มดิ้นและเกร็ง
“ไอ้กาว!!!! เรียกรถพยาบาลเลยไหมครับ”เสียงไอ้บอลนี่ ไฟไหม้แล้วมันอยู่ไหน?
“หนี!!!!”ผมร้องออกมา
“กาว...”เสียงอาเสือ ใช่แล้ว...เสียงอาเสือผมจำได้
“ฮึก...”
“หายใจเข้าลึก ๆ กาวครับ”อยู่ท่ามกลางไฟที่ลุกโชน แต่ตัวผมไม่ร้อนเลย ก้มมองมือตัวเอง...หรือว่าเราตายแล้วว่ะ!!?!?!?
มือเล็ก...เหมือนมือเด็ก ไม่ ๆ นี่ไม่ใช่มือผม!?!!?!?
“อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”กรีดร้องลั่นก่อนจะเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอน เหงื่อผุดไปทั่วร่าง ในห้องมีอาป๊าอาม๊าไอ้บอล พี่กับน้องมัน ตัวมันแล้วก็ อาโชติ อานัย สุดา แล้วก็อะ อาเสือ
ผมหอบหายใจมองหน้าทุกคนเลิ่กลั่ก
“มึงโอเคไหมกาว”ไอ้บอลถาม ผมไม่ตอบแต่กลืนน้ำลายลงคอสลับกับหอบหายใจ
“อาขอโทษ”อาเสือร้องก่อนจะพรมจูบที่ขมับ สุดาก็ร้องไห้
“ฝะ ฝัน”ผมร้อง
“อารู้ ๆ มันเป็นแค่ฝันไม่ได้เกิดขึ้นจริง...”ผมเคยฝันมาอย่างนี้หลายครั้ง มันน่ากลัวมากเลย ฮึก....มันน่ากลัวจนทนไม่ไหว
“อาจะพากลับบ้านนะ....อาขอโทษนะครับ”ผมไม่ตอบเหมือนอยู่ในอาการช็อคจากความฝันตัวเอง นั่งตัวสั่นและให้อาเสืออุ้มขึ้นรถ
“กลับดี ๆ นะ”
“ขอโทษด้วยครับที่มารบกวน”อาเสือบอกอาป๊าไอ้บอลแล้วพาขึ้นรถ อาเสือเอาผ้าห่มมาคลุมและอุ้มผมไว้ตลอดทาง มือเย็น ๆ ของตัวเองถูกสุดาบีบนวดให้รู้สึกสบายขึ้น
ตัวยังสั่นด้วยความกลัวไม่หาย
“โอ๊ย....”แรงถีบจากคนในท้อง ทำให้ดึงสติไปอีกทาง
“เป็นอะไรกาว!?!?!”อาเสือถาม ผมจับหน้าท้องตัวเองแล้วน้ำตาไหลไม่พูดอะไรต่อสักคำ
COMMENT PLEASE
เคืองอาเสือ ฮึ่มๆๆ แต่คิดว่าคงมีเหตุผลอะไรซักอย่าง ที่ยังยอมยัยคุณชะนีอรอยู่
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบกาวใจร้อนเกินไป
ตอบลบ